GOLD ฟุ้งกำไรไตรมาส 3 ก้าวกระโดด 102% คาดสิ้นปี นี้กำไรเพิ่มไม่ต่ำกว่า 100%
จากปีที่แล้ว แจงฝีมือการบริหารและมีแลนด์แบงก์เก็บตุนไว้ในราคาต่ำและทำเลเยี่ยม
ส่ง ผลให้โครงการที่พัฒนาขายในอนาคต ทำรายได้งาม เตรียมเปิดโครงการใหม่ รองรับความต้องการ
มร.เลียแค็ท สุลต่าน แดนจี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแผ่นดิน ทอง พร็อพเพอตี้
ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (GOLD) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ของบริษัทว่า
มีกำไรสุทธิ 134.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก งวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร66.54 ล้านบาท
หรือเพิ่มขึ้น 102% ขณะที่งวด 9 เดือนมีรายได้สุทธิ 341.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มี
63.20 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 440%
เนื่องจากรายได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ขยายเกือบเท่าตัว และคาดว่าเมื่อสิ้นปี 2546
รายได้รวมของบริษัทน่าจะมากกว่า 100%เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้ GOLD
พยายามที่จะทำกำไรให้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอย่างต่ำ 100% และเมื่อสิ้นไตรมาส 3
ตัวเลขก็เป็นไปตามเป้าหมาย แต่เมื่อปี 2545 กำไรของบริษัทครึ่งหนึ่งมาจากการปรับโครงสร้างหนี้
แต่กำไรในปีนี้มาจากผลดำเนินงานของบริษัทล้วนๆ
"เป็นการชี้ชัดว่าธุรกิจของเราสามารถทำกำไรได้ และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
เราคาดว่าตลาดอสังหาฯ จะบูม เรามีทีมบริหารและที่ดินที่ซื้อเก็บไว้เพื่อพัฒนารองรับการเติบโตและความต้องการลูกค้า
และเราก็ประสบผลสำเร็จ"
โดยปีนี้ GOLD เน้นตลาดบ้านเป็นหลักเพราะเป็นตลาดแรกที่กลับมาในปีนี้ และตลาดนี้ก็ยังมีการแข่งขันสูง
เนื่องจากมีผู้ประกอบการใหม่ ๆ ให้ความสนใจธุรกิจและเข้ามาธุรกิจนี้มากขึ้น
นายธวชัย คุณากรปรมัตถ์ กรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจเปิดเผย ว่า
แม้การแข่งขันของธุรกิจบ้านจัดสรรจะดุเดือด แต่การที่ GOLD มีที่ดินเก็บไว้จำนวนมากในช่วง
ที่ผ่านมาและได้ทำเลที่ดี จะทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มต่อการสร้างโครงการเพื่อขายได้และมั่นใจว่าจาก
ความชำนาญในการสร้างบ้านในตลาดบน และการเน้นโลเกชั่นในการสร้าง จะเป็นสิ่งดึงดูดใจลูกค้า
"ที่ดินเราซื้อมาราคาถูกในช่วงที่เศรษฐกิจแย่ และเมื่อถึงเวลาที่เราพัฒนาพื้นที่เหล่านั้นเพื่อขาย
เราจึงสามารถแข่งขันราคากับคู่แข่งได้ และผมเชื่อว่ากรอสมาร์จิ้นของเราจะไม่ต่ำกว่า
40% จากที่ผ่านมาเรามีประมาณ 38%"
โดยโครงการที่ขายหมดแล้วของ GOLD คือ บ้านลาดพร้าวบนพื้นที่ 120 ไร่ บ้านเดี่ยว
สไตล์หรู โครงการบ้านรามอินทรา บ้านเดี่ยว 124 หลัง บนพื้นที่ 36 ไร่ และโครงการบ้านรามคำแหง
และมีคนเข้าพักอาศัยกว่า 80% ส่วนโครงการ เมย์แฟร์ แมริออท ที่พักอาศัยพร้อมอยู่
28 ชั้นในซอยหลังสวน 164 หน่วย จองเต็มแล้ว
นอกจากนี้ GOLD ยังมีแผนที่จะขยายไปธุรกิจ เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ และที่พักอาศัยอีก
2-3 โครงการ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเจรจากับผู้บริหาร โครงการชั้นนำระดับโลกอย่าง
แมริออทอยู่ และยังมีโครงการที่อยู่ในช่วงพิจารณาอีก อาทิ โครงการรีสอร์ตริมหาด
106 ไร่ ที่กระบี่ และ โครงการที่พักอาศัยสุดหรูบนถนนวิทยุ โครงการ โปโล เรสซิเดนซ์
ที่เพิ่งเริ่มต้นและคาดว่าจะเสร็จ ในอีก 5-7 ปีข้างหน้า และกำลังจะเปิดตัวในช่วง
ไตรมาสแรกของปีหน้า ได้แก่ โครงการแอสคอร์ท แบงค็อค เป็นโครงการที่พักอาศัยขนาด
43,000 ตารางเมตร บนถนนสาทร
สำหรับโครงการที่เปิดและจะรับรู้รายได้ต่อเนื่องในปี47 คือ โกลเดนท์ ลีเกจ ที่สาทร
ปีนี้ขายได้ 2 พันล้านบาทและปี47 จะขายที่ประมาณ 1,600 ล้านบาท โครงการโกลเดนท์
นครา ที่ศรีนครินทร์ ยอดขายปีนี้ 500 ล้านบาท ปี47 ประมาณ 1,500-1,600 ล้านบาท
โกลเดนท์ เฮริเตจ ปิ่นเกล้ายอด ขายปีนี้ 400 ล้านบาท ปี47 ประมาณ 1,600 ล้านบาท
เป็นต้น
สำหรับปี 2547 โครงการย่านธุรกิจใจกลาง เมือง (Central Business District :CDB)
GOLD จะเป็นตัวที่ทำรายได้ให้กับบริษัท ด้วยแผนแนะนำโครงการคอนโดมิเนียมหรู ขนาด
4 หมื่น-6 หมื่นตารางเมตร โดยในช่วงแนะนำ เพื่อความสะดวกและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและนักลงทุน
บริษัท มีการอนุมัติสินเชื่อล่วงหน้า และเปิดบัญชีเอสโครว์ หรือ สัญญาเพื่อรองรับความเสี่ยงจาก
เจ้าของโครงการที่ออกให้กับลูกค้า โดยมีธนาคาร เป็นผู้รับรองว่าหากโครงการไม่เสร็จลูกค้าจะได้เงินดาวน์คืน
อย่างไรก็ดี GOLD ยังพัฒนาโครงการ CBD ทั้งเพื่อขายและให้เช่ามาอย่างต่อเนื่อง
การ รับรู้รายได้ของบ้านเดี่ยวจะเริ่มประมาณปี 2550-2551 เป็นต้นไป ซึ่งนับจากปี
2547 จากการรับรู้รายได้ของโครงการดังกล่าว จะทำให้สัดส่วนของ รายได้บริษัทระหว่าง
CBD และบ้านเดี่ยวเริ่มชัดเจนมากขึ้น และจะเกิดสัดส่วนที่สมดุลกันตามแผนที่ผู้บริหารวางไว้