"วิโรจน์" เอ็มดีแบงก์กรุงไทย คาดดอกเบี้ยยังคงต่ำ ติดดินเช่นปัจจุบันอย่างน้อยอีก
2-3 ปี เหตุสภาพคล่องการเงินยังล้นระบบแบงก์ คนฝากเงินที่ผันไปเล่น หุ้น เมื่อฟันกำไรจะกลับมาฝากแบงก์
เหมือนเดิม ขณะที่กองทุนวายุภักษ์ 2 คาดดูดซับสภาพคล่องได้บ้าง แม้ ไม่มาก เชื่อโครงการโทรคมนาคมของไทยปัจจุบัน
ที่ยังต้องการเงินลงทุนรวมกว่า 9 แสนล้านบาท จะช่วยดูดซับสภาพคล่องส่วนเกินได้มาก
ขณะที่แบงก์กรุงไทยคาดฟันรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มเท่าตัวเป็น กว่า 30% ของรายได้ทั้งหมดในอนาคต
นายวิโรจน์ นวลแข กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า แม้สภาพเศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว
แต่สภาพคล่องการเงินในระบบของธนาคารพาณิชย์ไทย จะยังคงล้นระบบเช่นปัจจุบันต่อไปอีก
2- 3 ปีข้างหน้า เมื่อดูจากปริมาณปล่อยสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ที่น้อยกว่าเงินฝาก
ซึ่งจะเป็นปัจจัย ส่งผลอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของระบบไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้มากนัก
เขาคาดว่าดอกเบี้ยเงินฝากแท้จริง จะไม่สามารถปรับเพิ่มได้เกิน 4% ต่อปีช่วง 2-3
ปีข้างหน้า เพราะหากขึ้นมากกว่าระดับดังกล่าว จะส่งผลกระทบอัตราเงินเฟ้อในประเทศ
และระบบเศรษฐกิจโดยรวม
ดอกเบี้ยยังต่ำติดดินอีก 2-3 ปี
ช่วงที่ผ่านมา กลไกตลาดฯ ปรับตัว โดยเคลื่อนย้ายเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ ลงทุน
ตลาดทุนไทย แต่ก็ไม่สามารถช่วยดูดซับสภาพคล่องในระบบได้มากนัก เนื่องจากนักลงทุนที่โยกย้ายเงินทุนส่วนนี้
เมื่อได้กำไรจากการขายหุ้น จะฝากธนาคารเช่นเดิม ซึ่งลักษณะดังกล่าว เป็นเพียงการหมุนเวียนเงินทุนเท่านั้น
ไม่มีส่วนช่วยดูดสภาพคล่องออกจากระบบ
วิธีการที่จะช่วยดูดซับสภาพคล่องได้ระยะนี้ คือ เสนอขายกองทุนวายุภักษ์กองที่
1 จำนวน 70,000 ล้านบาท น่าจะเป็นตัวช่วยดึงสภาพคล่อง ของระบบออกไปได้ แม้จะเป็นเงินปริมาณไม่มาก
นักเมื่อเทียบสภาพคล่องทั้งระบบ
นายวิโรจน์ กล่าวว่า วิธีการจะลดสภาพคล่อง ของระบบระยะยาว ดีที่สุดคือต้องสนับสนุนให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ
เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกรรมที่ต้องการเงินลงทุนปริมาณมากๆ เพื่อขยายกิจการ
ขณะที่ธุรกรรมแบบเก่าที่มีอยู่ ต้องการ สินเชื่อน้อยกว่า
การที่เศรษฐกิจไทยเติบโตต่อเนื่องและยั่งยืน จะทำให้ผู้ประกอบต้องการสินเชื่อเพื่อขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น
คาดว่านักลงทุนต่างประเทศจะลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากเชื่อมั่นศักยภาพเศรษฐกิจไทยที่โดดเด่นมากปัจจุบัน
ซึ่งเป็นอานิสงส์ จากการเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปกที่ผ่านมา
โทรคมนาคม 9 แสนล.ช่วยดูดซับได้
นอกจากการลงทุนภาคเอกชน ภาครัฐเองก็มีแนวโน้มจะลงทุนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
แผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม มูลค่าโครงการทั้งระบบ ประมาณ 9 แสนล้านบาท
ซึ่งน่าจะเป็นตัวหลักช่วยดูดซับสภาพคล่องของระบบ ลดลงได้ นายวิโรจน์ จึงเชื่อว่าปีนี้
สภาพคล่องระบบ คงจะลดลงได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณิชย์ไทยจะยังคงติดอยู่ในกับดักสภาพคล่องอย่างนี้ต่อไปอีก
2-3 ปี
"แม้ว่าปีหน้า สภาพคล่องจะลดลงจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ตามการเติบโตของเศรษฐกิจ
แต่ธนาคารพาณิชย์ไทยยังต้องอยู่กับสภาพคล่องที่เหลืออยู่มากถึง 7 แสนล้านต่อไปอีก
2-3 ปี ธนาคาร จึงต้องเร่งหาวิธีปรับตัวและบริหารสภาพคล่องที่มีอยู่ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระลงและเพิ่มความคล่องตัวในการแข่งขันให้มากขึ้น"
นายวิโรจน์ กล่าว
ปัจจุบัน ธนาคารกรุงไทยสภาพคล่องประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งวิธีลดสภาพคล่องส่วนนี้
ธนาคาร พยายามเร่งปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ภาวะดอกเบี้ยต่ำ เช่นนี้ ธนาคารเพิ่มรายได้ด้วยวิธีหาค่าธรรมเนียมทำธุรกรรมต่างๆ
เพิ่มขึ้น สิ้นไตรมาส 3 ปีนี้ ธนาคาร รายได้ค่าธรรมเนียมประมาณ 15% ของรายได้รวม
คาดว่าอนาคต รายได้ค่าธรรมเนียมธนาคาร จะเพิ่ม ถึง 30% ของรายได้รวม