รูปโฉมใหม่ "แม็คโคร" เชียงราย


นิตยสารผู้จัดการ( ธันวาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

ลมหนาวแรกของปี 2546 พัดผ่านเข้ามาพร้อมกับการเปิดตัวแม็คโครสาขาล่าสุดบนถนนซูเปอร์ไฮเวย์ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เพื่อให้บรรดาหมู่เฮาชาวเหนือได้รับความสะดวกยิ่งขึ้นในการซื้อหาสินค้าต่างๆ

แม็คโคร สาขาเชียงราย เป็นสาขาที่ 23 ในเมืองไทย และ เป็นสาขาที่ 4 ของภาคเหนือ (เชียงใหม่, พิษณุโลก, นครสวรรค์) จุดเด่นสำคัญของที่นี่คือความชัดเจนในการปรับกระบวนยุทธ์ในการแข่งขันด้วยการลดขนาดพื้นที่ลง เหลือเพียง 5,550 ตาราง เมตร เป็นการเปลี่ยนรูปโฉมจากสโตร์แบบเก่า สู่รูปลักษณ์แบบใหม่ที่มั่นใจว่าจะสามารถสร้างประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ได้อย่างดีที่สุด

เป็นการชูกลยุทธ์ ต้นทุนต่ำ กำไรต่ำ แต่ขายในปริมาณมาก ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับสาขาที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสาขาต้นแบบ และทำการทดลองตลาดไปแล้ว

สุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) บอกถึงเหตุผลที่ตัดสินใจปักธงที่เชียงราย ว่า "เชียงรายเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางการค้าที่สำคัญมาก ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เพราะเป็นศูนย์รวมแหล่งท่องเที่ยวและ ธุรกิจการค้าทั้งกับจังหวัดใกล้เคียงและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เชียงรายมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อย่างต่อเนื่องเกือบร้อยละ 7 ต่อปี และมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต"

"สาขาเชียงราย จะมีรูปแบบเดียวกับสาขานครศรีธรรมราช ซึ่งจะใช้เป็นสโตร์ต้นแบบต่อไป โดยพยายามลดต้นทุนในทุกด้าน เช่น ขนาดโครงการลดลง ไม่ติดแอร์ ซึ่งสามารถลด ต้นทุนได้ถึง 15% พร้อมทั้งเปิดแผนกอาหารสดที่มีทั้งผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ พร้อมเครื่องปรุงและส่วนผสม สำหรับอาหารหลากหลายประเภท เพราะจุดแข็งของแม็คโครคือ อาหาร เราจึงเน้นพัฒนาในส่วนของอาหารสด และอาหารแช่แข็งเป็นหลัก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ประกอบธุรกิจ ร้านอาหาร ภัตตาคารและโรงแรม โดยจะทยอยเปิดบริการครบทุกสาขาในไม่ช้านี้" สุชาดากล่าวเพิ่มเติม

ในส่วนของผลประกอบการ 3 ไตรมาสที่ผ่านมา แม็คโครมียอดขาย 29,653 ล้านบาท เติบโต 6% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีผลกำไร 622 ล้านบาท ลดลง 3% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการขายบริษัทในเครือออกไปคือบริษัท แม็คโคร ออโต้ แคร์ (MAX) จำกัด คาดว่ายอดขายรวมทั้งปีประมาณ 40,000 ล้านบาท

ปัจจุบัน แม็คโคร ศูนย์ค้าส่งแบบชำระด้วยเงินสดและบริการตนเอง (cash & carry) มีสาขารวมทั้งสิ้น 23 สาขา โดยมี 8 สาขาในกรุงเทพฯ และ 15 สาขาในต่างจังหวัด แบ่งออกเป็นภาคเหนือ 4 สาขา ภาคกลางและตะวันออก 3 สาขา ภาคอีสาน 5 สาขา และภาคใต้ 3 สาขา สำหรับแผนการในปีหน้าเตรียมเปิดเพิ่มอีกอย่างน้อย 3 สาขา ขณะนี้ได้รับใบอนุญาตแล้ว 5 แห่ง โดยจะไม่เปิดสาขาในกรุงเทพฯ เพิ่มอีกโดยจะเน้นปรับปรุงให้ได้คุณภาพมากขึ้น



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.