"ห้องค้าส่วนตัว" เป็นวลีที่บริษัทเซ็ทเทรด ดอท คอม นำมาใช้ในการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ลงทุนหันมาให้ความสำคัญกับการใช้ช่องทางอินเทอร์เน็ตในการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น
ซึ่งวลีดังกล่าวกินความหมายค่อนข้างลึกซึ้ง
พัฒนาการของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ที่มีความคืบหน้าขึ้นทุกวัน ทำให้แนวโน้มในอนาคต
นักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดหุ้น อาจไม่จำเป็นต้องพึ่งพาห้องค้า
และเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัทหลักทรัพย์อีกต่อไปแล้ว
ด้วยเทคโนโลยีดังกล่าว ทำให้ทุกวันนี้นักลงทุนสามารถเข้าไปสืบค้นข้อมูลได้ทุกประเภทจากอินเทอร์เน็ต
เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจลงทุน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลประกอบการ
และข่าวของบริษัทจดทะเบียน ดูกราฟดัชนี และราคาหุ้นย้อนหลัง ประกอบกับเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิค
ตลอดจนบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์
"แม้แต่ข่าวลือหรือข่าวอินไซด์ ก็มีการโพสต์กันไว้ในเว็บบอร์ดหลายแห่ง"
การเข้าไปสืบค้นข้อมูลเหล่านี้ในอินเทอร์เน็ต ไม่แตกต่างจากการเข้าไปนั่งคุย
หรือโทรศัพท์พูดคุยกับเจ้าหน้าที่การตลาดในห้องค้า เพราะต้นทางของข้อมูลก็มาจากแหล่งที่ใกล้เคียงกัน
เมื่อนักลงทุนตัดสินใจได้แล้วว่าจะซื้อหรือขายหุ้นตัวใด การทำรายการก็สามารถทำได้ง่ายๆ
ด้วยการส่งคำสั่งซื้อ หรือขายโดยตรงเข้าไปยังระบบของตลาดหลักทรัพย์ ผ่านบัญชีซื้อขายหุ้นทางอินเทอร์เน็ตที่เปิดไว้กับบริษัทสมาชิก
แม้หลายคนมองว่าความนิยมในการซื้อขายหุ้นผ่านทางอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วง
1 ปีที่ผ่านมา เกิดจากต้นทุนที่แตกต่างกัน เพราะการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นทางอินเทอร์เน็ต
ตลาดหลักทรัพย์คิดค่านายหน้าเพียง 0.21% ขณะที่การส่งคำสั่งซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัทหลักทรัพย์
คิดค่านายหน้า 0.25%
แต่นี่ก็เป็นเพียงเหตุผลหนึ่งเท่านั้น เพราะยังมีนักลงทุนจำนวนมาก ที่เห็นว่าการใช้อินเทอร์เน็ตเข้ามาช่วยในการซื้อขาย ทำให้เขามีสมาธิที่ดีกว่า มองเห็นภาพรวมของตลาดที่กว้างกว่า
และสามารถตัดสินใจ ได้ด้วยวิจารณญาณของตัวเอง โดยไม่มีเรื่องสภาพบรรยากาศและอารมณ์ของตลาดเข้ามาเป็นตัวแปร
ทั้ง 2 ปัจจัยเคยทำให้นักลงทุนหลายรายตัดสินใจผิดพลาด จนเกิดความเสียหายมาแล้วบ่อยครั้งในอดีต
แนวโน้มของนักลงทุนกลุ่มนี้กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
"คนที่ซื้อขายหุ้นเป็นอาชีพ เขาอาจ ไม่ชอบช่องทางนี้ เพราะเขาเคยชินกับสภาพของห้องค้าที่มีบรรยากาศตื่นเต้น เร่งเร้าให้เกิดการตัดสินใจ มีข่าวสาร
ข้อมูลต่างๆ ที่หลั่งไหลออกมาจากมาร์เก็ตติ้ง หรือเพื่อนนักลงทุนด้วยกัน"
ดร.วิทยาเปรียบเทียบ
ในทางตรงข้าม ช่องทางนี้กำลังเป็น บันไดที่ทำให้นักลงทุนคนไทย ก้าวขึ้นไปสู่การเป็นนักลงทุน
"มืออาชีพ" มากขึ้น