Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน12 พฤศจิกายน 2546
หุ้นผวาระเบิดรูดหลุด650             
 


   
www resources

โฮมเพจ กิมเอ็ง
โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

เกียรตินาคิน, บง.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์ใหม่ - MAI
หลักทรัพย์กิมเอ็ง, บมจ.
โสภาวดี เลิศมนัสชัย
มนตรี ศรไพศาล
วิริยา ลาภพรหมรัตน
Stock Exchange




นักลงทุนผวาข่าวพบระเบิดในสถานทูตมะกันในไทย ประกอบกับแนวโน้มปรับฐานหุ้นไทย การบังคับขายหุ้น และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอีกเกือบ 3 พันล้านบาท กระหน่ำดัชนีหุ้นไทยวานนี้วูบ 2.53% หลุด 650 จุด ด้วยวอลุ่มรวม 3.46 หมื่นล้านบาท โบรกเกอร์คาดระยะสั้น กระทิงวนแถว 640-660 จุด แต่ระยะกลาง ยังเป็นขาขึ้น ประเมินบัญชีมาร์จิ้น ตลาดหุ้นไทย ปัจจุบันประมาณ 8%

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (11 พ.ย.) ลดลง 16.81 จุด ลดลง 2.53% ปิด 647.55 เนื่องจากข่าวพบระเบิดในสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ทำให้นักลงทุนที่หวาดผวาการก่อการร้ายอยู่แล้ว ตื่นตระหนก เทขายหุ้นทิ้ง รวมทั้งกลไกลบัญชีมาร์จิ้นเริ่มทำงาน หลังจาก 2 วันที่ผ่านมา ดัชนีปรับลดลงมากกว่า 30 จุด ทำให้โบรกเกอร์ต้องบังคับขาย (Forces Sales) ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องวานนี้ 2,896.04 ล้านบาท

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ประธานกรรมการ ศูนย์ระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์ และตลาดใหม่ (MAI) กล่าวว่าการที่ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงแรงวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนตื่นตระหนกข่าวพบระเบิดในสถานทูตสหรัฐฯใน ไทย ทำให้เทขายหุ้นประกอบกับดัชนีอยู่ระหว่าง ปรับฐาน ส่งผลหุ้นลดลงแรง

อย่างไรก็ตาม เมื่อนักลงทุนได้รับข้อเท็จจริง เธอคาดว่าสภาพตลาดฯ โดยรวมจะสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ เนื่องจากตลาดหุ้นไทย ปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งรองรับ รวมทั้งความสามารถบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ผลดำเนินงานดีขึ้น และมีการจ่ายปันผล จะทำให้อัตราผลตอบแทนการลงทุนรวม อยู่ในระดับที่ดีได้

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เกียรตินาคิน กล่าวว่าสาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรง เพราะการที่ตลาดหุ้นต่างประเทศ ในเอเชียปรับตัวลงแรงถึง 1-2% ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงถึงเกือบ 3% เนื่องจากข่าวพบระเบิดในสถานทูตสหรัฐฯในไทย ซึ่งทำให้นักลงทุนตกใจ ดัชนีปรับลดลงหลุดแนวรับจิตวิทยา 660 จุด ตลาดฯ จึงลงแรง

ถูกบังคับขาย

ปัจจัยน่าจับตา คือกลไกลบัญชีมาร์จิ้น หรือการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์เริ่มทำงาน สำหรับนักลงทุนที่ซื้อขายบัญชีดังกล่าว ต้องถูกบังคับขาย เพราะช่วง 2 วันที่ผ่านมา ดัชนีลดลงกว่า 30 จุด ดังนั้น ต้องถึงจุดเรียกหลักทรัพย์ค้ำประกัน และจุดบังคับขาย ทำให้นักลงทุนที่ไม่มีความสามารถชำระเงิน ต้องเทขายหุ้น

กระทิงวน 640-660

แนวโน้มตลาดฯ ระยะสั้น 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า จะยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยดัชนี 680 จุดน่าจะเป็นไปได้ แต่ระยะสั้น 1-2 วัน คาดว่าดัชนีจะผันผวนขึ้นลงสลับกัน อาจดีดตัวขึ้นได้ บ้าง แต่ยังอยู่ในกรอบ 650-660 จุด ส่วนแนวรับ 640 จุด

นายมนตรี ศรไพศาล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ในเครือกลุ่มกิมเอ็งจากสิงคโปร์ กล่าวว่าแนวโน้มมูลค่าบัญชีมาร์จิ้นระบบตลาดหุ้นไทย ไม่น่าจะเพิ่มขึ้นได้มาก หรือระดับเดียวกันกับช่วงก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจไทย-เอเชียปี 2540

เนื่องจากกฎเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อส่วนนี้ เข้มงวดมากขึ้น ขณะเดียวกัน โบรกเกอร์ก็ต้องระมัดระวัง เพราะมีบทเรียนอดีตเตือนสติอยู่แล้ว ดังนั้น มาร์จิ้นระดับปัจจุบันจึงไม่น่าห่วง

หารือคุม "คุณเน็ต"

ส่วนบัญชีหักกลบลบหนี้ในวันเดียว (Net Settlement) คาดว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) จะหารือกับตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทสมาชิก เพื่อหามาตรการควบคุม รวมถึงกำหนดสัดส่วนเน็ต เซตเทิลเมนต์ หุ้นรายกลุ่ม-รายตัว ให้เหมาะ สมมากขึ้น แต่ขณะนี้ ยังไม่ได้กำหนดว่าจะประชุมร่วมกันวันไหน

อย่างไรก็ตาม การจะออกมาตรการควบคุม เขาแนะว่าต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับสภาพคล่องซื้อขายตลาดหุ้นด้วย ตลาดหุ้นจะสมบูรณ์ได้ ต้องมีนักลงทุนที่ลงทุนที่หลากหลาย ซึ่งเขาเชื่อว่าปริมาณเก็งกำไรของนักลงทุน เมื่อทางการเตือน คาดว่าจะลดน้อยลงในที่สุด

เขากล่าวว่าสิ่งสำคัญที่สุด ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะโบรกเกอร์ ควรให้ความ รู้นักลงทุน ให้เข้าใจว่าการลงทุนระยะยาว ก็ให้ผลตอบแทนระดับที่ดีได้ ส่วนการลงทุนระยะสั้น ความเสี่ยงสูง ช่วงภาวะตลาดฯ ขาขึ้น ย่อมได้ผล ตอบแทนสูง แต่หากช่วงภาวะขาลง จะทำให้ได้รับความเดือดร้อนได้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us