Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน13 พฤศจิกายน 2546
UVเตรียมย้ายหมวดเข้าเทรดอสังหาฯปี47             
 


   
search resources

ยูนิเวนเจอร์, บมจ.
ธนพล ศิริธนชัย
อรฤดี เจียรดิษฐอาภรณ์




UV เตรียมย้ายหมวดจากเคมีภัณฑ์ไปอยู่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หลังรายได้ของบริษัท 70% มาจากธุรกิจอสังหาฯ พร้อมประกาศนโยบายชัดเน้นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หวังเดิน หน้าเจรจากลุ่มแบงก์และลูกหนี้ เพื่อพัฒนาโครงการที่ก่อสร้างค้าง แต่มีศักยภาพออกสู่ตลาด ทุ่มอีก 1.5 พันล้าน ซื้อ NPA พัฒนาหลังประสบความสำเร็จจากการร่วมทุนกับบริษัทพันธมิตร โดยกำไรไตรมาส 3 กระฉูด 600% รับผลจาก เงินลงทุนใน"แสนสิริ เวนเจอร์"

นางอรฤดี เจียรดิษฐอาภรณ์ ประธานอำนวยการ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด(มหาชน) (UV) เปิดเผยว่า ปีหน้าบริษัทมีแผนจะขอยื่นเรื่องกับทางตลาดหลักทรัพย์เพื่อขอย้าย กลุ่มจากกลุ่มเคมีภัณฑ์และพลาสติก มาอยู่กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ประมาณ 60-70% ในขณะที่มีรายได้จากธุรกิจสังกะสีออกไซด์ 30-40% ซึ่งต้องรอดูผลการดำเนินงานในปี 2546 ด้วยว่าสัดส่วนรายได้จะเข้าเกณฑ์การขอย้ายกลุ่มหรือไม่

นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดจะขยายธุรกิจไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้องและต่อเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แต่ยังไม่เปิดเผย

สำหรับแผนงานในปีหน้า บริษัทฯจะซื้อสินทรัพย์ NPAกับสถาบันการเงินทั้ง บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (TAMC) บรรษัทบริหารสินทรัพย์ (บบส.)หรือ AMC โดยจะใช้ลงทุนประมาณ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งจะมาจากเงินทุนหมุนเวียนและเงินที่ได้จากเพิ่มทุน 16.7 ล้านบาท ซึ่งการเข้าซื้อสินทรัพย์หรือ NPA ครั้งนี้ เพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนาโครงการโดยจะให้พันธมิตรทางธุรกิจ เช่น LPN SIRI เป็นผู้ดำเนินการขายโครงการ

สำหรับผลประกอบการในปี 2547 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 20% จากปี 2546 เนื่องจากจะมีการ รับรู้รายได้จากโครงการที่มีอยู่ในมือจำนวน 3 โครงการที่สร้างเสร็จมูลค่าโครงการ 2-3 พันล้านบาทและทยอยขายในสิ้นปีนี้

โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ก้าวเข้าร่วมลงทุนในด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยได้ร่วมกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มแสนสิริ และ กลุ่ม แอล.พี.เอ็น.ฯ เพื่อพัฒนาโครงการที่มีศักยภาพ และสามารถปิดการขายในแต่ละโครงการได้อย่างรวดเร็ว

"เรามีความพร้อมในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ดังจะเห็นได้จากผลงานที่ผ่านมา อาทิ การจัดตั้งบริษัท แกรนด์ยูนิตี้ ดีเวลลอป เม้นท์ จำกัด ร่วมกับบริษัท แอล.พี.เอ็น. จำกัด (มหาชน) และไทย เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด ผู้พัฒนาโครงการลุมพินี วอเตอร์ คลิฟ โครงการคอนโดมิเนียมรัชดา พระราม 3 สวีท การจัดตั้งบริษัท แสนสิริเวนเจอร์ จำกัด ร่วมกับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบ้านสิริสาทร โครงการบ้านสิริเย็น อากาศ และการจัดตั้งบริษัท ซัน ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอาคารพาณิชย์ซันสแควร์ สีลม ซึ่งแทบทุกโครงการสามารถปิดการขายลงได้ภายในระยะเวลาอันสั้น"

ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจัยหลักๆ อาทิ ความเชี่ยวชาญในการเลือกสินทรัพย์ที่มีศักยภาพและทำเลที่ดี การสร้างกลยุทธ์ในการบริหารการลงทุน การมีสัมพันธภาพอันดีต่อสถาบันการเงิน ธนาคาร ตลอดจนกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ตลอดจนมีความชำนาญในด้านการปรับโครงสร้างหนี้และเจรจาหนี้ รวมถึงการเลือกลงทุน กับพันธมิตรที่เหมาะสมในแต่ละโครงการ ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจดังกล่าวสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจแก่ผู้ถือหุ้นอย่างชัดเจน

ด้วยเหตุดังกล่าว บริษัทจึงมีแนวทางที่จะมุ่งเน้นการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ต่อไปอีก 2-3 ปี โดยเปิดโอกาสให้กลุ่มสถาบันการเงิน ธนาคาร รวมทั้งกลุ่มลูกหนี้ที่มีโครงการคุณภาพ อยู่ในมือ และต้องการที่จะพัฒนาโครงการร่วมกับยูนิเวนเจอร์ได้เข้ามาเจรจาหารือกันได้ เพื่อหาข้อสรุปที่ลงตัวที่สุดในการบริหารงานร่วมกันเพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดต่อไป

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางบริษัทได้เข้าเป็นเจ้าของกองทุนกินรี พร็อพเพอร์ตี้ เพื่อพัฒนาโครงการอพาร์ตเมนต์อีก 3 โครงการ จากประสบการณ์และความสำเร็จทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการฉกฉวยวิกฤตให้เป็นโอกาสและความพร้อม โดยเฉพาะทางการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดจากการปรับโครงสร้างหนี้ และพบว่าธุรกิจดังกล่าวยังคงมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก ซึ่งในปัจจุบันยูนิเวนเจอร์ถือเป็นบริษัทเดียวของไทยที่มุ่งดำเนินธุรกิจในลักษณะ การร่วมลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นี้

นางอรฤดี กล่าวถึงผลการดำเนินงานสำหรับงวดไตรมาส 3 ปีนี้ สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2546 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยว่ามีผลกำไรสุทธิ 83.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.78 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 600.25 จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากรายได้ค่าบริการเพิ่มขึ้น 15.48 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมจากการช่วยเหลือสนับสนุนการดำเนินงาน และรายได้ค่าบริหารงาน ซึ่งได้รับจากบริษัทร่วม (บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด)

ทั้งนี้ ส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียจำนวน 62.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 100 เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นกำไรจากเงินลงทุนในบริษัท แสนสิริ เวนเจอร์ จำกัด ซึ่งมีการรับรู้รายได้จากการขายห้องชุดพักอาศัย

นายธนพล ศิริธนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ฯกล่าวว่า นอกจากยูนิเวนเจอร์ จะมีความเชี่ยวชาญด้านการปรับโครงสร้างหนี้ และเจรจาหนี้แล้ว บริษัทยังมีความเชี่ยวชาญ อย่างมากในการเฟ้นหาทรัพย์สินที่มีศักยภาพในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินใน แนวราบหรือแนวดิ่ง โดยคำนึงถึงทำเล คุณภาพโครงการโดยรวม และราคาที่สามารถทำตลาดได้

"หากเราเห็นว่ามีศักยภาพ เราพร้อมที่จะเข้าไปบริหารและพัฒนาทันที ทั้งนี้เรายังคงสานต่อการหาทรัพย์สินที่เหมาะสมในการลงทุนต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยพร้อมที่จะร่วมเจรจาหารือกับกลุ่มสถาบันการเงิน ธนาคาร และกลุ่มลูกหนี้ที่ต้องการลงทุนร่วมกัน หากบริษัทฯ เล็งเห็นว่าทรัพย์สินดังกล่าวมีศักยภาพเพียงพอ เหมาะสมแก่การลงทุน ก็จะวางแผนในการลงทุนต่อไป"

สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น ยูนิเวนเจอร์ มีนโยบายที่จะแสวงหาทรัพย์สินที่เหมาะในการลงทุนที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นไปที่โครงการที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ หรือโครงการเก่าที่มีศักยภาพในการปรับปรุงให้ได้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีระยะเวลาการพัฒนาโครงการประมาณ 12-18 เดือน โดยจะเข้าร่วมลงทุนกับกลุ่มลูกหนี้ ธนาคารหรือสถาบันการเงิน รวมทั้ง AMC และ TAMC เพื่อสร้างให้เกิดผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุดแก่ผู้ถือหุ้น

บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในหมวดเคมีภัณฑ์และพลาสติก มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 515 ล้านบาท มีผลประกอบการในปี 2543 จนถึงไตรมาส 2 จำนวน 97.85 ล้านบาท ล่าสุดผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติให้มีการแตกพาร์จาก 10 บาท เหลือ 1 บาท

โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่ 5 อันดับแรกประกอบด้วย บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 24.35% UBS AG SINGAPORE,BRANCH -PB SECURITIES CL 8.74% นายโรเบิร์ต พอล วอลเลท คอนลินส์ 7.30% MERRILL LYNCCH, PIERCE, FENNER &SMITH INC. 6.99% SHBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD 6.79% (ข้อมูล ณ วันที่ 17 ตุลาคม 2546)

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us