ตำรวจสอบสวนกลาง บุกรวบตัว "วีระ มานะคงตรีชีพ" อดีตผู้บริหารบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ซิทก้า
จำกัด (มหาชน) ฐานแสวงหาประโยชน์จาก บริษัทโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามหมายจับคดีอาญา
ก่อนนำตัวส่งสศก.ควบคุมตัว ยืนยันภายในสิ้นปี จะเร่งปิดคดีสถาบันการเงินที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ
เผยเตรียมรวบอดีตผู้บริหารไฟแนนซ์อีก 5 แห่งกว่า 10 คน
วานนี้ 10 ธ.ค. พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ ผู้บังคับการตำรวจกองปราบปราม (ผบก.ป.)
มอบหมายให้ พ.ต.ท.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ รอง ผกก.2ป. และ พ.ต.ต.วรพจน์ ดิษยบุตร สว.ผ3
กก.2ป. นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญาเลขที่ 4360 /2546 ลงวันที่ 10 ธ.ค. เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่
901 เดอะเพรส-ติง คอนโดมิเนียม เลขที่ 36-38 สุขุมวิท ซอย49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา
กทม. จากการตรวจ ค้นพบตัวนายวีระ มานะคงตรีชีพ อายุ 46 ปี อดีตกรรมการบริหารของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์
ซิทก้า จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาตามหมายจับกุมของศาลอาญา ที่ 3279/2546 ลงวันที่
2 พ.ค.2546 ฐานกระทำผิดในข้อหา เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินงาน ของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ซิทก้า
จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของบริษัท กระทำผิดหน้าที่ของตนโดยประการใดๆ
โดยทุจริตจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของบริษัท
กระทำการหรือไม่กระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น
อันเป็นการ เสียหายแก่บริษัท เป็นกรรมการผู้ครอบครองทรัพย์ สินของบริษัท เบียดบังเอาทรัพย์สินนั้นเป็นของตนหรือผู้อื่นโดยทุจริต
ก่อนควบคุมตัวนายวีระผู้ต้อง หาส่งมอบให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ ดำรงค์ศรีสกุล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
(รองผบช.ก.) พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ ผบก.ป.พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบก.ป.และ
พ.ต.อ.จารุวัศ ไวศยะ ผกก.3 ป.ทำการสอบปากคำ หลังจากนั้นนำตัวนายวีระไปควบคุมตัวไว้ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน
คดีเศรษฐกิจ (สศก.) และจะส่งตัวให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องต่อศาลต่อไป
รองผบช.ก. กล่าวภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จว่า การจับกุมครั้งนี้ได้รับมอบหมายจาก
ทางพล.ต.ท.วงกต มณีรินทร์ ผบช.ก.ซึ่งมีคำ สั่งแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนติดตามจับกุมคดีที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบันการเงินและกระทบ
ต่อภาวะเศรษกิจ และการจับกุมในวันนี้ถือว่าเป็นการจับกุมคดีแรก พร้อมเปิดเผยว่าภายใน
สิ้นปี 2546 จะเร่งปิดคดีฉ้อโกงบริษัทเงินทุน หลักทรัพย์ และบริษัทหลักทรัพย์ที่ค้างคาตั้งแต่
ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ตามคำร้องของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งล่าสุดมีคดีค้างการติดตามรวม
9 คดี มีผู้ต้องหาอีกกว่า 10 คน มูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฝ้าติดตามและคาดว่าจะสามารถจับกุมได้ในสัปดาห์หน้า
พร้อมยอมรับว่ากองบัญชาการสอบสวนกลาง มีความคืบหน้าล่าช้าในการดำเนินคดีเหล่านี้
เนื่องจากต้องใช้ตำรวจที่มีความเชี่ยว ชาญในการสอบสวนจากสศก. ซึ่งปัจจุบันมีกำลังพลน้อยเพื่อติดตามดำเนินคดีที่เกี่ยวกับความผิดทางเศรษฐกิจ
รายงานข่าวแจ้งว่าผู้ต้องหารายนี้เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสศก. จับกุมตัวเพื่อดำเนินคดีมาแล้วตั้งแต่ปีพ.ศ
.2538 และได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และคดียังคงอยู่ในระหว่างการรวบ
รวมพยานหลักฐาน ต่อเมื่อพนักงานสอบสวนได้รวบ รวมพยานหลักฐานแล้วเสร็จและออกหมายเรียกผู้ต้องหา
แต่นายวีระ มานะคงตรีชีพ ได้หลบเลี่ยงเจ้าพนักงานและไม่ยอมเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา
จึงจำเป็นต้องขออนุญาตต่อศาลอาญาเพื่อออกหมาย จับดังกล่าว จนกระทั่งมาจับกุมได้ในวันนี้
รายงานข่าว แจ้งเพิ่มเติมว่าหลังจากกองบัญชาการตำรวจสอบ สวนกลาง ดำเนินการสอบปากคำในวันนี้เสร็จสิ้นลง
ได้ส่งตัวผู้ต้องหาให้กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบ สวนคดีเศรษฐกิจดำเนินคดีต่อไป
สำหรับผู้ต้องหาอีกกว่า 10 คน นอกเหนือจาก บงล.ซิทก้า ประกอบด้วย ผู้บริหารจาก
5 ไฟแนนซ์ คือ บง.เอฟซีไออินเวสเมนท์ บง.นิธิภัทร บง.ไทย แคปปิตอล บงล.ธนภัทร บง.มหาทุน