BH หุ้นร้อน กลับมาเทรดซื้อขายในกลุ่มการแพทย์วันแรก เปิดตลาดที่ 61 บาท พุ่ง
1100% ก่อนมีแรงเทขายออกมาปิดตลาดที่ 54 บาท เพิ่มขึ้น 1049% โบรกเกอร์เตือนนักลงทุนอย่าผลีผลาม
ชี้ราคาหุ้นสูงเกินจริง ให้ราคาอ่อนตัวค่อยช้อนซื้อ
รายงานความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น BH หรือบมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งได้รับอนุมัติจากตลาด
หลักทรัพย์ให้กลับมาเปิดเทรดได้อีกครั้งในวันนี้เป็นวันแรก หลังหยุดพักการ ซื้อขายมานานกว่า
3 ปี โดยเปิดตลาดที่ ระดับ 61.00 บาท หลังจากนั้นมีแรงซื้อ ดันราคาแตะสูงสุดที่
62.00 บาท ก่อนมี แรงเทขายออกมา
ปิดตลาด BH อยู่ที่ 54.00 บาท เพิ่มขึ้น 49.30 บาท เปลี่ยนแปลง 1048.94% มูลค่าการซื้อขายรวม
1,363.66 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีมิโก้ กล่าวว่า ราคาหุ้น BH ที่ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่
54.00 บาท/หุ้น ถือว่าสูงกว่าที่เรา กำหนดราคาเป้าหมายไว้ที่ 50 บาท ซึ่งเป็นระดับ
PE 15 เท่า เนื่องจากบริษัทฯ มีฐานลูกค้าต่างชาติมากตลอดจนความ พร้อมทางด้านบริการต่อลูกค้าในกลุ่มนี้
สอดรับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้ไทยเป็นศูนยกลางการแพทย์แห่ง เอเชีย จึงทำให้
BH มีศักยภาพเหนือคู่แข่งขันรายอื่นๆ ในการเติบโตจากลูกค้ากลุ่มนี้
แต่เนื่องจาก BH ไม่มีสาขาเมื่อเทียบกับโรงพยาบาลอื่น ทำให้การเติบโตทางรายได้และกำไรมีน้อยในอนาคต
จึงไม่แนะนำให้ซื้อลงทุน รอจังหวะราคาอ่อนตัวค่อยช้อนซื้อ
โดยเราประมาณกำไรสุทธิต่อหุ้น ปีนี้และปี 2547 ที่ 3.37 และ 3.47 บาท ต่อหุ้น
เติบโต 37% และ 3% เมื่อเทียบ จากปีก่อนตามลำดับ เป็นผลจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดทางรายได้และค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ
ที่ลดลง โดยคาดการณ์รายได้ปีนี้และปีหน้า เติบโตที่ระดับ 22% และ 15% ตามลำดับ
ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้อยู่ที่ระดับ 30.6% และจะปรับขึ้นเล็กน้อยในปีหน้าที่ระดับ
3.18%
บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง ระบุว่า ราคาหุ้น BH ที่ปิดตลาดสูงถึง 10 เท่าเป็นผลจากนักลงทุนคาดหวังว่าเป็น
หุ้นใหม่ที่กลับมาเทรดจะมีพรีเมี่ยมสูง แต่ราคาที่เทรดซื้อขายกันนี้นับว่าสูงเกิน
ไป เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ซึ่งเราประเมินราคาหุ้นตัวนี้อยู่ที่
40 บาท มี PE10 เท่า
คาดว่าในปีนี้ BH กำไรต่อหุ้นจะมีการเติบโตถึง 168% และปีหน้าโตได้ต่อ 15% เป็น
3.35 บาท/หุ้น และ 4.06 บาท/หุ้น ตามลำดับ นอกจากนั้นเรายังได้ปรับ NPV ขึ้นอีก
54% จากเดิมเคยคาดเพียง 26 บาท เป็น 40 บาท จากราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน จึงไม่แนะนำให้ซื้อ
จนกว่าราคาจะอ่อนตัวลงมาอยู่ใน ระดับที่ใกล้เคียง 40 บาทแล้วค่อยช้อนซื้อ
ด้านบล.ฟาร์อีสท์ ประเมินว่า BH มีแผนจะใช้ส่วนเกินทุนที่มีอยู่ (share premium)
มาลดทุนโดยการลดพาร์จาก 10 บาท เหลือ 5 บาท เพื่อนำมาล้าง ขาดทุนสะสม และจะทำให้
BH สามารถ จ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2547 ได้ ซึ่งเราคาดว่า BH จะจ่ายเงิน
ปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2547 ที่ 2.20 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น dividend yield 4.68%
จากการเติบโตของรายได้และการ ฟื้นตัวอย่างชัดเจนของธุรกิจโรงพยาบาล รวมทั้งศักยภาพในการทำกำไรที่ดี
ในอนาคต ดังนั้นหาก BH กลับมา ซื้อขาย ในช่วงราคาตลาดไม่เกิน 61 บาท