11 ปี ของ "ลูกเกด" เมทินี กิ่งโพยม ไม่เคยตกกระแส เธอสามารถแปลงกายจากซูเปอร์โมเดลบนแคตวอล์ก
ไปเล่นละคร ถ่ายโฆษณา เป็นพิธีกร พากย์มวย เปิดเว็บไซต์ เขียนหนังสือ ที่ปรึกษาค่ายนางแบบ
และเป็นเจ้าของธุรกิจร้านน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพได้อย่างมีพลัง
อะไรคือเบื้องหลังความเป็นมืออาชีพของลูกเกด ที่สร้างบุคลิกและโมเดลธุรกิจการบริหาร
Beauty Value และ Connection ให้แข็งแรงและเป็นที่ต้องการ จนกระทั่งสร้าง
Passion ของธุรกิจนี้ได้กลายเป็นกลไกแห่งความมั่งคั่งของงานและเงินมหาศาล
ที่ดึงดูดให้ยักษ์ใหญ่แกรมมี่ เปิดบริษัทค่ายนางแบบ Club F ที่ต้องอาศัยโนว์ฮาวของลูกเกด
ภาพ "ลูกเกด" เมทินี กิ่งโพยม เป็นตัวแทนของซูเปอร์โมเดลเพียงคนเดียวในหมู่สุดยอดนางแบบ
21 ชาติ ที่ได้รับเลือกไปเดินแบบคอลเลกชั่นชุดใหม่ของนคร สัมพันธารักษ์ ดีไซเนอร์ชั้นนำแห่งห้องเสื้อ
"นาการ่า ฟอร์ จิม ทอมป์สัน" ในงานเลี้ยงรับรองคณะคู่สมรสผู้นำประเทศ APEC
ซึ่งคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ได้จัดขึ้นหลังงานเลี้ยงรับรองที่บ้านพิษณุโลกเมื่อเดือนที่แล้ว
ถือเป็นเครื่องหมายของสุดยอดนางแบบมืออาชีพคนหนึ่งที่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ความเป็นนางแบบมืออาชีพที่ extreme ของลูกเกด เป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจของดีไซเนอร์ว่า
ทำงานละเมียดละไมระดับสูงได้สมดัง value และ connection ที่รู้จักกันมานาน
จากการทำงานตลอดหนึ่งเดือนเต็มที่ "ผู้จัดการ" ได้ติดตามสัมภาษณ์และถ่ายรูปลูกเกด,
ซินดี้ นางแบบรุ่นน้อง, ช่างภาพใหญ่, คุณคุกกี้ เจ้าของ KUDO, วินนี่ สไตลิสต์,
ปู ดารานักแสดงชาย, ป้อน ผู้กำกับละคร, เฮียจั้ว เจ้าของสนามมวย, เด็กขายน้ำผลไม้,
เจ๊หงษ์ขายข้าวมันไก่, หน่อง เจ้าของบริษัท Broadcast, นิค ผู้บริหารค่ายนางแบบ
Club F และป้ารุ่งฤดี แพ่งผ่องใส
ทั้งหมดมีข้อสรุปที่น่าสนใจว่า ลูกเกดมีบุคลิกลักษณะอยู่สี่ประการที่คนอื่น
ไม่มี นั่นคือ
หนึ่ง- รูปร่างหน้าตาของลูกเกดได้รับการถ่ายทอดกรรมพันธุ์ที่ดีของพ่อและของแม่
โดยผิวงามได้มาจากแม่ ตาคมและรูปร่างสูง 176 ซม. ได้มาจากพ่อ ซึ่งเป็นชาวนราธิวาส
ลูกเกดเกิดและเติบโตในครอบครัวคนไทยที่ไปทำมาหากินที่นิวยอร์ก พ่อชื่ออักษะ
กิ่งโพยม เป็นนักดนตรีชาวนราธิวาส และแม่ชื่ออาภรณ์ ปัจฉิมพิหงษ์ เป็นแม่บ้านที่ไม่ค่อยมีชีวิตสังคม
ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ย่านควีนส์ที่เต็มไปด้วยพวกสแปนิชมากกว่าผิวดำ แม่ต้องแยกทางกับพ่อเมื่อลูกเกดอายุ
10 ขวบ ขณะที่น้องชายทั้งสาม คือ คริส ไมค์ และมาร์ค พี่น้องฝาแฝดยังเล็กมาก
"คุณพ่อเป็นนักดนตรี บางทีก็ขับรถแท็กซี่ไม่ค่อยสนใจครอบครัว รักอิสระ
คุณแม่ทนไม่ไหวก็เลิก ตอนนั้นเกดอายุ 10 ขวบ นี่ต้องทำหน้าที่เหมือนผู้ใหญ่
ช่วยแม่เลี้ยงไมค์และมาร์ค เพราะเกดเห็นว่าแม่ทำงานคนเดียว ภาษาอังกฤษก็ไม่เก่ง
ต้องเลี้ยงลูกถึงสี่คน คุณพ่อแทบไม่ส่งสตางค์เลย ปีหนึ่งอาจจะครั้งหนึ่งได้มั้งคะ
ส่งมาก็ร้อยเหรียญ บางวันเงินที่แม่ได้มาไม่พอจ่ายค่าเช่าบ้าน ไม่พอจ่ายค่าไฟค่าน้ำ
สิ่งนี้ทำให้เกดต้องแข็งแรง ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ขยันและตั้งใจเหมือนคุณแม่
แต่นิสัยอยู่นิ่งๆ ไม่เป็น คิดทำโน่นทำนี่ คงมาจากเหตุการณ์ที่คุณพ่อทำให้เกดเป็นคนแบบนี้"
ลูกเกดเล่าให้ฟัง และเป็นที่น่าสงสัยว่านี่คงเป็นปมปริศนา คล้ายๆ กับคนที่แสวงหาอะไรอย่างหนึ่งที่ตนต้องการแต่ไม่เคยมีอยู่ตลอดเวลา
แต่ก็ไม่สามารถหาสิ่งนั้นได้ นั่น คือ พ่อและความรักของพ่อนั่นเอง
"ตอนอายุ 15 เกดก็เหมือนเด็กฝรั่ง หางานทำ เกดเคยเป็น waitress เด็กเสิร์ฟมาก่อน
แคชเชียร์ก็เคยทำ เคยขายเสื้อผ้าในห้าง เคยเป็นเลขา ตั้งแต่ทำงานเกดไม่เคยขอเงินแม่อีกเลย
เวลาเกดจะซื้อของหรือพาน้องไปเที่ยวก็ใช้เงินเกดเอง เกดเป็นคนมองโลกในแง่ลบ
ก่อนจะเห็นสิ่งดี เพราะว่าเวลาเกดอยู่นิวยอร์ก สังคมเพื่อนบ้านมีแต่พวกสเปนเยอะ
เวลาเดินขึ้นจาก subway เกดจะนึกภาพก่อนว่าถ้าสมมติมีคนมาปล้นนี่ เราจะไปวิ่งไปทางไหน
เราจะต้องไว รู้ทันคน ไม่งั้นโดนหลอก นิสัยนี้จึงติดตัวมาตลอด"
กว่าจะถึงวันนี้ที่เธอมีชื่อเสียงเงินทอง ความพยายามที่จะก้าวข้ามอุปสรรคแต่ละช่วงชีวิตของลูกเกดมีอยู่มากมาย
แต่ละช่วงชีวิตเป็นเรื่องหนักสำหรับเธอ นี่คือชะตากรรมที่พระเจ้าหยิบยื่นและทดสอบเจตจำนงของการมีชีวิตอยู่
สอง- ความเป็นมิสไทยแลนด์ เวิลด์ 1992 ในยุค "เปิดเสรี" ตามนโยบายของรัฐบาลนายกฯ
อานันท์ ปันยารชุน ซึ่งส่งผลต่อมาให้สังคมมีทางเลือกมากขึ้นและกล้ายอมรับเปิดเผยเรื่องเซ็กซ์กันมากขึ้น
โดยได้รับอิทธิพลจากสื่อวัฒนธรรมใหม่อย่าง MTV และ FTV
ภายใต้เงื่อนไขนี้ทำให้ลูกเกดสามารถสร้าง Passion of Body Works ให้เป็นกลไกสร้างงานและเงินมหาศาลได้ต่อเนื่อง
แม้จะขัดต่อกรอบศีลธรรม แต่ลูกเกดก็เป็นดารานางแบบที่ ภาษาพระเรียกว่า "ปาปมุติ"
คือผิดแบบไม่ผิด
ลูกเกดอาจแสดงบทซูเปอร์โมเดลที่ต้องเปลือยอกในชุดฟินาเล่ของ นาการ่า ฟอร์
จิม ทอมป์สัน คนดูก็ไม่ถือว่าผิด เพียงแต่ฮือฮา หรือลูกเกดอาจถ่ายปกอีโรติกบนนิตยสารอิมเมจ
และแสดงเป็นพรีเซ็นเตอร์แก้ผ้าอาบน้ำกลางสยามสแควร์ด้วยครีมนีเวียสามชั่วโมง
คนดูที่เดินผ่านไปมา ก็ไม่ถือว่าผิดเพราะถือว่าเป็นอาชีพของเธอ ครั้นดูแล้วก็ยังหาเรื่องคุยกันสนุก
ทำให้หนังสือขายดี และครีมอาบน้ำนีเวียเป็นที่จดจำไปได้ อีกนานด้วยซ้ำ ซึ่งสร้างความพอใจแก่เจ้าของสินค้าและครีเอทีฟ
ช่างภาพ สไตลิสต์ ดีไซเนอร์ ที่ต้องการบุคคลมั่นใจและมุ่งมั่นทำงานเช่นนี้
ความจริง ลูกเกดเป็นผู้หญิงที่ถ่ายภาพโป๊แล้วดูไม่โป๊ บางคนยังหาว่า เมื่อเทียบกับดารา
อื่นๆ แล้ว sex appeal ของเธอยังมีน้อยกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้น ความเป็นเทพีแห่งเซ็กซ์จึงเป็นเพียงเรื่องของการปรุงแต่งที่ธุรกิจนั้นๆ
สร้างขึ้นมานั่นเอง
สาม- ลูกเกดสร้างเแรงบันดาลใจจากความกตัญญูต่อแม่และรักน้องชาย ให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนกลไกจิตใจ
เพราะเธอต้องมีเป้าหมายมาทำงานที่เมืองไทย เพื่อแม่และน้อง ลูกเกดจึงต้องบริหารชีวิตไม่ใช่เยียวยารักษา
และด้วยบุคลิกนิสัยควบคุมดูแลตัวเอง ทำให้ตั้งใจเก็บเงินส่งเสียน้องเรียนจบปริญญาตรีสามคน
แม้ว่าในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ตนเองจะล้มลุกคลุกคลานและมีชีวิตการทำงานที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงและปัญหาอุปสรรคต่างๆ
ก็ตาม
รายได้ของลูกเกดมีหลายทาง ทั้งจากการเดินแบบที่ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท งานพิธีกรชั่วโมงละ
30,000-40,000 บาท ดาราละครตอนละ 8,000-60,000 บาท งานถ่ายปกค่าตัวชุดละ
1,000 บาท (8 ชุด 8,000 บาท) สำหรับชุดว่ายน้ำ ค่าตัว 100,000-200,000 บาท
(สปอนเซอร์จ่าย) งานโฆษณาพรีเซ็นต์ ค่าตัวหลักล้านขึ้นไป โดยเฉพาะโฆษณาเบียร์
แชมพู และเครื่องสำอาง ขณะที่ค่าลิขสิทธิ์จากงานเขียนหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊ค
Metinee's Secret ลูกเกดได้ 10% ของราคาปก 200 บาท คูณด้วยยอดพิมพ์ครั้งละ
2,500 เล่ม ปัจจุบันหนังสือเล่มนี้พิมพ์ไปแล้ว 14 ครั้ง ประมาณรายได้ที่เธอควรจะได้รับ
700,000 บาท
"แม่เกดเคยสอนไว้ว่า เราไม่ต้องพึ่งผู้ชาย อยากได้อะไรก็ต้องทำเอง เกดเลย
grow up กับความคิดนี้ตลอดเวลา เลยคิดว่าวันหนึ่งถ้าเกดแต่งงานแล้ว แฟนเกดจะต้อง
ซื้อบ้านให้เกดอยู่ แล้วเกดคงเอาแม่มาอยู่ด้วย แต่จนถึงทุกวันนี้ เกดก็ยังไม่พร้อมจะแต่งงาน
ใครจะซื้อบ้านให้ นอกจากเกดจะสร้างเองแล้วเอาแม่มาอยู่ คนที่เกดจะแต่งงานด้วยต้องมาอยู่กับเกด
เกดอยากจะมีบ้านที่พอเปิดประตูแล้วเห็นต้นไม้ บ้านนั้นจะมีลูกและหลานของเกดอยู่ด้วย"
ลูกเกดเล่าถึงความใฝ่ฝันให้ฟัง
สี่- มีความคิดริเริ่มด้านบริหารความสวยงามให้กลายเป็นธุรกิจที่เข้ากับยุคสมัย
และมีมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจอย่างไม่ตกกระแส (in trend ) เช่น ในปี 2543
ลูกเกดทำธุรกิจดอทคอม www.thaisupermodels.com ร่วมกับเฮเลน-ปทุมรัตน์ วรมาลี
และบริษัทในเครือสามารถ คอร์ปอเรชั่น หลังจากทำปฏิทินชุด Girlfriend 2000
ต้อนรับปีสหัสวรรษใหม่ และตามด้วยปฏิทินชุดของซอนย่า คูลลิ่ง ก่อนที่เว็บไซต์จะปิดตัวไป
ต่อมาในปี 2546 ลูกเกดในรูปโฉมผู้หญิง Healthy มีกล้ามนิดๆ ตามเทรนด์เมืองนอก
เธอได้ลงทุนเปิดร้านดื่มเพื่อสุขภาพ Contrazt juice bar ที่แคลิฟอร์เนีย์ฟิตเนส
และอีกสามสาขา
"เกดเป็นคนชอบอะไรใหม่ๆ ที่เป็น Business Venture ตอนที่ทำดอทคอม เพราะอยากลองทำตามกระแส
แต่พอมันไม่ work เพราะเราไม่ได้จบมาด้าน business เราทำไม่ได้เต็มที่ และไม่ค่อยชอบถามพี่ว่า
ตรงนี้ทำอย่างนี้ได้มั้ย เราไม่ชอบและเบื่อก็เลยหยุดดีกว่า กระแสมันก็ตายไปแล้ว
แต่สำหรับเรื่องสุขภาพ เกดเชื่อว่าเกดเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่เล่น body combat
และไอเดียของเกดเกี่ยวกับน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพ ร้านนี้แรกเริ่มก็มาจากความชอบของตัวเองก่อน
ที่เป็นคนรักและดูแลสุขภาพของตัวเอง จึงเริ่มศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของผลไม้ชนิดต่างๆ
เพื่อมาทำน้ำผลไม้ดื่มเอง ประกอบกับความคิดว่า ที่อเมริกา สิงคโปร์ หรือฮ่องกง
ก็ดื่มกัน ส่วนเมืองไทยจะมีแต่ที่โรงแรมและสนามกอล์ฟเท่านั้นก็เลยอยากเปิดร้านขึ้นมา"
เธอกล่าวถึงโอกาสอันเป็นที่มาของธุรกิจใหม่ของเธอ
ลูกเกดเป็นคนสองวัฒนธรรมที่ดึงเอาส่วนดีของฝรั่งและของไทยมาสร้างสมดุล
และศักยภาพในตัวให้เกิด Big Bang ที่มีมูลค่ามหาศาลขึ้นมาได้ ไม่ว่าโครงสร้างรูปร่างแบบฝรั่งที่สร้างความพิเศษที่คนอื่นไม่มี
ลูกเกดทำให้การเดินแบบนั้นมีลีลาชั้นสูง
เมื่อลูกเกดรู้ว่าเธอมีรูปเป็นทรัพย์ เธอจึงมีวิธีแสดงออกอย่างแปลกและใหม่ไม่เหมือนดาราและนางแบบไทยผู้ใด
วิธีนั้นคือเธอกล้าแสดงออกถึง Body Passion ในแต่ละงานอย่างเซ็กซี่ โดยมีศิลปะถ่าย
ภาพจากช่างภาพเป็นตัวจุดพลุ ทำให้ Position ของงานเธอดูมีสไตล์ไฮคลาส
บุคลิกของผู้หญิงสมัยใหม่ที่เร้าใจของลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม กล้าคิดนอกกรอบ
และสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า ความต้องการใช้ความสวยงามสง่าของเรือนร่างและหน้าตา
โดยได้ความมุ่งมั่นใส่ใจในงาน ที่กล้าและรับผิดชอบ อันเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของลูกเกด
ที่กลายเป็นแรงดึงดูดงานและเงินเข้ามา
เธอจึงต้องเตรียมพร้อมดูแลรักษาทั้งร่างกายและจิตใจให้เกิดความงามข้างนอกและข้างใน
เพื่อรับกระแสงานใหม่ๆ ที่ทยอยเข้ามาทางโทรศัพท์มือถือไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วง
APEC มีการเดินแบบกันชุกชุมและต้นปี 2547 ที่จะเกิดโครงการ "กรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น"
ของกระทรวงอุตสาหกรรม
"เกดมีงานเข้ามาตลอด ถ้าจะหยุดเพราะเกดอยากหยุดเอง แต่ทุกปีจะมีเรื่อง
peak มาตลอด เช่น เมื่อปีที่เกดเล่นหนังเรื่องกล่อง ก็ได้ตุ๊กตาทองดารานำ
หรือเกดได้เป็นชาวเอเชียคนแรกที่พรีเซ็นเตอร์เครื่องสำอางเมย์เบลลีน วันเปิดตัวเกดน้ำตาซึมและภูมิใจ
แม้จะมีข่าวในทางลบ แต่ยังมีคนเห็นเราว่าเป็นคนดีและโปรเฟสชั่นแนล" ลูกเกดเล่าให้ฟัง
ล่าสุดโครงการธุรกิจใหม่ คือ บริษัท "Club F" ซึ่งเป็น Business Unit ใหม่ในเครือจีเอ็มเอ็มแกรมมี่
ตั้งขึ้นมาราวต้นปี 2546 มีเป้าหมายจะเป็นค่ายนางแบบ โดยคอนเซ็ปต์การบริหารงานเหมือนค่ายเพลงดูแลศิลปิน
มีการแปลงรูปให้เป็นทรัพย์โดยสร้างการบริหารจัดการมูลค่าเพิ่มแก่ body of
works ในทุกรูปแบบงาน beauty marketing event ที่ครอบคลุมขยายวงคลื่นธุรกิจจากนางแบบ
ไปยังดีไซเนอร์, โมเดล เอเยนซี่, เมกอัพ สไตลิสต์, แฮร์สไตลิสต์, ช่างทำผม,
ช่างภาพ ฯลฯ
"มันเป็นไอเดียของผมมาก่อนเห็น ftv ว่าน่าจะมีช่องของแฟชั่นทั้งวันทั้งคืนเพราะหลายๆ
ปีก่อน ตอนที่ดูคุณสมชาย นิลวรรณ (อดีตพี่เลี้ยงนางงาม ปัจจุบันถึงแก่กรรมแล้ว)
จัดรายการพวกนี้ก็มีคนดูและมีสปอนเซอร์จริงๆ แล้วคำว่า Asset เราไม่ได้เล่นแค่นางแบบ
แต่มันครอบคลุม ไปกว้างมากถึงดีไซเนอร์, เมกอัพ อาร์ท ติสท์, ช่างทำผม และอะไรต่างๆ
เหล่านี้มันเป็น value และ win-win marketing ทั้งวงการ" วิเชียร ฤกษ์ไพศาล
หรือ "นิค" กรรมการผู้จัดการ Club F เล่าให้ฟัง
บริษัทค่ายนางแบบแห่งใหม่นี้ ช่วงแรกได้เตรียม Launch "วีซีดี" ที่เป็นเรื่องราวของซูเปอร์โมเดลชั้นนำของไทยภายใน
1-2 เดือนนี้ โดยเริ่มจากงานของลูกเกด ซึ่งได้รับเลือกให้เป็น executive
consultant ที่ทำหน้าที่เหมือนโปรดิวเซอร์คัดเลือกนางแบบและมีบทบาทสำคัญในธุรกิจใหม่ของแกรมมี่นี้ด้วย
"จริงๆ แล้วโปรเจ็กต์นี้มาจากตอนที่เขียนหนังสือ Metinee's Secret แล้วทางพี่แอร์
บก.ของ Image Publishing ก็บอกว่าเขียนหนังสือแล้วน่าจะทำ VCD ด้วย จึงพา
มาคุยกับพี่เล็ก บุษบา ก็เสนอให้กับคุณไพบูลย์ คุณไพบูลย์ก็บอกพี่นิคว่าจะทำอะไรดี
ก็เลยคิดว่า เมื่อเกดถนัดด้านแฟชั่นก็น่าจะทำด้านนี้ดีกว่า แทนที่จะเป็นเกดคนเดียวก็เป็นนางแบบหลายคน
โดยวิธีนำเสนอเรื่องราว profile ด้วยภาพสวยๆ เป็นเหมือน Magazine on the
VCD สิ่งที่เราทำเวลาเข้าไปติดต่อคนอื่นเขาไม่เข้าใจ เขาอาจจะคิดว่า มันโป๊มั้ย
ซึ่งแกรมมี่เขาเป็นบริษัทใหญ่ เขาไม่ขายเซ็กซ์อยู่แล้ว" ลูกเกดเล่าให้ฟัง
นี่คืออีกบทบาทของลูกเกดและแกรมมี่ได้เลือกทำงานร่วมกัน ถ้าจะมองในสายตาของแกรมมี่
ถือว่าจับคนได้ถูกกับงาน เนื่องจาก
ประการแรก- Value ของลูกเกด ในฐานะเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นผู้หญิงทำงานเก่งในวงการเดินแบบ
สามารถสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า และสาธารณชน โดยบรรลุเป้าหมายสร้างรายได้และเรตติ้งดี
ตลอดจนสามารถดีลงานและทำธุรกิจร่วมกับคนในวงการอย่างเข้าใจประเด็น ตั้งแต่ดีไซเนอร์
ช่างแต่งหน้า ทำผม organizer เอเยนซี่โฆษณา ครีเอทีฟ บริษัทสปอนเซอร์
ประการที่สอง- Connection ของลูกเกดที่แข็งแรงจนสามารถพัฒนาเครือข่ายของคนในวงการ
ไม่ว่าจะเป็น Organizer นางแบบ ดีไซเนอร์ชั้นนำ สไตลิสต์ ช่างแต่งหน้าทำผม
ช่างภาพ ฯลฯ ลูกเกดก็สามารถชักนำคนดีมีฝีมือมาร่วมงานด้วย
ประการที่สาม- Personality ของลูกเกด สามารถดึงเอาข้อดีของวัฒนธรรมฝรั่งกับไทยมาผสมผสานกันได้ลงตัว
บุคลิกของความเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ กล้าคิดกล้าทำ มั่นใจในตนเอง รับผิดชอบตรงต่อเวลาและใส่ใจในงาน
แบบมืออาชีพ ถือเป็นข้อดีที่ลูกเกดได้วิธีคิดแบบฝรั่งมาใช้ ขณะที่วัฒนธรรมไทย
ที่มีสัมมาคารวะและรักเพื่อนพ้องก็มีอยู่มาก ที่สำคัญหลายคนนิยมความเป็นคนกตัญญูรู้คุณ
มุ่งมั่นทำงานสร้างความมั่นคงให้แม่และน้อง
สิบปีบนแคตวอล์ก ลูกเกดสร้าง Identity ของเมทินี กิ่งโพยม อย่างมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานปรับตำแหน่งตนเองขึ้นสู่ซูเปอร์โมเดลอย่างมีท่วงท่าลีลามืออาชีพ
ทินกร อัศวรักษ์ หรือรู้จักกันในนาม "คุณคุกกี้" เจ้าของบริษัท KUDO เล่าให้ฟังว่า
ถ้าจะเปรียบลูกเกดก็เหมือนเพชรเม็ดหนึ่งในวงการขณะนี้ เป็นคนตั้งใจทำงานดีมาก
ปัจจุบันแม้ลูกเกดจะเดินแบบน้อยลงเฉลี่ยปีละ 4-5 ครั้ง เพราะลูกเกดใช้เวลาไปเล่นละคร
หรือเป็นพิธีกรบ้าง แต่ถ้ามีงานใดที่เธอสามารถรับได้ เธอก็จะตื่นเช้ามาให้
อย่างไรก็ตาม ทินกรย้ำว่า ลูกเกดไม่ใช่คนเดียวและคนแรกที่กล้าทำตามครีเอทีฟแรงๆ
แต่ยังมีรุ่นพี่ที่กรุยทางมาก่อนแล้ว
ความสำเร็จของลูกเกดในวงการบันเทิงนางแบบได้ให้ชื่อเสียง และการยอมรับในความเป็นมืออาชีพ
แม้รายได้การเดินแบบแค่เป็นหลักหมื่นไม่มากเท่า เล่นหนังเล่นละครที่ได้เป็นหลักแสนบาท
หรือถ่ายงานโฆษณาเป็นหลักล้านก็ตาม
"ส่วนมากนางแบบจะได้เป็นกอบเป็นกำ ตรงที่เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา ผมคิดว่า
อย่างงานเดินแบบเปรียบไปแล้วก็เหมือนค่าน้ำค่าไฟ ส่วนงานถ่ายแบบก็เหมือนค่าข้าว
ถือว่าเป็นงานส่งเสริมภาพพจน์ เพราะถ้าไม่มีงานถ่ายแบบก็ขายของไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าจะเลือกจากแมกกาซีน
เขาเลือกจากที่เห็นตรงนี้" อมาตย์ นิมิตภาคย์ ช่างภาพที่มีตำแหน่งเป็นบรรณาธิการแฟชั่นของนิตยสารอิมเมจ
คุยให้ฟัง
ความสามารถอันพิเศษของอมาตย์ คือทำให้คนดูภาพของลูกเกด มองเห็นบุคลิกสาวสมัยใหม่และนิมิตแห่งเพศในเชิงศิลป์
ไม่ว่าใครจะครหาหรือชื่นชม ลูกเกดก็ยังใช้วิธีนิ่งไม่โต้ตอบเพราะจะยิ่งทำให้เรื่องบานปลาย
และคนที่ลูกเกดแคร์จริงๆ คือครอบครัวเท่านั้น
ลูกเกดผสมผสานส่วนดีของฝรั่งที่ตรงต่อเวลา รู้จักคิดมีเป้าหมายและดูแลตัวเองได้ดีกับส่วนดีของวัฒนธรรมไทยคือ
กตัญญูและมีสัมมาคารวะไปลามาไหว้ ทำให้เธอยืนอยู่เบื้องหน้าบนเวทีต่างๆ ได้อย่างมืออาชีพนานนับสิบปี
มีกระบวนการพัฒนาและจัดการสมัยใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
"เกดบอกได้ว่า เกดทำงานเป็นระบบฝรั่งและน้อยครั้งมากที่เกดไปทำงานสายอย่างเวลา
ถ่ายแบบ ถ้าโทรมาดีลกับเกดว่าจะถ่าย 8 ชุด เกดก็จะ expect ว่า 8 ชุด แต่ถ้าอยู่ดีๆ
มาเพิ่ม 9 ชุด เกดก็จะบ่นนิดๆ หน่อยๆ แต่ก็ทำ แต่ถ้ามา 10 ชุด แบบลักไก่
เกดก็จะถามว่า "พี่นี่มันอะไรเนี้ยะ?" หรือบางทีไปถ่ายละคร เกดจะบอกว่าทำงานไม่เกิน
12 ชั่วโมงนะ 8 am.-8 pm. เราต้องการพักผ่อน ถ้าในเวลาคุณทำงานไม่ทันเอง
มันก็ช่วยไม่ได้นะ เพราะเกดอ่านบทของเกดและเกดพร้อม แต่คุณเกิดนัดเกด บ่ายสอง
แต่ไปถ่ายหกโมงเย็น แล้วถ่ายไม่หมดก็ช่วยไม่ได้นะ เพราะเกดเหนื่อย" เสียงสะท้อนจากลูกเกด
ลูกเกดทำงานละครกับ EXACT ตั้งแต่ยังพูดไทยช้าๆ เหมือนฝรั่งพูด ขณะที่สคริปต์ต้องเขียนเป็นคาราโอเกะ
โดยมีครูแอ๋ว อรชุมา เป็นครูสอนด้านแอคติ้ง
"ตอนนี้เกดไม่ต้องอ่านแบบคาราโอเกะแล้ว เพราะเกดฝึกอ่าน เริ่มพยายามอ่านเอง
ชอบอ่านป้ายมากเลย แล้วมาสะกดทีละคำทีละประโยค เช่น เอกมัย มันช่วยภาษาไทย
เกดเยอะมาก เวลาพูดอะไรผิดๆ เพื่อนจะ correct "ไม่ใช่พูดยังงี้" หรือว่าถามว่า
"เอ๊ะ พี่นี่คืออะไร?" เขาก็จะบอกให้ แต่ราชาศัพท์ไม่ค่อยกล้าพูด แต่ทูลกระหม่อมฯ
ท่านไม่ค่อยซีเรียส เกดก็แบบพูดเบาๆ ว่า เพคะๆ"
ผลงานละครของลูกเกดในค่าย EXACT เฉลี่ยปีละเรื่องรวมทั้งสิ้น 8 เรื่อง
เช่น แอบเก็บใจไว้ใกล้เธอ (2539), สามหนุ่มสามมุม (2539), มารยาริษยา (2541),
18 มงกุฎสะดุดรัก (2542), สาวใช้หัวใจชิคาโก (2543), ชายครับ ผมเป็นชาย (2544),
เสือ (2546) และเมืองมายา ตอนมายาลวง (2546)
"เกดมาเป็นดารานักแสดงก็เพราะ EXACT เกดถือว่าเกดเป็นเด็กเขา โดยเริ่มเล่นเรื่องแรกคือ
เรื่องแอบเก็บใจไว้ใกล้เธอ เล่นกับพี่ดู๋และพี่อ่ำ แต่ละครเรื่อง "เสือ"
เป็นงานที่ภูมิใจเพราะมันท้าทาย รู้แต่แรกแล้วว่า มันต้องโหดและเหนื่อย ต้องเมกอัพมาก
แต่ต้องเล่นให้คนเชื่อว่าเสือสิงเรา จริงๆ ก็ทำได้ หลายคนชมว่าเล่นดี" เรื่อง
"เสือ" นี้ใช้เวลาถ่ายทำนานถึง 7 เดือนแต่ให้ผลตอบแทนน่าชื่นใจเป็นที่ยอมรับและได้ค่าตัวเงินหลักแสน
การบริหารเวลาและรูปทรัพย์ให้คุ้มค่า โดยทั่วไปดารานางแบบที่มีชื่อเสียงจะใช้วิธีตั้งค่าตัวสูงๆ
แต่เกณฑ์พิจารณารับงานขณะนี้ของลูกเกด เธอเล่าว่า
"เกดบอกได้เลยว่า งานพิธีกรติดต่อเข้ามาเยอะ แต่เกดไม่รับ เพราะพิธีกร
เป็นงานที่ต้องทำ long term ทำให้เกดเดินทางไปหาแม่ไม่ได้ อีกอย่างเกดจะไม่รับงานประเภททอล์กโชว์ที่ต้องสัมภาษณ์
ชื่อคน เพราะเกดจะกังวลว่าจะอ่านชื่อคนผิด แล้วมันจะดูไม่ดีสำหรับเรา"
ปี 2535 ลูกเกดเคยทำรายการดาวล้านดวง ของไก่ วรายุฑ เป็นรายการแรก ผู้หญิงวันนี้
เดลี่แม็กกาซีน ตอนนั้นลูกเกดยังพูดภาษาไทยไม่ชัดเลย
ลูกเกด มีรูปเรือนร่างหน้าตาเป็นสินทรัพย์ แต่เธอเรียนรู้สัจจะจากกระจกเงาว่า
ความงดงามแห่งร่างกายสังขารของคนย่อมร่วงโรยหย่อนยานเหี่ยวย่นไปตามสภาพเวลา
อุปทานนี้ทำให้เธอต้องต่อสู้ปรับตัวรักษาสภาพให้เสื่อมช้าลง ด้วยวิธีปรับวิถีชีวิตการกิน
ดื่มเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกาย ที่เป็นแนวโน้มการรักษาสุขภาพของคนรุ่นใหม่ในต่างประเทศ
และนี่คือช่องทางทำธุรกิจเพื่อสุขภาพ ที่ลูกเกดสามารถพรีเซ็นต์ความสวย แข็งแรง
และกระฉับกระเฉง เป็นภาพลักษณ์สินค้าได้
ธุรกิจน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ ในนามของ ร้าน contrazt bakery and juice bar
ได้เกิดขึ้นแห่งแรก ที่ใต้ถุนตึกจีเอ็มเอ็มแกรมมี่เป็นแห่งแรก ตามด้วยสาขาแคลิฟอร์เนีย
ฟิตเนส, สาขาสยามสแควร์ซอย 1 ร้านตัดผม Quick Cut ในเครือของ ชลาชล และสาขาสยามสแควร์ซอย
2 ใต้ร้าน Fou Bar
ทำเลสี่แห่งดังกล่าว จับตลาดกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่วัยทำงานและวัยรุ่นที่รักสุขภาพ
มีอำนาจการจับจ่ายซื้อน้ำผลไม้ได้แก้วละ 75-95 บาท บวกกับแรงโปรโมตจากดารานางแบบอย่างลูกเกด
กิ่งโพยม ที่เขียนหนังสือ Metinee's Secret ซึ่งขายดีถึงขนาดพิมพ์เป็นครั้งที่
14 แล้ว หนังสือเล่มนี้ว่าด้วยเคล็ดลับรูปร่างสวย มีสูตรน้ำผักผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ
แรงจูงใจนี้ทำให้ร้านของเธอขายดีมีรายได้สูงในช่วงแรกๆ
แต่ตลาดเห่อของใหม่ได้ไม่นาน ถ้าหากร้านไม่มีแรงดึงดูดจากความหลากหลายของสินค้าใหม่และบริการที่ดี
รวมทั้งทุนส่วนใหญ่ยังจมไปกับการลงทุนและค่าตกแต่งและเช่าด้านสถานที่สยามสแควร์ซอย
2 ทำให้รายรับจากธุรกิจไม่คุ้มต่อไป จึงได้ยุบเลิกสาขาทั้งสาม เหลือเพียงแห่งเดียวคือที่สาขาแคลิฟอร์เนีย
ฟิตเนส ซึ่งมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 20,000 คน เป็นตลาดเป้าหมายกลุ่มใหญ่ที่ชัดเจนและตรงกับธุรกิจของร้านน้ำดื่มเพื่อสุขภาพของลูกเกด
กิ่งโพยม อย่างมากๆ และที่สำคัญในอนาคต แคลิฟอร์เนีย ฟิตเนส จะขยายสาขาไป
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ หลังจากมีการ merge ร่วมธุรกิจทั้งสองเข้าด้วยกันในอนาคต
"เกดไม่อยากเป็นลูกจ้างตลอดไป แต่ในเรื่องประสบการณ์ที่จะทำรายการตัวเองนั้นยังไม่มี
และเวลาที่ให้ก็ยังไม่พอ เพราะว่าเกดต้องหาเงินสร้างบ้าน ถ้าเกดหยุดถ่ายละครเพื่อจะมา
run บริษัท เกดจะทำไม่ได้ ตอนนี้เกดยังอยากทำอะไรหลายๆ อย่างอยู่ แต่วันหนึ่งเกดต้องมีธุรกิจของตัวเองแน่นอน
อาจจะเป็นด้านความงาม กีฬา ออกกำลัง ซึ่งเป็นด้านที่เราถนัด"
วันนี้ลูกเกดฉลาดที่จะพลิกการบริหารความงามจาก inside out เอามาใส่ แก้วน้ำผักผลไม้ภายใต้ชื่อใหม่
Metinee's juice bar, เอาปัญญาจากปัญหาสุขภาพมาเขียนเป็นพ็อกเก็ตบุ๊คขาย
และเอา know-how ของซูเปอร์โมเดลมาบริหารระบบนางแบบไทย
แต่อย่าลืมวิธีคิดและงานของลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม ที่ว่า "เกดบอกได้เลยว่า
ธุรกิจของเกดนี่ based on my popularity"
เธอกล่าวเหมือนยอมรับว่าการรักษาความนิยม (popularity) และการเป็น talk
of the town ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งเพื่อความสำเร็จในเส้นทางการดำเนินธุรกิจของเธอ
ทั้งหมดนี้คือ Beauty Asset Management ของเมทินี กิ่งโพยม ที่หล่อหลอมประสบการณ์ทั้งสำเร็จและล้มเหลวด้วยตนเอง
โดยไม่มีที่ปรึกษามืออาชีพ หรือผู้จัดการ แต่ที่เธอมีมากก็คือ สมองกับหัวใจ
และยิ่งกว่านั้นสิ่งจำเป็นที่สุดที่เธอต้องมีตลอดเวลาคือ โทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นกลไกสร้างคอนเนกชั่น,
งาน และเงิน!!
ภาพโดย :
ธีรพงษ์ ต๋าอ่อน
จันทร์กลาง กันทอง
ธนกร ลักษณะวารี