Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2529








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2529
ในขณะเดียวกันที่สำนักงานใหญ่ ณ โรเชสเตอร์ โกดักกำลังเวียนหัวอย่างหนัก             
 


   
search resources

Kodak
Camera and Photos




ในวิถีทางแห่งธุรกิจไม่มีสูตรสำเร็จใดเป็นสูตร ตายตัว บางทีการที่บริษัทเติบโตเป็นปึกแผ่นแน่นหนาก็ไม่ใช่เครื่องประกันว่าบริษัทนั้นจะครองความเป็นหนึ่งในธุรกิจสายนั้นได้เสมอไป ตรงกันข้ามบางกรณีความใหญ่โต "ระดับยักษ์" อาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา เพราะกว่าจะก้าวแต่ละก้าว "ฝีเท้ายักษ์" ที่ใหญ่โตย่อมก่อให้เกิดความอืดอาดล่าช้า ไม่คล่องตัวเหมือนบริษัทระดับเล็กลงไป...และกรณีของบริษัทโกดัก ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจการถ่ายภาพก็เช่นกัน

1986 นับเป็นปีแห่งความสาหัสสากรรจ์ของบริษัทอีสต์แมนโกดัก (Eastman Kodak Co.) ยักษ์ใหญ่แห่งเมืองโรเชสเตอร์ (Rochester) มลรัฐนิวยอร์ค เนื่องจากเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ บริษัทประกาศว่าภายในสิ้นปีนี้บริษัทจะต้องปลดคนงานออกประมาณ 12,900 คน คือประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของคนงานทั้งหมดที่อยู่ในสังกัดของบริษัท ทั้งนี้เพื่อเป็นการตัดค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งของบริษัท นี่เป็นเครื่องแสดงอย่างชัดแจ้งว่าบริษัทกำลังอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่เพียงไร นักวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจรายหนึ่งกล่าวว่า รายได้ของบริษัทโกดักลดลงอย่างรวดเร็ว...ดูเหมือนว่ายักษ์ใหญ่ตนนี้กำลังเจ็บหนักเสียแล้ว

เมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา คือปีที่แล้ว ยักษ์เหลืองผู้ยิ่งยงตนนี้ได้มีการจัดรูปองค์กรใหม่ โดยแบ่งแผนกถ่ายภาพ (photographic division) ออกเป็น 17 หน่วย ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและแก้ไขความอืดอาดงุ่มง่ามในด้านการบริหารลูกค้าซึ่งมีผลทำให้รายได้ของบริษัทคงที่มาเป็นเวลาห้าปีแล้ว

แต่ดูเหมือนสถานการณ์ไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น มิฉะนั้นโกดักคงไม่ต้องปลดคนงานออกในปีนี้ โดยที่รู้อยู่เต็มอกว่า จะมีผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัทซึ่งมีอาการเซื้องซึมมานานให้ถึงกับทรุดหนักลงไปอีก

ที่เป็นเช่นนี้เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่บริษัทปลดคนงานออก เมื่อปี 1983 โกดักก็ปลดพนักงานออกมาแล้วเป็นจำนวนถึง 11,000 คน

"เราไม่อยากทำอย่างนี้เลยเป็นความสัตย์จริง แต่ก็สุดวิสัยเพราะภาวะการแข่งขันทางการตลาดมันบีบบังคับ" โคลบี้ เอช. ชัลเลอร์ (Coldy H. Chandler) พนักงานระดับบริหารของบริษัทกล่าวด้วยท่าทางซีเรียส

สภาพความเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ ทำให้โกดักมีอาการราวกับลากขาอันใหญ่โตเทอะทะไปอย่างช้าๆ ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่คู่แข่งวิ่งนำหน้าไปห่างไกลแทบไม่เห็นฝุ่นโดยเฉพาะธุรกิจทางด้านกล้องถ่ายรูปแบบเบ็ดเสร็จ (instant photography) ซึ่งถ่ายปุ๊บรูปออกมาปั๊บ (ลักษณะเดียวกับกล้องโพลาลอยด์) กล้อง 35 ม.ม. และเครื่องเล่นวิดีโอซึ่งสินค้าเหล่านี้เป็นธุรกิจหลักของโกดัก

ในที่สุด โกดักก็เริ่มตื่นตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ 8 เดือนก่อน โดยตัดสินใจกระโดดเข้าสู่ธุรกิจที่ต่างไปจากเดิม พร้อมกับส่งสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาด สินค้าดังกล่าวนี้ผลิตในญี่ปุ่น เช่นการพิมพ์ระบบอิเล็คโทรนิคส์ (electronic publish system) และระบบไมโครฟิล์มอัตโนมัติ (automated microfilm-imaging system)

ในปลายปี 1984 โกดักเป็นผู้บุกเบิกตลาดกล้องถ่างวิดีโอขนาด 8 ม.ม. โดยใช้สินค้าผลิตในญี่ปุ่น และในปีนี้ โกดักก็บุกตลาดสหรัฐด้วยกล้องถ่ายรูป 35 ม.ม. แต่ถึงแม้ว่าจะส่งสินค้าตัวใหม่ๆ เข้าตลาด รายได้ของบริษัทก็ไม่กระเตื้องขึ้น เนื่องจากสินค้าโกดักเหล่านั้นสู้สินค้าของบริษัทอื่นๆ ไม่ได้

บริษัทโซนี่ ส่งกล้องถ่ายวิดีโอขนาด 8 ม.ม.เข้าแย่งตลาดกล้องถ่ายวิดีโอของโกดักและปัจจุบันโซนี่ก็ขายได้กีกว่า หรือแม้แต่กล้องถ่ายรูประบบ 35 ม.ม. ญี่ปุ่นก็ครองตลาดมาก่อนเป็นเวลาหลายปี นอกจากนี้สินค้าหลักของโกดักบางชนิด เช่น ฟิล์มเอกซเรย์ และกราฟฟิคอาร์ต ก็ยังถูกคู่แข่งต่างประเทศแย่งลูกค้าไปได้โดยการขายในราคาที่ถูกกว่า

ดังนั้นทางเดียวที่โกดักจะทำได้ในสถานการณ์เช่นนี้ คือ การใช้นโยบายประหยัด ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจต่างพากันคาดหมายว่า โกดักจะต้องปลดคนงานส่วนที่เกินความจำเป็นออกไป ในขณะเดียวกันก็สั่งให้เจ้าหน้าที่ระดับผู้จัดการตัดงบประมาณ 5% ในทันที นักบริหารระดับสูงของบริษัทจำนวน 130 คน จะต้องชวดเงินค่าตอบแทนพิเศษในปีนี้ แต่ระดับลูกจ้างทั่วไปจะได้รับตามปกติ

การพยายามตัดทอนรายจ่ายที่ไม่จำเป็นต่างๆ จะช่วยให้โกดัก มีขนาดกระทัดรัดขึ้น ไม่อุ้ยอ้ายเป็นยักษ์อ้วนเหมือนเดิมเพื่อให้ขยับแข้งขาได้แข็งขัน และเคลื่อนไหวได้เร็วกว่าเดิม...แต่ก็ยังมีข้อสงสัยว่ามันเป็นการแก้ไขที่สายเกินการณ์หรือเปล่า?

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us