"สิงห์ พาราเทค" โชว์กำไรไตรมาส 3 ก่อนเข้าเทรดซื้อขายใน ตลาดหลักทรัพย์ฯ 19 ธ.ค.นี้ โดยมีกำไรสุทธิ 26.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89% เนื่อง จากมียอดขายเพิ่ม และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ด้าน"กันตนา"ยืนกรานเข้าตลาด หลักทรัพย์ฯไตรมาส 3/2547 ก่อนมาตรการภาษีของบริษัทจดทะเบียนจะหมดอายุ ลง ตั้งเป้าปีนี้มีรายได้โตขึ้นแตะ 1,500 ล้านบาท

นายสมจิตร โบว์เสรีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ พาราเทค จำกัด (มหาชน)(SINGHA) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุด 30 กันยายน 2546 ว่า บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 26.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.96 ล้านบาท คิดเป็นกำไร สุทธิต่อหุ้น 11.99 บาท ลดลงเมื่อเทียบจากช่วงเดียว กันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 23.65 บาท

ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 83.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 130% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของ ปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 36.32 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 37.97 บาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 61.56 บาท

ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 21.46 ล้านบาท คิดเป็น 24.13% เป็นผลจากการได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าเพิ่มขึ้น รวม ทั้งมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 1.75 ล้านบาท คิดเป็น 46.25% เพราะบริษัทฯ มีรายได้ส่วนใหญ่เป็นเงินตราต่างประเทศ เงินสกุล EURO ซึ่งเงินสกุลดังกล่าวมีค่าของเงิน แข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาท

รวมทั้งมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 2.66 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีการรับรู้รายได้จากเจ้าหนี้ที่ค้างนาน ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่ม ขึ้นเป็นจำนวนเงิน 5.13 ล้านบาท คิดเป็น 57.69% เนื่องจากบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายจากค่าขนส่ง และค่าระวางสินค้าส่งออกจากการขายและเงินเดือนเพิ่ม ขึ้น

SINGHA มีทุนจดทะเบียนรวม 320 ล้านบาท โดยบริษัทฯจะเข้าซื้อขาย ในตลาดหลักทรัพย์ฯวันที่ 19 ธ.ค.นี้ โดย มีราคาจองซื้อหุ้นละ21 บาท เงินที่ได้จาก การเพิ่มทุนจะใช้ขยายกำลังการผลิตไม้ พื้นสำเร็จรูปจาก 8.5 แสนตารางเมตรต่อปี เป็น 1.4 ล้านตารางเมตรต่อปี รวม ทั้งขยายโกดังจัดเก็บ โดยบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง วิเคราะห์ราคาหุ้น SINGHA เหมาะสมอยู่ที่ 29 บาท สูงกว่าราคาจองซื้อประมาณ 38%

กันตนายันเข้าตลท.แน่

นายสมชาย อินทรทูต ประธานกรรมการ บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯยืนยันมีแผนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯไตรมาส 3/2547 ซึ่งจะเร่งเสร็จก่อนมาตรการภาษี ของบริษัทจดทะเบียนจะหมดอายุเดือน กันยายน 2547 โดยได้แต่งตั้งให้บริษัท ทรีนีตี้ แอ็ดไวเซอรี่ 2001 เป็นที่ปรึกษา ทางการเงิน ซึ่งขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างทางธุรกิจ และตรวจสอบสินทรัพย์และหนี้สินของบริษัทในเครือฯ

สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 900-1,000 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการผลิตรายการในต่างประเทศ คาดว่าปีหน้าราย ได้จะเติบโตขึ้นเฉลี่ย 15%

ส่วนการเพิ่มทุน จะมากเท่าไรนั้น ยังไม่สามารถบอกได้ ปัจจุบัน กันตนา กรุ๊ป มีทุนจดทะเบียน 296 ล้านบาท สำหรับเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน จะนำไป ใช้ในการปรับโครงสร้างธุรกิจ และใช้เป็น เงินทุนหมุนเวียน

ปัจจุบัน กันตนา มีทุนจดทะเบียน 296 ล้านบาท โดยโครงสร้างรายได้บริษัทฯ มาจากผลิตรายการโทรทัศน์ 60%, ธุรกิจเทปและสิ่งพิมพ์ 20% และธุรกิจการผลิตภาพยนตร์และโฆษณา 20%