ในสายตาคนนอก มองการทำมาหากินของลูกเกด ในทุก event marketing ว่าได้สร้างสีสันเร้าใจท้าทายให้ถูกวิจารณ์ทั่วเมือง เช่น งานพรีเซ็นต์อาบน้ำด้วยครีมนีเวีย ภายในตู้อาบน้ำกระจกฝ้ากลางสยามสแควร์ หรืองานถ่ายปกอีโรติกในนิตยสารอิมเมจ ยิ่งคุยกันยิ่งน่าค้นหาว่า กระบวนการสร้าง Beauty Asset Management ของเธอน่าสนใจ!

การทำงานติดตามสัมภาษณ์ลูกเกดอย่างต่อเนื่องจึงเริ่มขึ้น เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มนับจากกลางเดือนสิงหาคม ที่ได้รับการติดต่อจากณัฐพร สถิรกุล พีอาร์เอเยนซี ให้ไปงานแถลงข่าวเปิดผลิตภัณฑ์เวชสำอางชั้นสูง "สกิน ซูติคอล" ของบริษัท Four C ที่มีลูกเกดร่วมหุ้นกับปู อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ นวลพรรณ ล่ำซำ และคุณหมอจักรินทร์ พัฬหชาติโยธิน

โอกาสและจังหวะที่จะได้สัมภาษณ์ลูกเกดเข้ามาเหมือนโชคช่วย

บ่ายสามโมงสิบนาที วันที่ 15 กันยายนเป็นวันแรกที่ได้สัมภาษณ์ "ลูกเกด" ที่ชั้น 18 ของตึกจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ทีมงานนักข่าวและช่างภาพสี่คนเกือบคลาดกับลูกเกด ซึ่งรออยู่หน้าลิฟต์พร้อมซอนย่า คูลลิ่ง หลังจากทั้งคู่เสร็จสิ้นงานอัดเทปรายการ Bang Bang Catchy แล้ว

ภาพลูกเกดในมาดดารานางแบบตาคม ผมสั้นระคอที่ปรากฏตรงหน้ากับความสูงเพรียว 176 ซม. ที่ทำให้ดูดีเวลาสวมเสื้อยืดคอต่ำสีครีมกับกางเกงยีนเข้ากับรองเท้าปลายแหลม เธอดูระวังตัวเล็กน้อยก่อนรับรู้และเข้าใจวัตถุประสงค์และคอนเซ็ปต์ของนิตยสาร "ผู้จัดการ" ที่ต้องแตกต่างในมุมมองเชิงธุรกิจ

"ถ้าพี่มาช้ากว่านี้นิดเดียว ลูกเกดเธอจะไปแล้ว" ณัฐกระซิบบอก

เพียงครั้งแรกที่ได้ยินและได้เห็นนิสัยที่ตรงต่อเวลาของเธอ อันเป็นคุณสมบัติหนึ่งของมืออาชีพ แต่อีกด้านหนึ่งนั่นเป็นบุคลิกคนชอบควบคุม ทำให้เราต้องรีบสรุปประเด็นคำถามให้ได้มากที่สุดภายในหนึ่งชั่วโมง และทิ้งท้ายขออนุญาตติดตามการทำงานของเธออีกหลายครั้ง เพียงเอ่ยปาก ลูกเกดก็ให้เบอร์โทรศัพท์มือถือ ซึ่งตอนนั้นเธอจิ้มดูนัดหมายใน Pocket PC ยี่ห้อ O2 ซึ่งเธอใช้มันแค่โทรออกและรับเข้าเท่านั้น

ความเข้าใจและไว้ใจที่เธอแสดงออกรวดเร็วนั้น เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายที่เราคาดว่าจะได้รับทันทีจากลูกเกดเช่นเดียวกันกับนักข่าวจาก The boy ที่ลูกเกดอนุญาตให้เขาสัมภาษณ์ขณะขับรถไปทำงานต่อที่เอ็มโพเรียม หลังจบการสัมภาษณ์ของ "ผู้จัดการ"

หากมองในแง่ของความเป็น opportunist ที่รู้จัก give ก่อนจะ take ลูกเกดเข้าใจถึงอาชีพที่พึ่งพากัน เหมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า

ระหว่างรอเวลานัดหมายอีกครั้งในอีก 12 วัน ที่จะพบลูกเกดพากย์มวยที่เวทีมวยอ้อมน้อย งานสัมภาษณ์คนทำงานกับลูกเกดในแวดวงแฟชั่นและดาราเริ่มดำเนินไปก่อน

20 กันยายน เริ่มจากสัมภาษณ์ ปู อนุวัฒน์ ที่บริษัท Four C ที่เพิ่งเปิดตัวบนถนนสุขุมวิท 24 บรรยากาศร้านตกแต่งทันสมัย มีผลิตภัณฑ์เวชสำอางคุณภาพและราคาระดับสูง ที่อยู่ภายใต้คำแนะนำของหมอผู้เชี่ยวชาญผิวพรรณและบริการนวดหน้าแบบถูกหลักการแพทย์

ในส่วนที่เกี่ยวกับลูกเกด ปูได้เล่าให้ฟังถึงความสนิทสนมเหมือนเพื่อน จากการทำงานละครร่วมกันและนำไปสู่การร่วมลงทุนธุรกิจต่างๆ สายสัมพันธ์ที่นอกเหนือวงการบันเทิงยุคแรกที่ลูกเกดมีมักมาจากปู ซึ่งรู้จักคนกว้างขวาง เช่น ร้าน contrazt juice bar ที่สยามสแควร์ซอย 2 ก็มาจากคอนเนกชั่นของปู ที่รู้จักเจ้าของเสื้อผ้าแวนสันและ fou bar ซึ่งถือหุ้นร่วมในร้านที่สยามสแควร์ด้วย นอกเหนือจากหุ้นส่วนจากเพื่อนดารา เช่น ปู อ้อม-สุนิสา ที่เคยสนิทกันมากหลังจบการแสดงละครเรื่อง 18 มงกุฎสะดุดรักแล้ว

25 กันยายนต่อมา ได้สัมภาษณ์ "พี่ใหญ่" หรืออมาตย์นิมิตภาคย์ ช่างภาพมืออาชีพและบรรณาธิการแฟชั่นของนิตยสารอิมเมจ ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการบริหาร Beauty Asset Management ของลูกเกดให้มีพลัง

โชคดีที่คอนเนกชั่นศิษย์ร่วมสถาบันวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพระหว่าง ธีรพงษ์ ต๋าอ่อน หัวหน้าช่างภาพ "ผู้จัดการ" กับอมาตย์ ทำให้การสัมภาษณ์เข้าถึงเนื้องานและคอนเซ็ปต์การถ่ายภาพปก ซึ่งจะเอาลูกเกดขึ้นปกปีละครั้ง

"นึกอะไรไม่ออกบอกลูกเกด เขาเป็นโปรเฟสชั่นแนลจริงๆ พอทรงเครื่องเสร็จเขาก็ไหลไปตามเครื่องแต่งตัว โดยเราไกด์ก่อนว่าจะถ่ายสไตล์นี้ เสื้อผ้าแบบนี้"

27 กันยายน เก้าโมงเช้า สี่นักข่าวช่างภาพเดินทางไปที่เวทีมวยอ้อมน้อย หมู่บ้านดำรงวิลล่า ฝนตกหนักทั้งคืน น้ำท่วมปากซอย ระหว่างรอก็นึกในใจว่าลูกเกดคงไม่แวะทานข้าวมันไก่เจ๊หงษ์อย่างที่เคยเป็น

คุยกับเจ้าของร้านก็บอกว่า เธอทานแต่เนื้อไก่ไร้มันและหนัง

สิบโมงครึ่ง รถวอลโว่สีเข้ม ทะเบียน ภฮ 9966 ของลูกเกดวิ่งลุยน้ำท่วมซอยเข้าไปจอดบนลานซีเมนต์ ลูกเกดในเสื้อคล้องคอสีขาว กางเกงยีน ใบหน้าเรียบไร้สีสัน พร้อมช่างแต่งหน้าและเพื่อนเดินเข้าไปในเวทีมวยหรือห้องส่งสตูดิโอ ที่จุผู้ชมได้ประมาณ 3 พันคน ค่าตีตั๋วสำหรับผู้ชายจ่าย 200 บาท ผู้หญิง 100 บาท

จุดแรกลูกเกดแวะซื้อข้าวแกงทานที่ร้านในสนามมวย กับข้าววันนั้นมีแกงไก่ ปลาสลิดทอด ยำ และผัดฟักทอง หลังจากนั้นเธอแวบเข้าไปให้ช่างแต่งหน้าในห้อง ก่อนจะเตรียมพร้อมทำงานพากย์ "ศึกจ้าวมวยไทย" ตั้งแต่เวลาถ่ายทอดสดสองชั่วโมงทางช่อง 3

ในห้องนายสนามมวยที่มีบิ๊กๆ เดินไปมาคึกคัก เฮียจั๊วหรือมานพ หอประเสริฐกุล และน้องชาย สุดใจ พร้อมกับที่ปรึกษาไพบูลย์ แก่นนาคำ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจหมัดๆ มวยๆ

สองชั่วโมงที่ลูกเกดพากย์มวยถ่ายทอดสี่คู่ ตาเธอจับจ้องคู่มวยมุมแดงและมุมน้ำเงิน มือถือสคริปต์ที่มีประวัตินักมวยว่าต่อยแพ้ชนะมากี่ครั้ง ขณะที่ปากก็พากย์ตามคำบรรยายของนักพากย์ชาย ท่ามกลางเสียงปี่พาทย์มวย และบรรยากาศระทึกใจในเสียงตะโกนเชียร์ทุกครั้งที่คู่ชกเตะต่อยกันดังผลั้วะๆ ฤานี่คือ passion ที่ได้จากงานพากย์มวย...

"ลูกเกดเขาเป็นมืออาชีพ เขาไม่กลัว พอรับงานพากย์นี้ เขาก็ซื้อหนังสือมวยไทยภาษาอังกฤษในตลาดและเว็บไซต์มาอ่านหมด ขณะเดียวกันก็มีครูมวยมาสอนท่ามวยให้ทั้งซอนย่าและลูกเกด แรกๆ ก็ขัด ตอนนี้ชำนาญแล้ว" มานพ หอประเสริฐกุล หรือเฮียจั๊วเล่าให้ฟังว่า ภายในเวลาเกือบสองปี เรตติ้งผู้ชมรายการศึกจ้าวมวยไทยได้เพิ่มขึ้น 20-30% ผู้ชมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 3 ล้านคน แถมสปอนเซอร์ยังเพิ่มกิจกรรมการตลาดได้ยิ่งขึ้น

งานนี้เป็นอีกหนึ่ง ทีเป็น win win marketing ของลูกเกดและเจ้าของสนามมวย

เสร็จจากอ้อมน้อย ขับรถข้ามเมืองตามลูกเกดไปงานมหกรรมหนังสือที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บ่ายสี่โมงที่บูธร้านอิมเมจ เสียงประชาสัมพันธ์ดึงดูดให้ผู้ชมงานทยอยเดินมาดูดาราที่บูธนี้ ลูกเกดยิ้มรับพร้อมแจกลายเซ็นขอบคุณที่อุดหนุนหนังสือ Metinee's Secret ซึ่งพิมพ์ครั้งที่ 14 แล้ว

"วันนี้ขายดีมากค่ะพี่ ยิ่งพี่ลูกเกดมา ยิ่งขายดี ตอนนี้แกะไปประมาณสิบกว่าห่อแล้วค่ะ" เจ้าหน้าที่หน้าร้านเล่าให้ฟัง ก่อนจากกันวันนั้น

1 ตุลาคม ตามไปฟังลูกเกดพูดเคล็ดลับของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ที่คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล Looks ของลูกเกดวันนั้นผิดแผกไปเป็น Working woman ใส่สูททับเสื้อเชิ้ตขาว กางเกงสีดำขายาวเอวสูง เธอพูดได้อย่างน่ารับฟังเกี่ยวกับ will power ที่ตั้งใจดูแลรักษาสุขภาพจริงจัง ให้หมอและอาจารย์ฟัง และซักถามได้เต็มที่

เวลาล่วงเลยเกือบถึงบ่ายสี่โมง ยังมีงานเดินแบบที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถนนวิทยุ อีกงาน แต่เธอได้วางแผนเดินทางล่วงหน้าไว้แล้วว่า จะเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ไปยังที่หมาย ระหว่างนั่งรถตู้ของมหิดล เธอได้แสดงความสนใจที่จะเรียนต่อคอร์สสั้นๆ เกี่ยวกับโภชนาการภาคภาษาอังกฤษ เพื่อเสริมความรู้จริงและน่าเชื่อถือ ที่จะมีผลต่องานเขียนหนังสือและธุรกิจร้านน้ำดื่มเพื่อสุขภาพในอนาคต

เมื่อยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่รอรถไฟฟ้า มาดของเธอยังเรียบและกลมกลืนกับสังคมเมืองสมัยใหม่ ระหว่างรอรถ เธอหมกมุ่นตลอดเวลาอยู่กับโทรศัพท์มือถือ Pocket PC ที่เต็มไปด้วยตารางเวลาการนัดหมายงานเพียบ

เพียงสิบนาทีถึงสถานีเพลินจิต แล้วต่อด้วยรถแท็กซี่ทันที พอเทียบหน้าประตู เธอปราดขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 29 สถานที่จัดงานแสดงเครื่องเพชรแบรนด์เนมระดับ world class "คาร์เทียร์" ซึ่งฉากและเวทีแคตวอล์กได้จัดเตรียมไว้แล้ว เธอปลดเสื้อนอกออกและเดินซ้อม 2 ครั้งร่วมกับเพื่อนนางแบบทันที แต่ถูกขอร้องจากเจ้าของงานให้ซ้อมอีกครั้ง เธอควบคุมตัวเองได้ดี และพิสูจน์ว่าเธอเป็นมืออาชีพ ด้วยท่วงท่าลีลาซ้อมเดินที่สง่างามผสานรับกับท่าสบัดเปิดผ้าคลุมไหล่เพื่อจะโชว์สร้อยเพชรคาร์เทียร์

สองทุ่มปาร์ตี้เต็มไปด้วยหญิงชายในชุดดำแดงตามคอนเซ็ปต์งานคาร์เทียร์ ลูกเกดกับเพื่อนนางแบบเริ่มเดินแบบ และลูกเกดโชว์ฟินาเล่ชุดสุดท้ายที่น่าประทับใจ งานเดินแบบเพียง 10 นาทีที่เห็นเบื้องหน้า แต่เบื้องหลังนางแบบเหล่านี้ต้องซ้อมหนักและต้องอดทน ควบคุมสมาธิให้ดี

3 ตุลาคม ห้าโมงเย็นที่ร้าน Salon de Bangkok เอ็มโพเรียม ได้เห็นการชุมนุมสังสรรค์ดารา นางแบบ สไตลิสต์ ช่างทำผม คนดัง ระหว่างรอเปิดงานเปิดตัวครีมนวดมือ วันนั้นได้สัมภาษณ์ทินกร อัศวรักษ์ หรือ "คุณคุกกี้" เจ้าของบริษัท Kudo ที่ถือว่า เป็น Organizer จัดงานแฟชั่นชั้นนำแห่งหนึ่ง ทินกรมองลูกเกดว่าเป็นเพชรเม็ดหนึ่งของวงการ ถือเป็นซูเปอร์โมเดลที่มีฝีมือและนิสัยดี แต่เส้นทางที่ลูกเกดเดินมานั้น คนรุ่นก่อนก็เคยกล้าทำมาแล้วทั้งนั้น เป็นคำพูดเดียวกับที่ม้า-อรนภา กฤษฎี กล่าวเช่นกัน

7 ตุลาคม ที่มนตรีสตูดิโอ 6 ลาดพร้าว 101 กับอีกบรรยากาศของห้องส่งอัดเทป รายการ "ชิงฝันปั้นดาว" ของบริษัท Broadcasting ของหน่อง อรุโณชา ภาณุพันธ์ ซึ่งเล่าให้ฟังว่า ลูกเกดเป็นพิธีกรพี่ใหญ่ ที่มีบทบาทสำคัญนำทีมดาราสี่สาวหลากสไตล์ ที่เคยร่วมงานกันในรายการ "พยัคฆ์ร้ายสายสมร" มา แต่สำหรับงานพิธีกรเดี่ยวๆ ของลูกเกดอาจจะยังทำไม่ได้เต็มที่ แต่โดยความสามารถแล้ว เธอมีความรับผิดชอบสูงและดูแลน้องดี

10 ตุลาคม นัดพบที่บริษัท EXACT กับนิพนธ์ ผิวเณร ผู้กำกับละครเรื่องเมืองมายา ตอนมายาลวง ที่เขาเขียนบทจากบุคลิกจริงของลูกเกด ให้เล่นเป็นบทแคทรีน เทเลอร์ นักเขียนลูกครึ่งที่ฉลาดและซับซ้อนกับเรื่องราวดราม่าแบบ thriller ละครเรื่องนี้เรตติ้งสูงมากในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 6 ล้านคน

ในอดีต นิพนธ์เคยกำกับลูกเกดในบท Comedy เรื่อง "สาวใช้หัวใจชิคาโก้" มาแล้ว โดยเขาได้นำเอาจุดอ่อนเรื่องพูดภาษาไทยไม่ชัดของลูกเกดมาเขียนบทให้กลายเป็นจุดเด่น และทำให้ลูกเกดสนุกที่เล่นบทแปลกใหม่แนว comedy

บ่ายสี่โมงถึงที่แคลิฟอร์เนีย ฟิตเนส สีลม ซึ่ง "ผู้จัดการ" ได้แจ้งขออนุญาตถ่ายรูปไว้แล้ว สังเกตว่า โฆษณาขนาดใหญ่ตรงโซฟารับแขกมีภาพลูกเกดเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก่อนเดินขึ้นชั้นสอง พอถึงปั๊บก็เห็นร้านของลูกเกด Contrazt juice bar ทันที เป็นร้านเล็กๆ เนื้อที่ประมาณ 10 ตารางเมตร เป็นทำเลที่ดีมากๆ และตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่รักสุขภาพ ทำให้สาขาร้านนี้ขายดีที่สุด

ภาพลูกเกดในชุดเสื้อกล้ามและกางเกงยืดแนบตัว คาดหน้าผากกันผมปรกหน้าอยู่หลังเคาน์เตอร์กำลังดูบัญชีร้านอยู่กับผู้จัดการร้าน โดยมือยังไม่ห่างโทรศัพท์เหมือนเคย

เรามีเวลาคุยกันหนึ่งชั่วโมง จากนั้นเป็นงานที่ช่างภาพตามเก็บรูปลูกเกดขณะวอร์มอัพร่างกายกับอุปกรณ์ออกกำลังต่างๆ ที่นี่เธอได้พบกับจอย วราลักษณ์ เพื่อนนางแบบที่มาฟิตตัว ทั้งคู่ขึ้นไปชั้น 19 เพื่อเล่น Body Combat ในห้องมีสมาชิกแน่นและเสียงหยอกล้อทักทาย หัวเราะเฮฮา คุยเล่นเป็นกันเองกับลูกเกด

กว่าห้าโมงเย็น เสียงกระหึ่มที่เต็มไปด้วยจังหวะเพลงเร้าใจกับเสียงครูผู้สอน ก็ทำให้ลูกเกดตั้งสมาธิและออกท่าศิลปะป้องกันตัว เตะสูง-ต่อย-ชกอย่างสนุกแบบโชกเหงื่อ เป็นชั่วโมง...จบไปอีกวัน แต่ช่างภาพยังไม่จบ ต้องนั่งรถไฟฟ้าไปหามุมถ่ายตึกใบหยกกับป้าย APEC โดยมีฉากพระจันทร์เต็มดวงในคืน 15 ค่ำเดือน 11

12 ตุลาคม ที่ห้องโถง รพ.สมิติเวช มีการจัดงานเล็กๆ เกี่ยวกับการงดสูบบุหรี่ มีบูธของสกิน ซูติคอลตั้งอยู่ ลูกเกดขับรถมาถึงสิบเอ็ดโมงเช้า ใบหน้าอิดโรยจากการอดนอน เนื่องจากเมื่อวานกว่าจะถ่ายหนังใหม่เสร็จก็เกือบตีห้าครึ่ง ได้ดื่มน้ำและขนมปังเล็กน้อยก่อนขึ้นพูดเรื่องงดบุหรี่ดีต่อสุขภาพ เธอพูดชักชวนและให้กำลังใจคนอยากเลิกบุหรี่ได้น่าฟัง หลังจากนั้นเธอลองวัดความแข็งแรงของปอดด้วยเครื่อง ผลออกมาสมบูรณ์

หลังพูดเสร็จ เธอและปูร่วมปรึกษากับผู้บริหาร ถึงแผนงานการส่งเสริมการตลาดของสกิน ซูติคอล มีการถ่ายรูปลูกเกดแนะนำผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ระหว่างรอให้คุณหมอด้านผิวหนังของสมิติเวช ซึ่งกำลังพิจารณารับผลิตภัณฑ์นี้อยู่ การมีลูกเกดอยู่ตรงนั้นช่วยเสริมบรรยากาศธุรกิจดีขึ้น

ขากลับจากสมิติเวชเพื่อไปถ่ายแบบต่อที่รามอินทรา ลูกเกดขับรถวอลโว่รุ่นใหม่ ทะเบียน ภฮ 9966 โดยเธอยินยอมให้ทีมงาน "ผู้จัดการ" ติดตามไปด้วย ภายในรถสะอาด มีรูปพระเยซูคริสต์ที่เธอบูชาประจำที่ด้านหน้ารถ แต่ที่เบาะหลังมีกระเป๋าข้าวของใหญ่น้อย เธอแวะไปที่คอนโดของเธอในย่านพระราม 9 เพื่อเอารูปถ่ายเก่าของครอบครัวมาให้ ภาพที่เห็นบอกถึงความรักผูกพันกับแม่และน้องมากๆ

13 ตุลาคม ลูกเกดโทรมาหาหลังจากได้รับข้อความให้โทรกลับเพื่อนัดหมายสำหรับค่ำนี้ที่จะขอนัดพบ ป้ารุ่งฤดี แพ่งผ่องใส ในวันรุ่งขึ้น บ่ายสี่โมงที่ห้องอัดรายการ ลาดพร้าว 101

14 ตุลาคม บ่ายโมงครึ่ง ที่ชั้น 33 ตึกจีเอ็มเอ็ม สัมภาษณ์ นิค หรือวิเชียร ฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทค่ายนางแบบ Club F ซึ่งลูกเกดเป็น executive consul-tant ทำหน้าที่คล้ายๆ โปรดิวเซอร์ผลิตวีซีดีชีวิตและไลฟ์สไตล์ของดารานางแบบ วิเชียรกล่าวว่า ลูกเกดเป็นซูเปอร์โมเดลที่มี vision และ know-how ที่สามารถทำตรงนี้ให้เป็นจริงได้มากๆ

บ่ายสี่โมงกว่า ที่มนตรีสตูดิโอ 6 ที่เก่ากับฉากเดิม แต่แขกรับเชิญของรายการ "ชิงฝันปั้นดาว" คือ ทาทา ยัง ซึ่งเป็นต้นแบบและกรรมการตัดสินการร้องเพลงในรายการนี้ เรตติ้งรายการนี้คงดี ขณะที่กระแส talk of the town ของทาทายังแรง แม้ว่าจะติดลบเรื่องภาพพจน์มากในเรื่องส่วนตัว ขณะที่ลูกเกดเป็นพิธีกรร่วมกับอีก 4 ดารา วันนั้นเธอสวมหมวกอยู่คนเดียวในหมู่ดาราและพิธีกร ผมของเธอดูแปลกตาตรงมีลอนปัดไปมา

ห้าโมงครึ่ง การอัดเทปรายการเสร็จ ลูกเกดพาไปคุยในห้องแต่งตัว ช่างภาพคุยให้ลูกเกดฟังถึงคอนเซ็ปต์ภาพปก โดยมีการ brief งานถ่ายภาพที่ทำมาตลอด 30 วันให้เห็น เธอให้ความร่วมมืออย่างดี โดยนัดหมายจะถ่ายที่โบสถ์ซอยร่วมฤดี วันอาทิตย์ 19 ตุลาคม แต่ช่างภาพได้ขอให้เธอเตรียมชุดและแต่งหน้าทำผมเอง นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่เธอได้ทำงานถ่ายปกในลักษณะนี้ก็ได้

หกโมงเย็นเป็นเวลาที่เราควรจะถึงที่บ้าน รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส หรือป้ารุ่งของลูกเกด ผู้ชักนำเธอเข้าเวทีประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 1992 แต่กลับเพิ่งเป็นเวลาเดินทางออกจาก ลาดพร้าว 101 รถติดมากกว่าจะถึงแคราย ซอยเรวดี เสียงไพเราะของป้ารุ่งโทรมาถามอย่างห่วงใยถึงสองครั้ง ว่ามาถูกไหมคะ?

ในที่สุดสองทุ่มก็ถึงเป้าหมาย ซอย 13 เป็นบ้านหลังใหญ่กว้างขวางเคยเป็นที่พักอาศัยของลูกเกดเมื่อ 11 ปีที่แล้ว ภาพวันที่ลูกเกดสวมมงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ยังถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีจนถึงวันนี้