"อนันต์ อัศวโภคิน" นั่งแท่นเศรษฐี หุ้นแห่งปีติดต่อกัน 2 สมัย อานิสงส์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโตต่อเนื่อง
กลุ่มN-PARK หน้าใหม่ นำโดย "สว่าง มั่นคงเจริญ" ชักแถว เข้าทำเนียบเศรษฐีหุ้น
ด้าน "มาลีนนท์"ยังคงคว้าแชมป์ ตระกูลเศรษฐีหุ้น
วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับรองศาสตราจารย์ วีรวรรณ พูลพิพัฒน์ รองศาสตราจารย์
สุพพตา ปิยะเกศิน และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปรีชา อัศวเดชานุกร อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์
และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการจัดอันดับเศรษฐี หุ้นไทยต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้นับเป็นปีที่
9 แล้ว
สำหรับผลการจัดอันดับในวารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือน ธันวาคม 2546 ปรากฏว่าแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยในปี
2546 ตกเป็นของนายอนันต์ อัศวโภคิน ประธาน กรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์
แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งเป็น การครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม
16,373.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,515.21 ล้านบาทหรือ 66.09% ประกอบด้วยหุ้น แลนด์
แอนด์ เฮ้าส์ (L&H) 20.03% มูลค่า 16,365.86 ล้านบาท และหุ้นแมนดารินโฮเต็ล
(MANRIN) 1.67% มูลค่า 7.51 ล้านบาท
ส่วนเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ในปีนี้ตกเป็นของน.ส.พิณทองทา ชินวัตร ทายาทคนที่ 2 ของพ.ต.ท.
ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดย ถือหุ้นชิน คอร์ปอเรชั่น (SHIN) รวมมูลค่า 10,208
ล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน น.ส.พิณทองทา เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของชิน คอร์ปอเรชั่น
โดยถือหุ้น SHIN จำนวน 440 ล้าน หุ้น คิดเป็น 14.98% ตามติดด้วย นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์
พี่ชายของ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ซึ่งถือหุ้น SHIN สูงเป็นอันดับ 2 ในสัดส่วน 13.77%
มูลค่า 9,382.78 ล้านบาท ก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 3
ด้าน "เสี่ยโอ๊ค" นายพานทองแท้ ชินวัตร แม้ว่าจะตกลงมาเป็นผู้ถือหุ้น
SHIN ในอันดับ 3 โดยถือหุ้น 10.01% มูลค่า 6,819.65 ล้านบาท แต่ ก็ยังคงรักษาตำแหน่งเศรษฐีหุ้นอันดับ
4 เช่นเดียวกับปีที่แล้วเอาไว้ได้ โดยนอกจากหุ้น SHIN แล้วยังถือหุ้นธนาคารทหารไทย
(TMB) 2.97% มูลค่า 1,045 ล้านบาท รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครองทั้งสิ้น 7,864.65 ล้านบาท
อันดับอื่นๆที่น่าสนใจปรากฏว่า ปีนี้ นายเปรมชัย กรรณสูต กรรมการผู้จัดการ บมจ.อิตาเลียนไทย
ดีเวลลอปเมนต์ ก้าวขึ้นจากอันดับ 13 เมื่อปีที่แล้ว ขึ้นมานั่งเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ
5 โดยถือหุ้นอิตาเลียนไทย ดีเวลลอปเมนต์ (ITD) 22.07% มูลค่า 5,610.60 ล้านบาท
และหุ้นโรงแรม โอเรียนเต็ล (OHTL) 1.7% มูลค่า 82 ล้านบาท รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครองทั้งสิ้น
5,692.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 3,696.11 ล้านบาท หรือ 185.13%
N-PARK ชักแถวขึ้นแท่นเศรษฐีหุ้นใหม่
สำหรับกลุ่มเศรษฐีหุ้นหน้าใหม่ที่ขึ้นมาติดอันดับเศรษฐีหุ้นในปีนี้ที่โดดเด่นที่สุดก็คือ
กลุ่ม ผู้ถือหุ้นของ บมจ.แนเชอรัล พาร์ค (N-PARK) นำทีมโดย นางสว่าง มั่นคงเจริญ
อดีตผู้บริหาร บงล.ไทยรุ่งเรืองทรัสต์ ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานกลุ่มเจ้าหน้าที่บริหาร
บมจ.สยามซินเทค คอนสตรัคชั่น ก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 13 โดย ถือหุ้น N-PARK
8.94% รวมมูลค่า 3,456 ล้านบาท
ส่วนผู้ถือหุ้นอีก 6 คน ซึ่งถือหุ้น N-PARK ในสัดส่วนที่เท่ากันคือ 4.47% มูลค่า
1,728 ล้านบาท ก็ขึ้นมาติดอันดับเศรษฐีหุ้นด้วยเช่นกัน โดย อยู่ในอันดับ 27 ได้แก่
นายทวีศักดิ์ เล่าตระกูล นายประดิษฐ สินธวณรงค์ นางพรทิพย์ วงศ-ถาวรกิจ นางยุวดี
ว่องกุศลกิจ และนายเสริมสิน สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บมจ.แนเชอรัล พาร์ค
สำหรับ นายวิชญา จาติกวณิช ลูกชายเกษม และคุณหญิงชัชนี จาติกวนิช นอกจากจะถือหุ้น
N-PARK ในสัดส่วน 4.47% แล้ว ยังถือหุ้นเยนเนอรัล เอ็นจิเนียริ่ง (GEN) อีก 2.07%
มูลค่า 3.41 ล้านบาท รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครองทั้งสิ้น 1,731.42 ล้านบาท จึงส่งผลให้เป็นเศรษฐีหุ้นใน
อันดับ 26
นอกจากนี้ ยังมีผู้ถือหุ้น N-PARK อีก 2 คนซึ่งถือหุ้นในสัดส่วนรองลงมาที่ติดอันดับเศรษฐีหุ้นในปีนี้ด้วย
ได้แก่ เกรียงไกร เธียรนุกูล ถือหุ้น 4.22% มูลค่า 1,632 ล้านบาท เป็นเศรษฐี หุ้นอันดับ
33 และวิสาร องค์วรรณดี ถือหุ้น 4.20% มูลค่า 1,622.40 ล้านบาท เป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ
34
ทั้งนี้ นอกจากนายพานทองแท้ และน.ส. พิณทองทา ทายาทตระกูล"ชินวัตร"แล้ว
ปีนี้ยังมีทายาทนักการเมืองและนักธุรกิจของเมืองไทยเดินแถวเข้ามาติดทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยเป็นจำนวนมาก
เริ่มจากนายพิชญ์ โพธารามิก ลูกชาย ของนายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ขึ้นมาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 16 โดยถือหุ้นจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) 27.23%
และวอร์แรนต์ (JAS-W) 41.54% รวมมูลค่า 2,613.44 ล้านบาท
ส่วนแคทลีน และเทรซีแอนน์ มาลีนนท์ ทายาทรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประชา
มาลีนนท์ นั่งเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 23 โดยถือหุ้น BEC ในสัดส่วนที่เท่ากันคือ 3.93%
มูลค่า 1,854.25 ล้านบาท ด้าน น.ส.เพ็ญพรรณี หอรุ่งเรือง ทายาทสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง
เจ้าของ สโลแกน ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ติดทำเนียบเศรษฐี หุ้นอันดับ 49 โดยถือหุ้นเหมราช
พัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) และวอร์แรนต์ (HEMRAJ-W) มูลค่า 1,075.84 ล้านบาท และหุ้นซันเทค
กรุ๊ป (SUNTEC) 5.67 ล้านบาท รวมมูลค่าหุ้นทั้งสิ้น 1,081.51 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมี น.ส.ชินณิชา และยศชนันท์ วงศ์สวัสดิ์ ทายาทของน้องสาวนายกฯพ.ต.ท.
ทักษิณ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เจ้าของบมจ.เอ็ม ลิงค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น (MLINK)
ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือยักษ์ใหญ่ โดยชินณิชาก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ
138 ถือหุ้น MLINK 16.67% มูลค่า 355.50 ล้านบาท และยศชนันท์ เศรษฐีหุ้นอันดับ
148 ถือหุ้น MLINK 15.67% มูลค่า 334.17 ล้านบาท
ส่วน 3 ทายาทเนสกาแฟแห่งตระกูล "มหากิจศิริ" อุษณา เฉลิมชัย และ อุษณีย์
ก็ขึ้น มาติดอันดับเศรษฐีหุ้นในปีนี้เช่นกัน โดย น.ส. อุษณา มหากิจศิริ เป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ
171 ถือ หุ้นไทยฟิล์ม อินดัสทรีส์ (TFI) 5.13% มูลค่า 276.53 ล้านบาท ส่วนเฉลิมชัยและอุษณีย์
มหากิจศิริ ถือหุ้น TFI ในสัดส่วนที่เท่ากันคือ 5.01% มูลค่า 270 ล้านบาท เป็นเศรษฐีหุ้นในอันดับ
175
สำหรับแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นในปีนี้ ยังเป็นของตระกูลมาลีนนท์ โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม
26,711.69 ล้านบาท รองลงมาคือตระกูลอัศวโภคิน ยักษ์ใหญ่แห่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 19,880.99 ล้านบาท และ ตระกูลชินวัตร รวยเป็นอันดับ 3 ด้วยมูลค่าหุ้น
18,543.52 ล้านบาท