Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน30 ตุลาคม 2546
SCCปี47ออกหุ้นกู้ 1.2หมื่นล้านรีไฟแนนซ์หนี้ลดภาระดอกเบี้ย             
 


   
search resources

ปูนซิเมนต์ไทย, บมจ.
ชุมพล ณ ลำเลียง
กานต์ ตระกูลฮุน
Cement




SCC ออกหุ้นกู้ 1.2 หมื่นล้าน เพื่อนำเงินไปรีไฟแนนซ์หนี้เก่าที่จะครบดีลในปีหน้า หวังภาระจ่ายดอกเบี้ยลดลง1พันล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3 พุ่ง 32% อานิสงส์จากยอดขายที่สูงขึ้นและดอกเบี้ยจ่ายลดลง ปีหน้าปิโตรเคมียังโตเพราะตลาดจีนยังต้องการอีกมาก

นายชุมพล ณ ลำเลียง กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) เปิดเผยผลการ ดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้ว่าบริษัทมียอด ขาย 36,029 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เทียบ กับงวดเดียวกันของที่ผ่านมา ซึ่งมียอดขายจำนวน 33,996 ล้านบาท

ในไตรมาส 3 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนรายการพิเศษ 4,194 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 4,864 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 32% ในขณะที่ EBITDA เท่ากับ 8,942 ล้านบาท เพิ่ม ขึ้น 7% กำไรจากการดำเนินงานก่อนรายการพิเศษ เท่ากับ 4,194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% และมีกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น32% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับกำไรจากการขายที่ดิน และสินทรัพย์อื่นๆ 670 ล้านบาท

เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ยอดขายสุทธิใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนรายการพิเศษเพิ่มขึ้น 20% และกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 36% โดยส่วนใหญ่เป็นผลเนื่องมาจาก Margin ที่เพิ่มสูงขึ้นของผลิตภัณฑ์ในธุรกิจปิโตรเคมี

ทั้งนี้ ไตรมาสที่ 3 ปี 2546 เครือฯ มีส่วนได้เสียในกำไรของบริษัทร่วม เท่ากับ 1,490 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เมื่อ เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

โดยรายได้มาจากบริษัทร่วมในธุรกิจปิโตรเคมี เท่ากับ 934 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจ SM MMA และ PTA ซึ่งโดยรวมแล้วเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

จากบริษัทร่วมอื่นๆ เท่ากับ 556 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ และธุรกิจ เหล็ก ในส่วนนี้รวมแล้วลดลง 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 21% เมื่อ เทียบกับไตรมาสก่อน

ขณะที่ในไตรมาส 3 ธุรกิจเยื่อกระดาษและบรรจุภัณฑ์มียอดขายรวมเพิ่มขึ้นสูงสุดคือ 12% ผลจากราคากระดาษและบรรจุภัณฑ์สูงขึ้น และยังรับรู้รายได้จาก United Pulp and Paper Co., (UPPC) ที่ฟิลิปปินส์

โดยในไตรมาส 4 ปีนี้ SCC ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น 10% เทียบกับช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายรวมอยู่ที่ 120,000 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทจะเน้นจำหน่ายธุรกิจกระดาษและบรรจุ-ภัณฑ์ รวมถึงธุรกิจปูนซีเมนต์ให้มากขึ้นกว่าช่วง ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เพราะปริมาณความต้องการ ของลูกค้าสูงมากขึ้น เพราะเมื่อเทียบไตรมาส 3 และไตรมาส 2 ปีนี้พบว่า ธุรกิจปิโตรเคมีปรับตัวดีขึ้น และไตรมาส 4 ก็ยังโตต่อ ซึ่งตลาดจีนยังต้องการปิโตรเคมีอีกมาก ขณะที่ผู้ผลิตมีกำลัง ผลิตน้อย การขยายตัวของผู้ผลิตจึงยังมีโอกาสอีกมาก

จากการที่ธุรกิจกระดาษและบรรจุภัณฑ์มีการปรับตัวที่สูงขึ้นในช่วงไตรมาส 3เนื่องจากปริมาณยอดการสั่งซื้อจากต่างประเทศมีอัตราที่สูงขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ติดต่อที่จะส่งสินค้ากระดาษและบรรจุภัณฑ์ไปยังประเทศอินโดนีเซีย ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งคาดว่าจะผลักดันรายได้รวมของบริษัทฯ ให้มีอัตราที่สูงขึ้น

นายชุมพลกล่าวว่า การปรับโครงสร้างองค์กรและปรับหนี้แต่ละแห่งต้องใช้เวลา และต้องรอให้บริษัทนั้น ๆ ปรับโครงสร้างเสร็จสิ้นก่อน ขณะนี้จึงยังมีรายละเอียดในการเข้าไปลงทุน แต่ ยอมรับว่ามีการทาบทามจากบริษัทในต่างประเทศ แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ก่อนหน้านี้นายชุมพลเคย กล่าวไว้ว่า การลงทุนแบบเข้าไปซื้อกิจการที่มีเครื่องจักรและอุปกรณ์อยู่แล้ว จะสร้างรายได้ให้เกิดเร็วกว่าการที่จะต้องเริ่มต้นนับหนึ่ง ดังนั้น การลงทุนของ SCC ในยุคนี้จึงเน้นเข้าไปร่วมทุนหรือซื้อกิจการเดิมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของSCC ที่ดำเนินการอยู่

ส่วนธุรกิจซีเมนต์ในขณะนี้ บริษัทฯ เน้นขายในประเทศมากกว่าส่งออกไปยังต่างประเทศ เพราะอัตราความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในภาคอสังหาฯ ที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตขึ้นในช่วงไตรมาส 4 การส่งออกปูนซีเมนต์คงน้อยกว่าปี'45 ถึงกว่าประมาณ 10% เพราะจากปี'45 ที่ส่งออกอยู่ประมาณ 7 ล้านตัน คาดว่าปีนี้จะลดลงมาที่ 1 ล้านตัน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้น

นายชุมพล กล่าวต่อว่า สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2547 คาดว่าจะเกิดฟองสบู่ ขึ้นได้ เนื่องจากเรามองว่า อัตราการสร้างบ้านระดับบนที่มีราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป จะค่อนข้าง สูงเมื่อเทียบกับรายได้ของผู้บริโภคส่วนใหญ่มีน้อยกว่าจำนวนบ้านที่สร้างขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนโยบายการจ่ายปันผลในปี'47 อยู่ที่ระดับ 35-45% ของกำไรสุทธิ

ออกหุ้นกู้ 1.2 หมื่นล้านรีไฟแนนซ์หนี้เก่า

นายกานต์ ตระกูลฮุน ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ SCC กล่าวว่า ปัจจุบัน SCC มีหนี้กู้ทั้งสิ้น 1.228 แสนล้านบาท ลดลงจากเมื่อสิ้นปี 2545 ที่มีอยู่ 1.263 ล้านบาท โดยเป็นหนี้หุ้นกู้กว่า 8 หมื่นล้านบาท และหนี้ที่กู้จากสถาบันการเงินที่มีอยู่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยสิ้นปีนี้ผู้บริหารยืนยันว่าจะลดหนี้ให้เหลือต่ำกว่า 1.2 แสนล้านบาทให้ได้ เพื่อที่จะทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายในปีหน้าลดลง 1 พันล้านบาท

"เราอยากเห็นหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ให้ ลดต่ำลงเหลือ 3.5 เท่า ภายในปีหน้า และเราเชื่อว่า เราจะทำได้ ปีที่แล้วเราลดลงจากก่อนหน้านั้นที่มีอยู่ 8-9 เท่า เหลือเพียง 4.2 เท่า และหลังจากที่เราลดตัวนี้ได้ จะส่งผลให้ลดภาระดอกเบี้ยของ เราได้"

สำหรับหุ้นกู้ของ SCC ปีหน้าจะครบดีลทั้งสิ้น 2.5 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ยโดยเฉลี่ย 6.9% ซึ่งบริษัทต้องออกหุ้นกู้ล็อตใหม่ออกมาเพื่อรีไฟแนนซ์หนี้เก่า เพราะเงินที่ใช้ในการลงทุนของบริษัทในช่วงที่ผ่านมาคือการออกหุ้นกู้เป็นส่วนใหญ่ และเงินสดจากการดำเนินงาน

โดยหุ้นกู้ที่จะครบดีลคือเมษายนปีหน้า 2 ชุดคือ จำนวน 5.2 พันล้านบาท ดอกเบี้ย 3.5% และจำนวน 8,800 ล้านบาท ดอกเบี้ย 10.5% และ ครบดีล ตุลาคม จำนวน 5,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 5.5% ครบดีลพฤศจิกายน 6,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 8.75%

ดังนั้น SCC จึงต้องออกหุ้นกู้ล็อตใหม่เพื่อนำมารีไฟแนนซ์หนี้เก่า คาดว่าจะออกอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us