Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 พฤศจิกายน 2546
"ธปท."จับมือแบงก์ชาติลาวเปิดเครดิตไลน์หนุนเงินกีบ             
 


   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารชาติแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ปรีดิยาธร เทวกุล, ม.ร.ว.
พูมี ทิปพะวอน
Banking




ธปท.รับบทพระเอกช่วยสร้างเสถียรภาพ ค่าเงินกีบของลาวเพื่อนบ้านใกล้ชิด ลงนามข้อตกลงกับธนาคารแห่งชาติลาวความร่วมมือ 4 ด้าน รวมทั้งการเปิดเครดิตไลน์ สนับสนุนการชำระเงินผ่านระบบธนาคารระหว่างพ่อค้าไทยลาวให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เผยก่อนหน้านี้ เงินกีบ ถูกเมินหนัก จนลาวคิดแก้เกมด้วยการลดปริมาณซื้อสินค้าไทย

พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (เอ็มโอยู) ระหว่าง ธนาคารชาติแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และธนาคารแห่งประเทศไทย มีขึ้นที่โรงแรมลาวพลาซ่า กรุงเวียงจันทน์ เมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการลงนามครั้งนี้ว่า เพื่อต้องการสร้างความร่วมมือระหว่างธนาคารกลางของทั้งสองประเทศ เพื่อสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างไทย-ลาวให้ขยายตัวยิ่งขึ้น ดังนั้นทั้ง 2 ธนาคารกลางจึงเห็นชอบที่จะร่วมมือกันจัดทำบันทึกความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวก สร้างความเชื่อมั่นในการชำระเงินระหว่างทั้งสองประเทศโดยมีขอบเขต ของความร่วมมือทั้งหมด 4 ด้าน ประกอบด้วย

1.การเสริมสร้างเสถียรภาพและความเชื่อมั่น ในการใช้สกุลเงินบาทและเงินกีบเพื่อการชำระ ธุรกรรมทางการค้าและบริการ และการลงทุนของทั้งสองประเทศ โดยทั้งสองธนาคารเห็นควรให้เปิดเครดิตไลน์ ระหว่างกัน โดยธนาคารแห่งประเทศไทย จะเปิดบัญชีเงินกีบไว้กับธนาคารชาติลาว และธนาคารชาติลาวจะเปิดบัญชีเงินบาทไว้กับธนาคารแห่งประเทศไทย สำหรับวงเงินเครดิตไลน์ ทั้งสองธนาคารจะมีการหารือกันในรายละเอียดภายหลัง

ทั้งนี้ เครดิตไลน์ดังกล่าว จะทำหน้าที่สนับสนุนธนาคารพาณิชย์ในประเทศคู่ค้าในการปล่อยกู้ให้กับนักธุรกิจเพื่อนำไปชำระค่าสินค้าและบริการ

2.พัฒนาการชำระเงินที่เกิดจากธุรกรรมการค้า การลงทุนของทั้งสองประเทศให้มีประสิทธิภาพทั้งการค้ารายใหญ่ที่ชำระเงินผ่านระบบธนาคาร และการค้ารายย่อยตามแนวชายแดน โดยรายละเอียดนั้นธนาคารกลางทั้งสองแห่งจะแลกเปลี่ยนและตกลงกันในแต่ละประเด็นภายหลัง

3.สนับสนุนให้ผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ของไทยและธนาคารธุรกิจในสปป.ลาว ได้ติดต่อประสานงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อขยายขอบเขตธุรกิจสนับสนุนซึ่งกันและกัน ในการบริการทางการเงินและด้านอื่นๆ

4.ธนาคารชาติสปป.ลาว และธนาคารแห่งประเทศไทย ตกลงร่วมมือกันค้นคว้าวิจัยทางด้านวิชาการ การสนับสนุนทางด้านวิชาการและเทคนิค เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบการเงินการธนาคารและการชำระเงินระหว่างประเทศทั้งสอง

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวอีกว่า การลงนามในความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อให้การใช้เงินกีบและเงินบาทในการค้าของทั้งสองประเทศเข้ามาในระบบการค้าให้มากที่สุด เพื่อลดปริมาณการค้านอกระบบ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีการอำนวยความสะดวกให้กับพ่อค้าเท่าที่ควร

ทั้งนี้ การเปิดเครดิตไลน์ของธนาคารชาติทั้งสอง เชื่อว่าน่าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการจ่ายเงินค่าสินค้าและบริการระหว่างกับโดยผ่านระบบธนาคารพาณิชย์ได้ง่ายขึ้น เพราะหากธนาคารพาณิชย์ที่นักธุรกิจใช้บริการ ขาดเงินบาทหรือเงินกีบ แล้วแต่กรณี ก็สามารถเบิกจากเครดิตไลน์ของธนาคารกลางของประเทศนั้นๆ ได้

ด้านนายพูมี ทิบพะวอน ผู้ว่าการธนาคารชาติสปป.ลาว กล่าวว่า การตกลงในเอ็มโอยูครั้งนี้ จะเป็นแบบอย่างในความร่วมมือทางด้านการเงินระหว่างไทย-ลาวที่จะทำให้การค้าการลงทุนระหว่าง ประเทศทั้งสอง ขยายตัวมากขึ้น เป็นการสะสางปัญหาระบบการให้บริการทางการเงินที่มีมานาน

นายพูมียังได้เรียกร้องให้นักธุรกิจมาใช้บริการชำระเงินโดยผ่านทางธนาคารให้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้เงินกีบของลาวมีเสถียรภาพมากกว่าเดิม จากที่ผ่านมา เงินกีบมีปัญหาการอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพ่อค้ามักจะใช้เฉพาะเงินบาทหรือเงินดอลลาร์ ในการชำระค่าสินค้าเท่านั้น

รายงานข่าวระบุว่า การลงนามในข้อตกลงระหว่างธนาคารชาติของลาวกับธนาคารแห่งประเทศไทยครั้งนี้ มีจุดประสงค์หลักคือการสร้างความเข้มแข็งให้กับค่าเงินกีบ ซึ่งที่ผ่านมามักจะมีค่าผันผวนตลอด จากปัญหาที่ลาวขาดดุลการค้ากับไทยในปริมาณที่ค่อนข้างมากและมีอัตราที่เพิ่มขึ้นทุกปี และการที่ค่าเงินกีบไม่มีความแน่นอนทำให้พ่อค้าไทย ไม่ยอมรับเงินกีบเป็นค่าสินค้า กลายเป็นปัญหาที่จะย้อนกลับมาถึงฝั่งไทย เมื่อทางลาวพยายามลดการพึ่งพิงไทยและหันไปซื้อสินค้าจากจีนและเวียดนามในสัดส่วนที่มากขึ้นเนื่องจากพ่อค้าในทั้งสองประเทศให้การยอมรับ ค่าเงินกีบมากกว่าพ่อค้าไทย ดังนั้นการสร้าง สเถียรภาพค่าเงินกีบจึงเป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยด้วย หากยังต้องการให้ปริมาณการค้าไทย-ลาวขยายตัวต่อไป

สำหรับมูลค่าการค้าไทย-ลาวในปี 2546 จากเดือนมกราคมจนถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีรวมกันทั้งสิ้น 35,146 ล้านบาท แบ่งเป็นการค้าระหว่างประเทศในมูลค่า 17,924 ล้านบาทและการค้าชายแดน 17,222 ล้านบาท โดยฝ่ายลาวนำเข้าสินค้าจากไทยถึง 28,602 ล้านบาท แต่ส่งออกสินค้ามายังไทยเพียง 6,544 ล้านบาท ทำให้ลาวขาดดุลการค้ากับไทยถึง 22,058 ล้านบาท เพิ่มขึ้นในอัตรามากกว่า 9% เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2545

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us