หุ้น"การบินไทย"หลุดจองกลยุทธ์จ่ายปันผลไม่ช่วย


ผู้จัดการรายวัน(28 พฤศจิกายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

"การบินไทย" ทำนักลงทุนผิดหวัง หุ้นเพิ่มทุนเข้าซื้อขายวันแรกปิดที่ 49 บาท ต่ำกว่าราคาจอง 1 บาท วอลุ่มสูง เป็นอันดับหนึ่งกว่า 1 พันล้านบาท แม้บอร์ดบริหารพยายามดันราคาด้วยการอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2545/2546 เพิ่มอีก หุ้นละ 1 บาท ขณะที่โบรกเกอร์ เชียร์ซื้อลงทุน มั่นใจราคาปรับขึ้น เหนือจองแน่ เพราะราคาเป้าหมายปีหน้าอยู่ที่ 60.40 บาท

วานนี้ (27 พ.ย.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้อนุญาตให้หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ในส่วนที่เสนอขายให้กับนักลงทุนจำนวน 485 ล้านบาท เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เป็นวันแรก

ทั้งนี้ การบินไทย ได้แบ่งเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน 60 ล้านหุ้น ส่วนที่เหลือเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบัน โดยเสนอขายผ่านธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง คือ ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารธนชาต ในราคาหุ้นละ 50 บาท

บรรยากาศการซื้อขายหุ้นวันแรก ปรากฏว่า หุ้นการบินไทยไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากนัก ส่งผลให้ราคา หุ้นเคลื่อนไหวอยู่ใกล้เคียงกับราคาเสนอขายที่หุ้นละ 50 บาท โดยเปิดการซื้อขายที่ 50 บาท และปรับตัวเพิ่มขึ้นไปสูงสุดที่ 50.50 บาท ก่อนจะปรับตัวลดลงมาต่ำสุดและปิดตลาดหลักทรัพย์ที่ 49 บาท ลดลงจากวันก่อน 2.50 บาท หรือลดลง 4.85% มูลค่าการซื้อขายสูงสุด เป็นอันดับ 1 รวม 1,087.84 ล้านบาท

จากราคาในตลาดที่เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่หุ้นละ 49 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาจอง หรือทำให้ประชาชนที่จองซื้อหุ้น ขาดทุนถึงหุ้นละ 1 บาท แม้ว่าในวันเดียวกันนี้ บริษัทการบินไทย จะได้ประกาศจ่ายเงิน ปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 1 บาท แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ราคาในกระดานยืนเหนือราคาจองได้

โดยในช่วงเช้าบริษัทการบินไทยได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบ การงวดปี 2545/2546 ให้กับผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ1 บาท กำหนดจ่ายภายใน 30 วัน หลังประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2546 โดยบริษัทกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 5 มกราคม 2547

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในการประชุม คณะกรรมการบริษัทการบินไทย เมื่อ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีมติจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 1 บาท สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งแรกของปี 2545/2546 ซึ่งจะจ่ายวันที่ 28 พฤศจิกายน 2546 นี้

นางสาวสุภากร สุจิรัตน์วิมล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทย กล่าวว่า การที่หุ้นการบิน ไทยไม่สามารถสร้างอัตราผลตอบแทนในระดับราคาไม่สูง เนื่องจากจำนวนหุ้นที่มีมาก และนักลงทุนที่เข้าลงทุนในช่วงจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนส่วนใหญ่ เป็นนักลงทุนสถาบัน มากกว่ารายย่อย และมีเป้าหมายการลงทุนระยะยาว จึงทำให้ไม่มีการไล่ซื้อหรือเทขายเพื่อหวังทำกำไร

"ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง แต่น่าจะกลับมายืนที่ระดับสูงกว่า 50 บาทได้ ซึ่งจากการทำประมาณการผลการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าในงวดปี 2547 คาดว่าบริษัทจะมีกำไร 1.017 หมื่นล้านบาท ซึ่งไม่นับรวมกำไรที่ได้จากการอัตราแลกเปลี่ยน และความสามารถในการทำกำไรจะมีอัตราการเติบโตไม่สูงหรือประมาณ 6% แม้ว่าจะมีจำนวนเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น แต่ ณ ปัจจุบัน บริษัทก็ยังแนะนำให้นักลงทุนเข้าลงทุน"

โดยปัจจัยหลักๆ ที่จะสนับ สนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมายืนเหนือราคา คือ ราคา ณ ปัจจุบัน เคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าราคาเป้าหมาย โดยบริษัทประเมินไว้ที่ราคา 60.40 บาท คือมูลค่าที่เหมาะสม ในปี 2547 ดังนั้นจึงแนะนำให้ซื้อเพื่อลงทุน เพราะมั่นใจว่า ภายหลังจากที่บริษัทมีการปรับโครงสร้างภายในแล้วจะได้รับผลดี เพราะบริษัทสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายลดลงจากเดิมอยู่ที่ 23.4% เหลือ 22.3%

นางสาวสุภากร กล่าวถึงเรื่องของการ ที่จะมีสายการบินใหม่ โลว์คอสต์แอร์ไลน์ว่า จะมีผลกระทบกับการดำเนินงานของบริษัทการบินไทยอยู่บ้างแต่คงไม่มาก เนื่องจากบริษัทการบินไทยเองคงจะมีการปรับกลยุทธ์ ด้วยการปรับราคาตามด้วย เพื่อทำให้สามารถ ดึงส่วนแบ่งตลาดของลูกค้าในระดับล่างกลับมาได้บ้าง

นายจักรฤกษ เจริญเมธาชัย ผู้ช่วย ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไอบี กล่าวว่า การที่หุ้นการบินไทยไม่สามารถปรับตัวได้แรงเนื่องจากเป็นหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจน้อย เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีจุดเสียในเรื่องของความโปร่งใสในการทำงาน และเรื่องธรรมาภิบาลที่ดี ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่มีความเชื่อมั่นในจุดนี้

รวมทั้ง การเป็นเครื่องมือทางการเมืองทำให้มีผู้ใช้บริการจำนวนมากได้รับสิทธิในการขึ้นเครื่องบินฟรี ทำให้เป็นช่องโหว่ในการหารายได้ของบริษัท รวมถึงการมีสายการบินไทยอย่างโลว์คอสต์แอร์ไลน์ขึ้นมาจะทำให้ถูกแย่งรายได้ไป สำหรับราคามูลค่า ที่เหมาะสมในปีนี้อยู่ที่ 50 บาท และปี 2547 อยู่ที่ 55 บาท



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.