ตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) สั่งบริษัทสมาชิกห้ามลูกค้าใช้บัญชีซื้อขายหุ้นผ่านการกู้ยืม
(Margin Trading) หุ้น TPI 10 วันทำการ เริ่มวานนี้ เนื่องจากปริมาณหุ้นระหว่างวันที่
15-31 ต.ค. เคลื่อนไหวผิดปกติ ขณะที่รองผู้จัดการตลาดฯ ยันมาตรการนี้ ไม่ได้หวังทำลายบรรยากาศตลาดหุ้นกระทิงขณะนี้
แต่หากยังไร้ผล เตรียมห้ามคุณเน็ตเล่นหุ้นตัวนี้ ขณะที่นักลงทุนวานนี้ไม่หวั่น
ราคาหุ้นยังคงเดินหน้าเพิ่มอีก 4% ด้วยมูลค่าซื้อขายสูงสุดวานนี้กว่า 3.82 พันล้านบาท
นางภัทรียา เบญจพลชัย รองผู้จัดการ ตลท. กล่าววานนี้ 3 พ.ย.) ว่าตลาดหลักทรัพย์จะติดตามความเคลื่อนไหวราคาหุ้นและพฤติกรรมซื้อขาย บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย (TPI) ต่อเนื่อง แต่ขณะนี้ยังไม่พบว่าสร้างราคา
เพียงแต่พบว่ามูลค่าซื้อขายผิดปกติ ซึ่งหลังจากตลาดหลักทรัพย์ประกาศห้ามซื้อขายหุ้นด้วยบัญชีมาร์จิ้น
ส่งผลระดับราคาหุ้นนี้ลดลงทันที ลงต่ำสุดวานนี้ 18.30 บาท ก่อนปิดตลาดฯ วานนี้
20.30 บาท เพิ่ม 80 สตางค์ เพิ่ม 4.10% ด้วยมูลค่าซื้อขายมากอันดับแรก 3,832.83
ล้านบาท 8.22% ของมูลค่าซื้อขายรวมทั้งกระดาน ที่ 46,615 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวว่าตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้หวังทำลายบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยที่กำลังคึกคักต่อเนื่อง
ผ่านมาตรการนี้ เพียงแต่ต้องการลดความเสี่ยงให้นักลงทุนจึงประกาศเตือน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์จะห้ามลักษณะดังกล่าวกับหุ้นบริษัทอื่นๆ
อีกหรือไม่ ยังไม่สามารถระบุได้ นักลงทุนควรติดตามข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ใกล้ชิด
มาตรการต่อไปหลังจากห้ามบัญชีมาร์จิ้น หากยังพบความเคลื่อนไหวผิดปกติอีก ตลาดหลักทรัพย์จะใช้มาตรการห้ามซื้อขายบัญชีหักกลบลบหนี้วันเดียวกัน (Net settlement)
ทางด้านนายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการ บล.แอสเซท พลัส กล่าวว่า การที่ตลาดหลักทรัพย์ใช้มาตรการห้ามซื้อขายหุ้น
TPI ด้วยเงินกู้ เป็นสิ่งที่ดี เพราะป้องกันความเสียหายที่มีโอกาสจะเกิดกับนักลงทุนรายย่อย
หากได้รับข้อมูลไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจลงทุน
การที่หุ้น TPI ปรับตัวขึ้นได้มากช่วงแรก เนื่องจากคาดการณ์แผนปรับโครงสร้างการเงินธุรกิจของบริษัทจะฉลุย
แต่ก็ยังไม่มีอะไรชัดเจน อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มฟื้นฟูกิจการปรับตัวขึ้นแรง ทำให้ตลาดหลักทรัพย์เกรงว่า
นักลงทุนจะได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน เกิดความเสี่ยง
นอกจากนี้ เขายังเห็นว่าการห้ามซื้อขายหุ้นแบบหักกลบลบหนี้ภายในวันเดียว (Net
Settlement) ตลาดหลักทรัพย์สามารถทำได้ หากพบว่าราคาหุ้นเคลื่อนไหวแรงแบบไม่มีเหตุผล
ซึ่งการห้ามซื้อขายดังกล่าวอาจห้ามสำหรับโบรกเกอร์ หรือห้ามซื้อขายหุ้นตัวนั้นๆ
ก็ได้
ดังนั้น การห้ามเน็ตฯ สำหรับบริษัทที่ให้ข้อมูลข่าวสารไม่ครบถ้วน ผลดำเนินงานไม่สอดคล้องกับราคาหุ้น
และเป็นบริษัทที่มีอนาคต ขึ้นกับผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ จึงถือเป็นเรื่องดี