Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2546








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2546
เบญจรงค์ ปิ่นสุวรรณ             
โดย อรวรรณ บัณฑิตกุล
 

   
related stories

สืบสานลายไทยที่อัมพวา

   
search resources

ปิ่นสุวรรณ เบญจรงค์
วิรัตน์ ปิ่นสุวรรณ
Ceramics




แรกเริ่มเลยทีเดียว "ผู้จัดการ" คาดว่าโรงงานเบญจรงค์ ปิ่นสุวรรณ ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการการจัดประชุม APEC ให้ทำของที่ระลึกมอบแก่ผู้นำแต่ละประเทศ นั้นคือเจ้าของโรงงานที่มีประวัติยาวนานนับชั่วอายุคน

แต่เมื่อได้ตามไปพูดคุยกับ วิรัตน์ ปิ่นสุวรรณ เจ้าของโรงงานถึงอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ปรากฏว่าสิ่งที่ "ผู้จัดการ" คิดไว้ผิดหมด แต่ประวัติความเป็นมาและเรื่องราวของเขากลับน่าสนใจยิ่งกว่าที่คิดไว้แต่แรกด้วยซ้ำไป

วิรัตน์เป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรี เกิดเมื่อ พ.ศ.2470 ปัจจุบันอายุ 76 ปี ศึกษาจบชั้นมัธยมปีที่ 6 รับราชการเป็นครูประมาณ 7 ปี หลังจากนั้นก็แต่งงานกับแม่ค้าชาวสวนมะพร้าว จังหวัดสมุทรสงคราม ต่อมาได้ลาออกมาเปลี่ยนอาชีพเป็นพ่อค้ารับซื้อมะพร้าวบรรทุกเรือไปขายที่ปากคลองตลาด โดยอาศัยบ้านของน้าสาวภรรยาเป็นที่พัก

เรื่องเล่าในช่วงเวลานั้น ล้วนเต็มไปด้วยความลำบาก ลูกทั้ง 4 คน ที่มีอายุไล่ตามกันมาก็ยังเล็ก และทุกคนต้องเรียนหนังสือ ชีวิตจึงต้องเป็นหนี้เป็นสิน เหมือนผู้มีรายได้น้อยส่วนใหญ่ทั่วไปของประเทศ จนต้องขายที่ขายทางใช้หนี้

จนกระทั่งปี พ.ศ.2510 วิรัตน์ได้รู้จักกับพ่อค้าของเก่า คนหนึ่งจากกรุงเทพฯ ที่มาตระเวนหาซื้อของเก่า ประเภทถ้วยชามโบราณ เครื่องสังคโลก และเครื่องเบญจรงค์ จากชาวบ้าน และพ่อค้าคนนี้เองที่ขอให้วิรัตน์ซึ่งอยู่ในย่านนี้มานานและรู้จักคนมากมาย ช่วยพาไปหาซื้อของเก่าตามบ้านชาวบ้าน

ตรงนั้นเองเป็นจุดเริ่มต้นให้วิรัตน์รู้จักกับของเก่า และเครื่องเบญจรงค์ แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้วิถีชีวิตของเขาและครอบครัวเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต

ในช่วงแรกเขามีคำถามกับตัวเองว่า ทำไมนะข้าวของเก่าๆ เหล่านั้นจึงขายได้ราคาดี ทำไมบางคนถึงยอมเสียเงินแพงๆ เพื่อซื้อถ้วยเพียงใบเดียวไปตั้งโชว์ แต่ต่อมาเมื่อได้ซึมซับสัมผัสกับของเก่ามากๆ เข้า เขากลับรู้สึกรักและมีความรู้สึกผูกพันลึกซึ้ง กับสิ่งของแต่ละชิ้น และเริ่มเข้าใจว่านี่คือการซื้อขายงานศิลปะของช่างโบราณที่ทำมานานตั้งแต่สมัยสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา และกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งหาได้ยากมากในปัจจุบัน

วิรัตน์เริ่มศึกษาและหาหนังสืออ่านเกี่ยวกับประวัติของของเก่าพวกนั้น และสนใจเป็นพิเศษในสีสันอันสวยงามของเครื่องเบญจรงค์ ต่อมาภายหลังได้ไปหาซื้อของเองจากชาวบ้าน เมื่อของเก่าย่านสมุทรสงครามเริ่มน้อยลง ก็เดินทางล่องใต้เลยเรื่อยไปตามจังหวัดราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ภาคเหนือก็ไปทั่วทั้งอยุธยา ชัยนาท อ่างทอง เมื่อได้ของมาแล้ว ก็ให้พ่อค้าจากกรุงเทพฯ มาซื้อต่ออีกที ของที่เหลือก็ได้นำไปขายเองที่ท้องสนามหลวง

ของบางชิ้นที่ชำรุดหักพัง เขาก็จะหาวิธีและเทคนิคต่างๆ มาซ่อมแซมจนเหมือนเดิม พร้อมๆ กับศึกษาเรื่องการผสมสีให้เหมือนของเก่ามากที่สุด เพื่อต่อเติมลงลึกในรายละเอียดของลวดลายที่ขาดหาย

ทั้งหมดคือการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อนำไปใช้บูรณะซ่อมแซมเป็นหลัก ซึ่งทุกขั้นตอนต้องอาศัยเวลา และความเพียรพยายามอย่างมากจนความชำนาญเพิ่มขึ้นตามวันเวลาที่ผ่านไปหลายปี จนวิรัตน์สามารถทำสินค้าชิ้นใหม่เลียนแบบลวดลายเก่าได้อย่างเหมือนจริงและสวยงาม

ในปี พ.ศ. 2530 วิรัตน์อายุครบ 50 ปี แต่เขายังมาเรียนทำเครื่องปั้นดินเผาร่วมกับเด็กมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ศูนย์วิจัยของกรมวิทยาศาสตร์ เพื่อจะได้ข้อมูลใหม่ๆ นำมาพัฒนาสินค้า

ในปี 2534 เขายังได้รับโล่ของคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ประกาศเชิดชูให้เป็นผู้มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรมภาคกลางตอนล่าง สาขาศิลปะ การช่างศิลปะ ช่างฝีมือ จังหวัดสมุทรสงคราม

ปัจจุบันเบญจรงค์ ปิ่นสุวรรณ มีลูกค้าประจำจากกระทรวงการต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบุคคลชั้นสูงในเมืองไทยอีกมากมาย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us