Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 ตุลาคม 2546
"ไทยคูน"สร้างโรงงานใหม่กรุงเทพน่าลงทุนกว่าปักกิ่ง             
 


   
www resources

โฮมเพจ กิมเอ็ง

   
search resources

หลักทรัพย์กิมเอ็ง, บมจ.
ไทยคูน เวิลด์ไวด์ กรุ๊ป (ประเทศไทย), บมจ.
เคนนี่ ฮวง
Metal and Steel




บริษัท ไทยคูน เวิลด์ไวด์ กรุ๊ป (ไทยแลนด์) ผู้ผลิตเหล็กลวดจนถึงนอตครบวงจร จะเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไป 157 ล้านหุ้น 24-26 พ.ย.นี้ เพื่อระดมทุนประมาณ 2 พันล้านบาท โดยจะนำเงินที่ได้ ไปสร้างโรงงานใหม่ในไทย และชำระคืนเงินกู้บริษัทแม่ในไต้หวัน เขายืนยันว่าประเทศไทยน่าลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ มากกว่าในจีน เพราะนโยบายรัฐบาลไทยคงเส้นคงวามากกว่ารัฐบาลปักกิ่ง

นายเคนนี่ ฮวง ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคูน เวิลด์ไวด์ กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้นบริษัทที่จะเสนอขายประชาชนทั่วไป เพื่อจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย จะเป็นหุ้นใหม่ 125 ล้านหุ้น อีก 32 ล้านหุ้น เป็นส่วนผู้ถือหุ้นเดิม บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนก่อสร้างโรงงานใหม่ในไทย มูลค่ารวม 250-350 ล้านบาท รวมถึงชำระหนี้ให้บริษัทแม่ในไต้หวัน 1.358 พันล้านบาท

"บริษัทจะกำหนดราคาหลังจากสำรวจราคา (Book building) จากนักลงทุนสถาบัน วันที่ 14-15 พ.ย.นี้ คาดว่าจะเสนอขายนักลงทุน สถาบันจำนวน 35-40% และ 60% เสนอขายประชาชนทั่วไป โดย บล. กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นแกนนำจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นบริษัท" นายฮวงกล่าว

สร้างโรงงานใหม่ในไทย

ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท คือการผลิตนอต เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์ ที่การผลิตกำลังขยายตัวอย่างมากในไทย ผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท คือนอตตัวผู้และตัวเมีย จะผลิตเพิ่มขึ้น โดยสร้างโรงงานใหม่ในไทย โดยใช้เงินที่ได้จากการขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้ ซึ่งจะมีกำลังผลิตรวมประมาณ 3 หมื่นตันต่อปี โรงงานใหม่จะเสร็จภายในปี 2547 จะเริ่มมีรายได้ เข้าบริษัทประมาณปี 2548 เงินที่เหลือใช้เป็นทุนหมุนเวียนทำธุรกิจ รวมทั้งชำระคืนเงินกู้บริษัทแม่ในไต้หวัน

ปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 5.1 พันล้านบาท ครึ่งแรกของปี บริษัทมีรายได้รวม 2.69 พันล้านบาท เติบโต 42% จากช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิ 425 ล้านบาท เติบโต 391% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นปีที่อุตสาหกรรมโดยรวมซบเซาที่สุดในรอบ 6 ปีที่ผ่านมาทำ ให้บริษัทกำไรเพียง 450 ล้านบาท

แนวโน้มอนาคต เขาเชื่อว่ารายได้บริษัทจะมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะปี 2548 บริษัทจะได้รับประโยชน์จากการจัดงานใหญ่ของ ประเทศจีน ปี 2551 จีนจะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิก ดังนั้นบริษัทซึ่งมีบริษัทย่อยในจีน น่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ไทยน่าลงทุนกว่าจีน

เขายืนยันว่า บรรยากาศการลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างประเทศในไทยดีกว่าในจีนมาก โดยเฉพาะรัฐบาลไทยมีนโยบายคงเส้นคงวา ที่จะส่งเสริมการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในไทย ไม่เหมือนรัฐบาลจีน ที่นโยบายส่งเสริมการลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างชาติในจีน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไร้ความแน่นอน

ขณะนี้ บริษัทซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของไทย เดินเครื่องโดยมีกำลังผลิตรวม 85% ของกำลังผลิตทั้งหมด คาดว่าปี 2547 จะเพิ่มขึ้นอีก 10-15% ปี 2548 จะเดินกำลังผลิตเต็ม 100% ปัจจุบันบริษัทมีกำลังผลิตรวมเหล็กลวด ซึ่งเป็นวัตถุดิบผลิตยางรถยนต์และชิ้นส่วนอื่น ๆ 3.60 แสนตันต่อปี เหล็กลวดอบอ่อน 7.2 หมื่นตันต่อปี และนอต 3.6 หมื่นตันต่อปี โครงสร้างรายได้ดังนี้ เหล็กลวด 65% เหล็กอบอ่อน 10% และนอต 25%

ส้มหล่นขายรถบูม

แนวโน้มอุตสาหกรรมนี้มีทิศทางที่ดี โดยเฉพาะการที่อุตสาหกรรมยานยนต์ขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทย บริษัทเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมนี้ ก็จะได้รับผลดีตามไปด้วย

บริษัททุนจดทะเบียน 6.28 พันล้านบาท การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย จะส่งผลบริษัท ไม่มีหนี้ จากปัจจุบันที่มีหนี้สินต่อทุน 0.57 เท่า

เขากล่าวว่า โครงสร้างผู้ถือหุ้นหลังเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) แล้ว บริษัท ไทยคูน กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จากไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นแม่ จะมีสัดส่วนลดจาก 99.99% เหลือ 75%

บริษัท ไทยคูน เวิลด์ไวด์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) ส่วนแบ่งตลาดด้านนอตในไทย 8% ส่งออก 60% ขายในประเทศ 40% การที่บริษัทมีสัดส่วนส่งออกสูง จึงกระทบจากการแข็งค่าเงินบาท แต่ไม่มาก เนื่องจากบริษัททำประกันป้องกันความเสี่ยงผันผวนค่าเงินไว้ระดับหนึ่งแล้ว

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us