กระทรวงการคลัง เผยคณะกรรมการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ 1 อนุมัติค่าใช้จ่ายดำเนินการตลอดระยะเวลา
10 ปี กำหนดเพดานไม่เกิน 0.7% ของมูลค่ากองทุน 1 แสนล้านบาท หรือไม่เกิน 700 ล้านบาท
ด้านผู้บริหารมั่นใจคุ้มทุน เหตุผลตอบแทนที่คลังจะได้รับเฉลี่ยสูงถึง 10-12%
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการในการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์
1 ที่มีร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ได้อนุมัติค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของกองทุนวายุภักษ์
1 โดยมีเพดานสูงสุดไม่เกิน 0.7% ของเงินกองทุนที่มีวงเงินจัดตั้งขั้นต้นที่ 100,000
ล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวน เงินไม่เกิน 700 ล้านบาท
โดยค่าใช้จ่ายต่างๆ ประกอบด้วย 1.ค่าใช้จ่ายในการจัดจ้างที่ปรึกษา ทางการเงิน
คือ บริษัทฟินันซ่า และบริษัทเทิร์น อะราวด์ ที่มีข้อตกลงไว้ว่าจะจ่ายค่าตอบแทนในอัตรา
0.15% ของมูลค่ากองทุนในกรณีที่สามารถขายหน่วยลงทุนได้ไม่เกิน 75,000 ล้าน บาท
แต่หากจำหน่ายได้สูงกว่า 75,000 ล้านบาท จะจ่ายค่าตอบแทนในอัตรา 1% ของมูลค่ากองทุน
2.ค่าใช้จ่ายในการจัดจ้างผู้จัดการกองทุน คือ บลจ.กรุงไทย และบลจ.เอ็มเอฟซี ที่กองทุนจะจ่ายในอัตรา
0.08% ของมุลค่าสุทธิของ กองทุน หรือไม่เกิน 40 ล้านบาทต่อปี 3.ค่าใช้จ่ายในการจัดจ้างตัวแทนในการ
จัดจำหน่ายหน่วยลงทุน คือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยธนาคาร
ธนาคารกรุงไทย และธนาคารนครหลวงไทย ในอัตรา 0.15% ของยอดจำหน่าย
4.ค่าใช้จ่ายในการจัดจ้างผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุน จำนวน 5 ล้านบาทต่อปี 5.ค่าใช้จ่ายในการจัดจ้าง
นายทะเบียน 25-40 ล้านบาท 6.ค่าใช้จ่ายในการจัดจ้างผู้สอบบัญชี โดยปี 2546 จ่ายทั้งสิ้น
300,000 บาท ปี 2547-2549 จ่าย 700,000 บาท ปี 2550-2552 จ่าย 800,000 บาท และปี
2553-2555 จ่าย 1 ล้านบาท และ 7. ค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์ จำนวน 50 ล้าน บาท
"ค่าใช้จ่ายดังกล่าวส่วนใหญ่เป็น ค่าใช้จ่ายที่เป็นกฎเกณฑ์ที่แน่นอนในการจัดตั้งกองทุนตามระเบียบของ
ก.ล.ต.อยู่แล้วแต่ในส่วนค่าใช้จ่ายในการจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน ผู้จัดการกองทุน
และผู้จัดจำหน่าย ทาง คณะกรรมการก็พยายามต่อรองให้ได้ ราคาที่ต่ำที่สุด เพราะเห็นว่าเรื่องนี้เป็น
เงินของทางการ และเป็นโครงการที่ออกมาเพื่อช่วยเหลือประชาชน" แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าว กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม จากการคำนวณของคณะกรรมการ เห็นว่าถึงแม้กองทุนจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่เป็นต้นทุนอยู่ประมาณ
0.7% ของเงินกองทุน แต่โอกาสในการทำกำไรของกองทุนนี้ก็มีอยู่สูง โดยได้มีการประมาณการว่า
เฉพาะในส่วนของกระทรวงการคลังที่จะร่วมลงทุนในกองทุนนี้ประมาณ 30,000 ล้านบาท น่าจะมีผลตอบแทนในช่วงปีแรกๆ
อยูที่ 3-5% และขยับขึ้นเป็น 6-7% ในช่วงกลาง ทำให้เฉลี่ย ผลตอบแทนตลอด 10 ปีของการลงทุนในกองทุนวายุภักษ์
1 จะอยู่ที่ 10-12%
ทั้งนี้ กองทุนวายุภักษ์ 1 มีกำหนดออกหนังสือชี้ชวนในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ และเปิดจองหน่วยลงทุนในวันที่
11 เป็นต้นไป โดยจะให้ เวลาในการจอง ซื้อประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะประกาศผลหลังจากวันจองซื้อ
3 วันทำการ โดยกระทรวงการคลังมีโปรแกรมที่จะออก เดินทางไปโรดโชว์ใน 6 จังหวัด ดังนี้
ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ นครราชสีมา ชลบุรี และหาดใหญ่ ใน สัปดาห์นี้จนถึงวันที่
9 ก่อนที่จะเปิดให้มีการจองซื้อในวันที่ 11 พฤศจิกายน นี้