ภาครัฐ-เอกชนหารือตั้ง"ศูนย์อสังหาริมทรัพย์"คาด ปีหน้าเริ่มได้ ในเบื้องต้นกระทรวงการคลังจะเป็นแกน
เพื่อสนับสนุนธุรกิจอสังหาฯที่เติบโตต่อเนื่อง ด้านนายกสมาคมอสังหาฯเผยต้องการเห็นภาคธุรกิจเติบโตแบบบูรณาการ
ด้านแบงก์พาณิชย์เดินหน้าลุย สินเชื่อที่อยู่อาศัยต่อ ชี้ปีหน้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยโต
15-20%
นายโชคชัย บรรลุทางธรรม นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการหารือกับกระทรวงการคลัง
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ธนาคารอาคาร สงเคราะห์ และผู้ประกอบการ เพื่อจัดตั้งศูนย์อสังหาริมทรัพย์
โดยในเบื้องต้นจะให้กระทรวงการคลังเป็นหลักในการจัดตั้ง คาดว่าสามารถ จัดตั้งได้ภายในปีหน้า
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ฟื้นตัวอย่างมาก ซึ่งสมาคมฯต้องการที่จะให้ภาคอสังหาฯมีการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
จึงได้มีการจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาฯ ภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจ ตลาดเงินและตลาดทุน
ที่จะเป็นข้อมูลให้กับผู้ประกอบการใช้ในการดำเนินธุรกิจซึ่งข้อมูลต่างๆ จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะปัจจุบัน
แหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์กล่าวว่า ขณะนี้ธุรกิจอสังหาฯมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งจึงมองลูกค้ากลุ่ม ดังกล่าวไว้ ทั้งรายย่อยและโครงการ
โดยมองว่าภาพรวมของธุรกิจอสังหา- ริมทรัพย์ในปีหน้าจะมีอัตราการเติบโต อยู่ที่ระดับ
15% ดังนั้น ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งมีการตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปีหน้าเติบโตประมาณ
15-20% ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งระบบ
จากการขยายตัวของธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ทำให้ธนาคารพาณิชย์ จะต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจมากยิ่งขึ้น
เพื่อนำมาพิจารณาในการปล่อยสินเชื่อ ให้กับลูกค้า ทั้งสินเชื่อที่อยู่อาศัยของรายย่อยและสินเชื่อโครงการ
ซึ่งการจัดตั้งศูนย์อสังหาฯจะมีประโยชน์ อย่างมากในการดูข้อมูลพื้นฐานของภาพรวมธุรกิจ
รวมทั้งข้อมูลของ ผู้ประกอบการที่จะทำโครงการใหม่ๆ ที่ ต้องมีการขอสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์
อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งศูนย์อสังหาริมทรัพย์นั้น ต้องดูรายละเอียดว่าใครเป็นคนตั้ง
มีข้อมูลมากน้อยแค่ไหน เพราะหากเป็นภาคเอกชนหรือผู้ประกอบการนั้นจะเป็น การได้ข้อมูลด้านเดียว
ควรที่จะมีทางการเข้ามาร่วมอยู่ด้วยข้อมูลจึงจะสมบูรณ์
แบงก์ดันสินเชื่อที่อยู่อาศัยโตต่อเนื่อง
นางลัดดาวัลย์ ธนะธนิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด กล่าวว่า
ธนาคารได้เสนอแผนสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กับผู้บริหารได้พิจารณา โดยมีการตั้งเป้าขยายตัวใกล้เคียงกับปีนี้
ซึ่งเชื่อว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังคงเติบโตต่อเนื่อง เพราะยังมีประชาชนที่ต้องการที่อยู่อาศัยอีกมาก
รวมทั้งอัตราดอกเบี้ย ที่อยู่ในปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำจูงใจต่อการขอสินเชื่อ
สำหรับมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีเพดานสินเชื่อสำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านราคา
10 ล้านบาทขึ้นไป ธนาคารพาณิชย์สามารถปล่อยสินเชื่อได้เพียง 70% นั้น ไม่กระทบกับธนาคาร
เนื่องจากที่ผ่านมา การปล่อยสินเชื่อของธนาคารมีความระมัดระวัง อีกทั้งกลุ่มลูกค้าประเภทระดับราคาบ้านแพงกว่า
10 ล้านบาทมีเพียง 10% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด จึงไม่มีปัญหา อีกทั้งธนาคารได้ปล่อย
สินเชื่อในระดับ 70% ของราคาบ้านอยู่แล้ว
ด้านธนาคารกสิกรไทย จำกัดกล่าวว่า ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวประมาณ
20% จาก สินเชื่อที่อยู่อาศัยในพอร์ตประมาณ 50,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวนเงินประมาณ
20,000 ล้านบาท โดย มองว่าประชาชนยังคงมีความต้องบ้าน อีกจำนวนมาก รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจ
เริ่มฟื้นตัวรายได้ของประชาชนจึงมีเพิ่มขึ้น