Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน5 พฤศจิกายน 2546
TPIมั่นใจธ.ปล่อยกู้พ.ย.หวั่นแก้ไขแผนฟื้นฟูล่าช้า             
 


   
search resources

อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย, บมจ.
ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงเทพ, บมจ.
มอร์แกน สแตนลี่ย์
ABB Thailand
ไทยพาณิชย์, บล.
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
กระทรวงการคลัง
ปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา
พละ สุขเวช
มงคล อัมพรพิสิฏฐ์
Chemicals and Plastics




"บิ๊กหมง" หวั่นการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการทีพีไอล่าช้า หลังพนักงานไม่ให้ความร่วมมือให้ข้อมูลแก่บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและเทคนิค ทำให้การสรุปผลศึกษาเสร็จไม่ทันสิ้นปีนี้ ยืนยัน 4 แบงก์เตรียมให้สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน 170 ล้านดอลลาร์ภายในเดือนนี้ ขณะที่การเจรจาลดดอกเบี้ยจ่ายยังไร้ข้อยุติ

นายพละ สุขเวช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน)(TPI) ในฐานะตัวแทนจากกระทรวงการคลังที่ได้รับแต่งตั้งเข้ามาเป็นผู้บริหารแผนฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถาบันการเงินทั้ง 4 แห่งได้เสนอสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนจำนวน 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้บริษัทฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทำให้บริษัทฯมีสภาพคล่อง ดีขึ้น

สถาบันการเงินที่จะให้เงินทุนหมุนเวียน คือ ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ให้เงินทุนหมุน เวียน 50-80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ธนาคารเพื่อการ ส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงเทพ ปล่อยกู้แบงก์ละ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ทีพีไอ กล่าวว่า ก่อนทำสัญญาสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน 170 ล้านดอลลาร์ สหรัฐ จำเป็นต้องยื่นเสนอต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อมีคำสั่งเห็นชอบด้วย หากพบแบงก์ใดมีความ พร้อมก็จะเสนอขออนุมัติจากศาลก่อน ไม่จำเป็น ต้องรอพร้อมกัน

ส่วนรายละเอียดสัญญานั้น ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันเพราะจะมีการกำหนดสิทธิของเจ้าหนี้ที่ ได้รับเงินกู้คืนแตกต่างกันไป

ปัจจุบันทีพีไอมีดอกเบี้ยค้างจ่ายประมาณ 30-40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากบริษัทได้หยุด พักการชำระดอกเบี้ยมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางผู้บริหารแผนฯอยู่ระหว่างการเจรจาขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยจ่ายในปัจจุบันและดอกเบี้ยค้างจ่ายลงเหลือ MLR-1 และ Libor+1 ยังไม่มีข้อสรุป แม้ว่าเจ้าหนี้จะยอมรับในหลักการก็ตาม

วอนพนง.ให้ข้อมูลบ.ที่ปรึกษาฯ

วานนี้ (4 พ.ย.) พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ประธานคณะผู้บริหารแผน บริษัท อุตสาหกรรม ปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน)(TPI) นำทีมคณะผู้บริหารแผนทั้ง 5 และทีมที่ปรึกษาคณะผู้บริหารแผน ชี้แจงการดำเนินงานที่ผ่านมานับตั้งแต่เข้ามาบริหารแผนฯ ให้เจ้าหน้าที่บริษัทตั้งแต่ระดับผู้จัดการฝ่ายในส่วนกรุงเทพ และส่วนโรงงาน รวมทั้งผู้แทนจากสหภาพฯ

โดยผู้บริหารแผนฯได้ขอความร่วมมือจาก พนักงานทีพีไอ ในการให้ข้อมูลต่างๆในทีพีไอ ต่อ บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินทั้ง 2 แห่ง คือ บล. ไทยพาณิชย์ และบริษัท มอร์แกนสแตนเลย์ และที่ปรึกษาทางด้านเทคนิค คือ บริษัท เอบีบี จำกัดหลังจากที่ปรึกษาดังกล่าวไม่ได้รับความร่วมมือจากพนักงานทีพีไอเท่าที่ควรในช่วงที่ผ่าน มา จนอาจทำให้ผลสรุปการศึกษา เพื่อใช้ในการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการอาจล่าช้าออกไป จากเดิมที่จะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2546

พล.อ.มงคล กล่าวว่า หากที่ปรึกษาไม่สามารถสรุปผลการศึกษาได้เสร็จทันภายในสิ้นปีนี้ ต้องเลื่อนออกไปเป็นเดือนมกราคม 2547 ทาง คณะผู้บริหารแผนฯ คงจำเป็นต้องเลื่อนการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการฉบับใหม่ออกไปเช่นเดียวกัน

"ขณะนี้มีความไม่เข้าใจกันในบางส่วน จึงอยากขอให้พนักงานทีพีไอทุกคนให้ความร่วมมือกับที่ปรึกษาทางการเงินและที่ปรึกษาทางเทคนิค เพื่อทำให้การปรับปรุงแผนการฟื้นฟูกิจการฯแล้วเสร็จตามกำหนด"

พล.อ.มงคล กล่าวต่อว่า จุดมุ่งหมายของผู้บริหารแผนฯต้องการแก้ปัญหาทีพีไอให้ได้ โดย คงความเป็นบริษัทของคนไทย ที่ดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ต่อไป

ส่วนแนวทางการตัดขายธุรกิจรอง (Non-Core) ตามแผนฟื้นฟูกิจการฉบับเดิมนั้น ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะขายกิจการใดออกไปทั้งโรงไฟฟ้าและท่าเรือ แต่จะหาแนวทางในการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินที่มีอยู่เพื่อนำเงินไปใช้หนี้ เช่น กิจการท่าเรือ เป็นต้น

"เราไม่ได้บอกว่าจะไม่ขาย Asset แต่ต้อง ดูรายละเอียดว่าควรจะขายหรือไม่ ซึ่งท่าเรือ 1 มีความจำเป็นเพื่อใช้ขนส่งน้ำมันดิบ ขณะที่ท่าเรือ 2 จำเป็นต้องหาแนวทางเพิ่มรายได้ จากปัจจุบัน ที่มีการใช้ท่าเรือเพียง 10% ทำให้เจ้าหนี้มองว่าไม่คุ้มค่า ทำให้มีการกำหนดให้ตัดขายออกไป" นายพละ กล่าว

ขณะที่โรงไฟฟ้าก็ผลิตไฟไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในกลุ่มธุรกิจ ทำให้บริษัทฯต้อง ซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เดือน ละกว่า 100 ล้านบาท และมีปัญหาไฟดับบ่อย คง ต้องพิจารณาว่าจะมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มหรือไม่ โดยพิจารณาจากความคุ้มค่าการลงทุน

สำหรับที่ดินว่างเปล่าจำนวน 2,000 ไร่ อาจ สร้างเป็นนิคมอุตสาหกรรม เพื่อให้ได้เงินเข้ามา ยังบริษัท

ขณะนี้โรงกลั่นทีพีไอได้ปิดซ่อมบำรุงบางส่วนในเดือนนี้เป็นเวลา 20-30 วันทำให้กำลังการ ผลิตลดเหลือ 80,000 บาร์เรล/วัน โดยกำลังกลั่นจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับ 150,000 บาร์เรล/วัน ในเดือนธันวาคมนี้ หากแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้นคงต้องกลับมาพิจารณาว่าจะเพิ่มกำลังการกลั่นอีกหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันกำลังกลั่นทีพีไออยู่ที่ 215,000 บาร์เรล/วัน

บิ๊กหมงขออยู่บริหารแผนจนเสร็จ

พล.อ.มงคล กล่าวว่า คณะผู้บริหารแผนฯ จะทำหน้าที่นานเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการฟื้นฟูกิจการของทีพีไอ ซึ่งการฟื้นฟูกิจการทีพีไอมีอายุ 5 ปี ต่ออายุได้ 2 ครั้งๆ ละ 1 ปี หาก สิ้นสุดเวลาดังกล่าวแล้วการปฏิบัติตามแผนฟื้นฟู ใกล้สำเร็จ อาจขออนุญาตต่อศาลเป็นกรณีพิเศษ เพื่ออยู่บริหารแผนฟื้นฟูต่อจนกว่าจะแล้วเสร็จ

นอกจากนี้ ทางผู้บริหารแผนฯไม่เห็นด้วยกับการว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินที่กลุ่มเจ้าหนี้ได้จัดจ้างขึ้น เพราะซ้ำซ้อนกับที่ปรึกษาทางการเงินที่ทีพีไอว่าจ้างก่อนหน้านี้ หากเจ้าหนี้ยังยืนยันก็ให้เป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายเอง รวมทั้งปฏิเสธ ชำระเงินค่าที่ปรึกษาทางกฎหมายของเจ้าหนี้ จำนวน 32 ล้านบาท เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายที่สูง ปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการบริหารแผนทีพีไอชุดใหม่ รวมทั้งสิ้น 290 ล้านบาท ต่ำกว่าได้กำหนดไว้ 500 ล้านบาท นับเป็นค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าผู้บริหารแผน เดิม (อีพีแอล) ถึง 227 ล้านบาท

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us