“เรื่องมันแล้วไปแล้ว ไม่อยากจะพูดถึงอีก...ผมไม่รู้ว่าบริษัทบูรพาฯ
ปัจจุบันยังมีอิทธิพลอยู่หรือเปล่า” พิทักษ์ บุญพจน์สุนทร กรรมการผู้จัดการไทยวา
ปฏิเสธเป็นพัลวันเมื่อถูกขอให้เล่าอดีตที่มิอาจลืมกับฝ่ายทหาร
ทั้งๆ ที่เขาเองเคยบันทึกประสบการณ์ครั้งสำคัญครั้งนั้นไว้ว่า” บริษัทฯ
ถูกข้อหารับซื้อแร่ดีบุกนอกมูลภัณฑ์กันชนเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน โดยที่บริษัทฯ
เป็นผู้แทนขายในฐานะคนกลางโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งถูกทางการปรับเป็นเงินจำนวนมาก
และกระทบกระเทือนฐานะและชื่อเสียงของบริษัทฯ มาก”
ถึงแม้พิทักษ์ไม่ยอมบอกแต่ “ผู้จัดการ” ก็สืบเสาะมาจนได้ เพื่อจะยกเป็นนิทัศน์อุทาหรณ์แก่ธุรกิจที่จำต้องหรือบังเอิญต้อง
“เกาะเกี่ยว” หรือถูก “เกาะเกี่ยว” กับอำนาจบางประเภท
ซึ่งถือเป็น CASE STUDY ที่ CLASSIC อีกเรื่องหนึ่ง
เรื่องราวเกิดขึ้นราวๆ ปี 2500
ในช่วงนั้นการส่งออกแร่ดีบุกหรือแร่ชนิดอื่นใดจากประเทศไทยจะต้องผ่านบริษัทบูรพาสากลเศรษฐกิจเท่านั้น
อันเป็นที่รู้กันว่าบริษัทนี้ เป็นของกลุ่ม “สี่เสาเทเวศร์” นำโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
ตอนนั้นไทยเป็นสมาชิกภาคีดีบุกโลกแล้ว เมื่อส่งออกตามโควตาแล้วปรากฏว่าเรายังเหลือดีบุกอีกจำนวนมาก
สหรัฐอเมริกาขณะนั้นยังไม่เข้าภาคีดีบุกโลก เขาจึงถือว่าสิทธิ์จะซื้อดีบุกนอกมูลภัณฑ์กันชน
ไทยวาเป็นบริษัทตัวแทนของวาชัง สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีโรงถลุงแร่ที่มลรัฐเทกซัส
เรื่องง่ายๆ เกิดขึ้น เมื่อบริษัทบูรพาสากลเศรษฐกิจว่าจ้างบริษัทวาชังถลุงแร่ดีบุกที่ส่งไป
พร้อมทั้งขายให้ด้วยโดยผ่านบริษัทไทยวา
เมื่อเรื่องราวเหล่านี้รู้ไปถึงภาคดีบุกโลกประเทศไทยจึงถูกต่อว่าต่อขาน
หาว่าประเทศไทยละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ผู้มีอำนาจในแผ่นดินขณะนั้นจึงจำเป็นต้องหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ
การกระทำซึ่งผิดใจประเทศเบิ้มๆ ในขณะนั้น ประเทศเล็กๆ อย่างเราย่อมมิพึงกระทำ!
ไทยวามิใช่ผู้ส่งออกเพียงรายเดียว คือบริษัทบูรพาสากลฯ บริษัทวาชังซึ่งรับจ้างบริษัทบูรพาถลุงแร่ดีบุกและขายให้ ก็จะส่งเงินเป็นดอลลาร์ค่าดีบุกมาให้บริษัทบูรพาฯ ผ่านบริษัทไทยวา
“บังเอิญมีช่วงหนึ่งบริษัทบูรพาฯ ไม่มีเงินจ่ายค่าแร่ที่ซื้อมาจึงขอให้ไทยวาในฐานะตัวแทนของบริษัทวาชังจ่ายล่วงหน้าไปก่อน
ซึ่งแน่นอนต้องจ่ายเป็นเงินบาท เรื่องก็เลยกลายเป็นว่าผู้ส่งออกดีบุกนอกมูลภัณฑ์กันชนนั้นก็คือไทยวาไปอย่างช่วยไม่ได้”
ผู้รู้เรื่องดีกล่าว
ไทยวาถูกทางการปรับเงินประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งนับว่าหนักเอาการในสมัยนั้นว่ากันว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไทยวาต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนอย่างพรวดพราดจาก
5 แสนบาทมาเป็น 20 ล้านบาท
บูรพาสากลเศรษฐกิจของจอมพลสฤษดิ์ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในแผ่นดินครั้งนั้นก็สบายตัวไป...