10โบรกเกอร์พร้อมใช้10%ให้บริการ"คุณเน็ต"เม.ย.47


ผู้จัดการรายวัน(9 ธันวาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

โบรกเกอร์ 10 แห่งที่ใช้ระบบ ปฏิบัติการของตลาดหลักทรัพย์ยังไม่พร้อมเรียก หลักประกัน 10% ในการซื้อขายแบบ Net Settlement 1 ธ.ค.เนื่องจากระบบปฏิบัติการยังไม่พร้อม คาดเริ่มดำเนินการได้วันที่ 1 เม.ย. 2547

นายวราห์ สุจริตกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า กล่าวว่ายังไม่มีบริษัท หลักทรัพย์ให้ลูกค้าเริ่มใช้มาตรการวางหลักประกัน 10% เพื่อซื้อขายแบบหักกลบลบหนี้ในวันเดียว (เน็ตเซตเทิลเมนต์) ในวันที่ 1 ธ.ค. เนื่อง จากยังขาดความพร้อมเรื่องระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์

โดยเฉพาะบริษัทหลักทรัพย์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีกว่า 10 บริษัท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการให้ลูกค้าวางหลักประกันได้พร้อมกันวันที่ 1 เม.ย. 2547

"ตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทสมาชิก ยังอยู่ระหว่างหารือเกี่ยวกับรายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติของมาตรการนี้ คงจะหาข้อสรุปได้ในเดือนนี้ หลังจากกำหนดรายละเอียดของขั้นตอนการปฏิบัติแล้ว จะต้องใช้ระยะเวลาอีกพอสมควร เพื่อปรับปรุงระบบปฏิบัติการของบริษัท หลักทรัพย์แต่ละแห่ง รวมทั้งระบบปฏิบัติการของตลาดหลักทรัพย์ ให้สามารถตรวจสอบมูลค่าหุ้นคงเหลือในบัญชีของลูกค้าที่เล่นเน็ตเซตเทิลเมนต์ได้" นายวราห์กล่าว

รายละเอียดเบื้องต้น การซื้อขายแบบเน็ตเซตเทิลเมนต์ ควรต้องแยกบัญชีเน็ตเซตเทิลเมนต์ออกจากบัญชีเงินสด ลูกค้าที่ต้องการซื้อขายแบบเน็ตเซตเทิลเมนต์ ต้องแจ้งความต้องการกับบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นเจ้าของบัญชีรับทราบ หลักประกันที่ใช้ อาจเป็นเงินสด หรือหุ้นในบัญชีลูกค้า ซึ่งต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10% ของวงเงินซื้อขาย

อย่างไรก็ตาม การวางหลักประกัน 10% การซื้อขายแบบ Net Settlement คงไม่มีปัญหามาก เพราะลูกค้าส่วนมาก จะมีหุ้นอยู่ในพอร์ตอยู่แล้ว และการวางหลักประกัน 10% ก็เป็นสัดส่วนที่เล็กน้อย เท่าที่สอบถามลูกค้า ก็เข้าใจดี เชื่อว่ามาตรการนี้ จะไม่ส่งผลกระทบภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โดยรวม

เขากล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัทปัจจุบัน มีสาขาอิเล็กทรอนิกส์ (ไซเบอร์ บรานช์) 2 แห่งที่เปิดบริการลูกค้า บริษัทมีแผนจะปิดสาขาที่ถนนสุรวงศ์ กรุงเทพฯ ภายใน ม.ค. 2547

เพราะไม่มีผู้ใช้บริการ ส่วนสาขา อ.หาดใหญ่ สงขลา จะเปลี่ยนจากไซเบอร์บรานช์ เป็นศูนย์ฝึกหัดซื้อขายหลักทรัพย์ทางอินเทอร์เน็ต จะเปิดสาขาใหม่แทน ภายในสัปดาห์หน้า

สำหรับแผนดำเนินธุรกิจปีหน้า บริษัทจะเน้นขยายให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ทางอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก เนื่องจากใช้ต้นทุนต่ำ และให้บริการได้ครอบคลุม คาดว่าจะเปิดสาขา 10 จังหวัดขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ขณะที่งานด้านวาณิชธนกิจ คาดว่าจะนำบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 5-6 แห่ง มีมูลค่าระดมทุนรวมกันกว่า 1 หมื่นล้านบาท



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.