Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 พฤศจิกายน 2546
ช่อง3แตกพาร์เหลือ1บ.ดึงแมลงเม่าถือหุ้นเพิ่ม             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

บีอีซี เวิลด์, บมจ.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ฉัตรชัย เทียมทอง
Entertainment and Leisure




บีอีซี เวิลด์ (BEC)ผู้ประกอบการทีวีช่อง 3 จ่าย ปันผลพิเศษ ธ.ค.นี้ หุ้นละ 10 บาท มูลค่า 2,000หุ้นบาท ประกาศ แตกพาร์เป็นครั้งแรก จาก 10 บาท เหลือ 1 บาท ธ.ค.นี้ ระบุเป็นเวลาเหมาะสมจากตลาดหุ้นไทยซื้อขาย ร้อนแรงต่อเนื่อง เผยต้องการดึงนักลงทุนรายย่อยถือหุ้นแทนนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ ที่ทำหุ้น ขึ้น-ลงหวือหวา จากพฤติกรรม อ่อนไหวต่อกระแสข่าวลือ คุย 3 ไตรมาสทำกำไร 1,608 ล้านบาท หลังประกาศภาครัฐฟันโฆษณาน้ำเมา ชูกำลัง ทำเม็ดเงินโฆษณา ต.ค.โตลดลง

นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัทบีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เปิดเผยวานนี้ (13 พ.ย.) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติจ่ายเงิน ปันผลระหว่างกาลเป็นพิเศษ ให้ผู้ถือหุ้น 200 ล้าน หุ้น หุ้นละ 10 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท โดยจะจ่ายให้ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทวันที่ 26 พ.ย. กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 11 ธ.ค. ซึ่งการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครั้งนี้ ดำเนินการเป็นครั้งแรกตั้งแต่นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

แตกพาร์เหลือ 1 บาท

นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเสนอให้ที่ประชุม ผู้ถือหุ้น อนุมัติเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัท จากมูลค่า 10 บาทต่อหุ้น เหลือ 1 บาท จึงมีมติอนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับบริษัท ข้อ 4 วรรคแรก ในหนังสือบริคณห์สนธิใหม่ โดยการแตกพาร์ จะมีผลตามกฎหมาย หลังจากได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทวันที่ 16 ธ.ค.นี้

ทั้งนี้ เงิน 2,000 ล้านบาท ที่จะนำมาจ่ายปันผลนี้ นำมาจากเงินสดสะสมที่มีอยู่ประมาณ 4,000 ล้านบาท หลังการจ่าย จะทำให้เงินสดลดเหลือ 2,000 ล้านบาท แต่หลังรวมกำไรสิ้นปีนี้ เชื่อ ว่าเงินสดจะเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาท

ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อยากเห็นบริษัทในตลาดฯ แตกพาร์ เพื่อ แสดงความเป็นบริษัทที่ทำตามกฎ ตลท. ซึ่งบริษัทได้พิจารณาเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา เพราะว่าราคาหุ้นในขณะนี้ถือว่าสูงมาก แต่สภาวะการซื้อขายหุ้นในตลาดฯ ก่อนหน้านี้ ระดับวันละ 2,000-3,000 ล้านบาท ไม่จูงใจให้บริษัทแตกพาร์ แต่ปีนี้ สภาวะการซื้อขายหุ้นในตลาดฯ ถือว่าดีมาก โดยเฉพาะช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยวันละ 30,000-40,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทตัดสินใจที่จะแตกพาร์ เพื่อกระจายหุ้นให้นักลงทุนรายย่อยมีโอกาสเข้ามาถือหุ้น บริษัทมากขึ้น

ปัจจุบัน ผู้ถือหุ้นหลักบีอีซี เวิลด์ คือตระกูล มาลีนนท์ 56.56% นักลงทุนสถาบันจากต่างประเทศประมาณ 30% ที่เหลือเป็นนักลงทุนสถาบันในประเทศและผู้ถือหุ้นรายย่อย หากจะดูเฉพาะ ผู้ถือหุ้นรายย่อยจะมีสัดส่วนเพียง 2-3% เท่านั้น ซึ่งเป็นปริมาณที่น้อยมาก สาเหตุหลักมาจากราคา หุ้นที่อยู่ในระดับสูงมาก โดยราคาปิดล่าสุดวานนี้ (13 พ.ย.) 248 บาท ทำให้นักลงทุนรายย่อยไม่สนใจเข้ามาลงทุน

ตปท.ถือเยอะทำหุ้นหวือหวา

นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า การที่มีนักลงทุนต่างประเทศถือหุ้นในสัดส่วนสูง ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทขึ้น-ลงหวือหวามาก โดยเมื่อนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาซื้อราคาหุ้นก็จะพุ่งขึ้น และเมื่อนักลงทุนต่างประเทศออกราคาก็จะตกลง ซึ่งพฤติกรรมของนักลงทุนต่างประเทศมักอ่อนไหวต่อกระแสข่าวลือต่างๆ เมื่อเกิดข่าวใดๆ ก็ตามที่ไม่ดีขึ้นก็จะถอนการลงทุนออกทันที แม้ข่าวนั้นจะไม่เกี่ยวกับตลาดหุ้น หรือตัวบริษัทบีอีซี ส่งผลให้ราคาหุ้นบีอีซีไม่คงที่

"บริษัทต้องการเห็นนักลงทุนรายย่อยคนไทยถือหุ้นบีอีซีมากขึ้น เพราะธุรกิจทีวีเป็นธุรกิจ ที่ใกล้ชิดกับคนไทย และคนไทยก็มีทางเลือกน้อย ในการลงทุนตลาดหุ้น แตกต่างจากนักลงทุนสถาบันต่างประเทศที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศใดก็ได้ ซึ่งธุรกิจของบีอีซีก็เป็นธุรกิจที่มั่นคง โอกาสขาดทุนแทบไม่มี และผู้บริหารก็มีเจตนา-รมณ์จ่ายปันผลทุกปี โดยผลตอบแทนหุ้นของบริษัทมีอัตราดีกว่าฝากแบงก์" นายฉัตรชัย กล่าว

หลังการแตกพาร์เหลือ 1 บาท บริษัทต้องการเห็นผู้ถือหุ้นรายย่อยคนไทยเข้ามาถือหุ้น บีอีซีในสัดส่วนมากที่สุด ในปีแรกอยากเห็นเป็นจำนวนหลักหมื่น หรือจะเพิ่มขึ้นเป็นหลักแสนก็ดี ปัจจุบันมีนักลงทุนรายย่อยที่เปิดพอร์ตลงทุน อยู่จำนวน 4 แสนราย โดยหุ้นบีอีซีเหมาะที่จะลงทุนระยะยาว เพราะจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ

ฟันกำไร 3Q 1.6 พันล้านบาท

นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ผลประกอบการไตรมาส 3 สามารถทำกำไรสุทธิ 440 ล้านบาท ดีกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 6% หากดูผล ประกอบการ 3 ไตรมาส ทำกำไรได้ถึง 1,608 ล้าน บาท เพิ่มขึ้น 34% จากปีก่อน โดยช่วง 6 เดือนแรกทำรายได้ดีมาก จากการขายเวลาโฆษณาที่เพิ่มขึ้นสูงมาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจดี ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม พบว่าในไตรมาสสุดท้ายนี้ ที่ปกติเป็นช่วงฤดูจับจ่ายใช้สอย เจ้าของสินค้าจะทุ่มเม็ดเงินโฆษณาในช่วงนี้สูงมาก แต่ในเดือน ต.ค.อุตสาหกรรมโฆษณาผ่านสื่อทีวีเติบโตเพียง 10% หรือมีมูลค่า 3,635 ล้านบาท โดยตัวเลขภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา 9 เดือนเติบโต 16% หากดูตัวเลข 10 เดือน กลับเติบโต 15% มีมูลค่า 34,023 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีมูลค่า 29,545 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขน่าจะขยายตัวมากกว่านี้

สาเหตุหลักของการเติบโตลดลงมาจากประกาศของภาครัฐที่จำกัดเวลาโฆษณาสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกำหนดเนื้อหา ภาพยนตร์โฆษณาเครื่องดื่มชูกำลังที่จะต้องทำในลักษณะสร้างภาพลักษณ์เท่านั้น ทำให้สินค้าทั้ง 2 ประเภท ชะลอการโฆษณาเพื่อปรับปรุงหนังโฆษณาใหม่

"ประกาศภาครัฐที่ควบคุมเวลา และเนื้อหา โฆษณาเครื่องดื่มชูกำลัง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เข้ามาหยุดความร้อนแรงของการใช้เม็ดเงินโฆษณาไตรมาสสี่ลง ทำให้ตัวเลขเดือนตุลาคม ขยายตัวไม่มาก ทั้งที่จริงน่าจะสูงกว่านี้" นายฉัตรชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม การใช้เม็ดเงินของสินค้าทั้ง 2 ประเภทที่ถูกห้าม ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมอุตสาหกรรมมากนัก โดยการใช้งบโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านสื่อทีวีมีสัดส่วน 2.8% เครื่องดื่มชูกำลังมีสัดส่วน 3.5% ของตลาดรวมที่คาดว่าถึงสิ้นปีนี้เม็ดเงินโฆษณาในสื่อทีวีน่าจะสูงถึง 40,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 15%

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us