ชินคอร์ป (SHIN) อัดเงิน 250 ล้านบาท ร่วมทุนธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost
Airline) กับกลุ่มธุรกิจมาเลเซีย หวังแตกไลน์ธุรกิจออกนอกธุรกิจสื่อสาร ที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง
เพิ่มศักยภาพทำรายได้ธุรกิจใหม่ กระจายความเสี่ยงแหล่งรายได้ พร้อมรอง รับการที่ภาครัฐกำลังผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาคนี้
โดยจะเริ่มเปิดบริการตั้งแต่ปีหน้า
หนังสือพิมพ์บิสซิเนส ไทมส์ ของมาเลเซีย ฉบับวานนี้ (11 พ.ย.)รายงานว่า นายโทนี
เฟอร์-นันเดซ ซีอีโอของแอร์เอเชีย ระบุว่า กิจการร่วมทุนระหว่าง 2 ฝ่ายที่จะตั้งนี้
จะมีทุนจดทะเบียนขั้นต้น 400 ล้านบาท โดยชินคอร์ป ซึ่งครอบครัว นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร ถือหุ้นใหญ่ อยู่ จะถือหุ้นบริษัทร่วมทุน 51% ที่เหลือจะเป็นของแอร์เอเชีย
แต่บริษัทแอร์เอเชียจะเป็นผู้ควบคุมในเรื่องการบริหารจัดการ โดยบริษัทร่วม ทุนแห่งนี้
ซึ่งจะใช้ชื่อว่า แอร์เอเชีย เอวิเอชั่น นายเฟอร์นันเดซ กล่าวต่อว่า "เราเพิ่งสรุปการพูดคุยของเรากันได้เมื่อเร็วๆ
นี้เอง เราได้ระบุถึงเส้นทางหลายเส้นทางทีเดียว ที่อาจเริ่มออกให้บริการในตอนที่เราเปิดตัว
อาทิ เที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต, หรือไปจีน และอินเดีย และเป็นไปได้เช่นกันที่จะเป็นเที่ยวบินจากกรุงเทพฯไปปีนังหรือโกตากินะบะลู(เมืองหลวงรัฐซาบาห์)
ในมาเลเซีย"
เมื่อถูกถามถึงเสียงวิจารณ์ที่ว่า แอร์เอเชียเลือกชินคอร์ปเป็นพันธมิตร เพราะบริษัทนี้มีความเกี่ยวพันกับ
พ.ต.ท.ทักษิณ นายเฟอร์-นันเดซก็รีบปฏิเสธว่า "เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เราพิจารณาทุกๆ
ราย โดยคำนึงถึงเรื่องคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ และพบว่าชินคอร์ป คือรายซึ่งเป็นไปได้ที่จะเป็นหุ้นส่วนกันได้อย่างดีจริงๆ
และเป็นบริษัทชั้นดีซึ่งสามารถทำงานด้วยได้"
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงความประสงค์ให้ตั้งสายการบินที่ให้บริการ
แบบราคาประหยัดขึ้นในประเทศไทย โดยตั้งฐานที่เชียงใหม่ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่จะพัฒนาจังหวัดนี้ให้เป็นศูนย์กลางการบิน
ซึ่งสามารถเดินทางติดต่อทางอากาศกับพื้นที่ใกล้เคียงของประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นจีน
ลาว หรือ พม่า
นายเฟอร์นันเดซเผยว่า การเจรจากับฝ่ายไทยเริ่มขึ้นก.ค. หลังจากสายการบินสิงคโปร์
แอร์ไลน์ ระงับแผนการที่จะตั้งสายการบินแบบราคาประหยัดที่เชียงใหม่ ด้วยเหตุผลว่า
ต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงราคาแพงขึ้น ขณะที่ฐานผู้โดยสาร น่าจะยังต่ำอยู่
แต่ซีอีโอของแอร์เอเชียแห่งมาเลเซีย กลับแสดงความหวังว่า สายการบินร่วมทุนแห่งใหม่ที่จะตั้งกับชินคอร์ปนี้
น่าจะสามารถทำรายได้คุ้ม ทุนกันตั้งแต่ปีแรกที่เริ่มดำเนินงาน ทั้งนี้ พิจารณา
จากข้อเท็จจริงที่ว่า ไทยเป็นประเทศที่มีประชากร มากถึง 64 ล้านคน เปรียบเทียบกับมาเลเซีย
ซึ่ง มีแค่ 25 ล้านคน
"ยิ่งกว่านั้น คนไทยจำนวนมากกำลังรอคอยให้เปิดสายการบินแบบขายตั๋วราคาถูก
ที่ไม่ ต้องให้บริการซึ่งไม่มีความจำเป็นขึ้นมา เนื่องจาก ในปัจจุบันพวกเขาไม่สามารถโดยสารเครื่องบินได้
เพราะค่าตั๋วแพงเหลือเกิน" นายเฟอร์นันเดซกล่าวเสริม
แอร์เอเชียคาดว่า การดำเนินงานในประเทศ ไทยจะสามารถทำรายรับได้ระหว่าง 20 ถึง
30% ของผลประกอบการทั้งหมดของบริษัททีเดียว ทั้งนี้บริษัทเตรียมที่จะนำเอาเครื่องบิน
เครื่องแบบ แบรนด์เนม และคอนเซ็ปต์แนวทางการทำงานของแอร์เอเชีย มาใช้กับการปฏิบัติงานในไทย
"เราอาจจะเช่าเครื่องบินเพิ่มอีก 3 ลำ เพื่อใช้ให้บริการแบบประหยัดในประเทศไทย
ถ้าได้เครื่องบินใหม่อีก 3 ลำ กองบินของเราก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 21 ลำ" นายเฟอร์นันเดซบอก
การจับมือเป็นพันธมิตรกับชิน คอร์ป คราวนี้ เป็นการขยายตัวออกสู่ประเทศอื่นๆ
ในภูมิภาคเป็นครั้งแรกของแอร์เอเชีย หลังจากบริษัทก่อตั้งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่บริษัททำท่าจะไม่หยุดยั้งเพียงเท่านี้
โดยกำลังเล็งและจะขยายเข้าสู่อินโดนีเซีย บรรดารัฐทางชายฝั่งภาคใต้ของอินเดีย และกระทั่งสิงคโปร์
อัด 250 ล้านซื้อหุ้น
นายบุญคลี ปลั่งศิริ กรรมการ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SHIN) เปิดเผยผลประชุมคณะกรรมการบริษัท
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ว่าที่ประชุมเห็นชอบให้บริษัทร่วมลงทุนบริษัท แอร์เอเชีย เอวิเอชั่น
จำกัด (Air Asia Aviation) ซึ่งดำเนินธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airline)
โดย SHIN จะถือหุ้นใหญ่บริษัท แอร์เอเชีย เอวิเอชั่น (AAA) และบริษัท AA International
จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม Air Asia Sdn Bhd ของมาเลเซีย ร่วมถือหุ้นส่วนน้อยที่เหลือ
โดย SHIN ซื้อหุ้นสามัญ AAA วงเงินไม่เกิน 250 ล้านบาท
แหล่งข่าวจาก SHIN เปิดเผย ว่าการลงทุนครั้งนี้ ถือเป็นการแตกไลน์ธุรกิจเพิ่มจากเดิมที่ทำอยู่
ซึ่งมีธุรกิจหลากหลายที่สนใจให้ SHIN ร่วมลงทุนด้วย แต่ SHIN เลือกลงทุนธุรกิจสายการบิน
เพราะต้องการเพิ่มความแตกต่างการทำธุรกิจจากปัจจุบัน ที่เน้นด้านโทรคมนาคมและไอทีส่วนใหญ่
ซึ่ง 2 ธุรกิจนี้ กำลังอยู่ในช่วงขาลง
โดยบริษัทมองว่า ความต้องการใช้สายการ บินกำลังเป็นที่ต้องการมากในปัจจุบัน และรอง
รับกับที่ภาครัฐกำลังผลักดันไทย ยกระดับเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค ซึ่งจะทำให้โอกาสทำธุรกิจการบินมีมากขึ้น
ขณะที่ธุรกิจไอทีและโทรคมนาคมที่ SHIN มีอยู่ จะทำให้บริษัทในเครือได้รับผลดีไปด้วย
เช่น บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) ที่อาจได้ประ-โยชน์จากการเปิดให้จองตั๋วเครื่องบินผ่านโทร-ศัพท์มือถือได้
และเชื่อมโยงกับไอทีอีกหลายอย่าง ที่จะลิงก์กันได้ในอนาคต
ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50%
บริษัท แอร์เอเชีย เอวิเอชั่น ประกอบธุรกิจให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ (Low
Cost Airline) ทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลังร่วมทุนไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่ร่วมทุน
ไม่ น้อยกว่า 20 ล้านหุ้น มูลค่าลงทุนไม่เกิน 250 ล้านบาท ราคามูลค่าที่ตราไว้
(พาร์) 10 บาท ซึ่ง SHIN จะถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ AAA
และ AA International ของมาเลเซีย ถือหุ้นไม่เกิน 49%
สำหรับวัตถุประสงค์การเข้าร่วมทุนเพื่อเป็นการขยายฐานธุรกิจของบริษัทฯ ออกไปในธุรกิจอื่นๆ
ที่มีศักยภาพและอัตราการเติบโตสูงรวมทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพการทำรายได้ของ บริษัทฯ
ในธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งจะใช้เงินทุนหมุน เวียนจากการดำเนินงานของบริษัท
สนคอนซูเมอร์ไฟแนนซ์ด้วย
ผู้บริหารกลุ่มชินคอร์ป กล่าวว่าธุรกิจสาย การบิน เป็นธุรกิจด้านขนส่ง เป็นแมสคอนซูเมอร์
ซึ่งไม่ต่างจากธุรกิจโทรคมนาคม ในแง่เป็นแมสคอนซูเมอร์เหมือนกัน แต่ถ้ามองว่าชินคอร์ปต้อง
ลงทุนด้านโทรคมนาคมอย่างเดียว ไม่สามารถลง ทุนธุรกิจอื่นได้ การรวมพลัง (synergy)
กับ AIS คงไม่มีอะไรมากนัก อาจออกมาในรูปทำโปรโมชั่นร่วมกัน เช่น แจกตั๋วเครื่องบิน
ที่ผ่านมา มีการเสนอโปรเจกต์ให้ชินคอร์ป เยอะมาก โดยที่ชินคอร์ปจะเลือกว่าธุรกิจไหนมีอนาคต
ก็จะตัดสินใจลงทุนธุรกิจนั้น ซึ่งนอกจาก สายการบิน ก็มีด้านคอนซูเมอร์ไฟแนนซ์ ที่น่าสนใจ
การที่เลือกสายการบินนี้ เพราะมีสไตส์การ ทำธุรกิจใกล้เคียงกัน เคลื่อนไหวเร็ว
ทำเร็ว ทั้งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ ซึ่งไม่แย้งตลาดกับการบินไทย แต่เป็นการสร้างตลาดใหม่มากกว่า
เพราะคนไทยที่ยังไม่เคยขึ้นเครื่องบิน ยังมีอีกมาก อย่างน้อยค่าโดยสารควรต้องถูกลงสัก
50% จากปัจจุบัน เช่น บินกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ น่าจะถูกลง เหลือสัก 1,000 หรือไม่ถึง
1,000 บาท
สายการบินต้นทุนต่ำ ยังสามารถทำโปรโมชั่นได้อีกมาก เพื่อทำให้ค่าโดยสารถูกลง
แต่ห้ามคืนตั๋ว
"ขณะที่การบินไทยลดค่าใช้จ่าย โดยการลดการบริการ ลดอาหาร เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
ถ้า บริการลด ก็ต้องลดราคาด้วย ไม่ควรประหยัด ต้นทุนด้วยการมาลดบริการ"