Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2546








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2546
เมื่อตลาดหุ้นสิ้นมนต์ขลัง             
 

   
related stories

การกลับมาของกองทุนร่วมลงทุน

   
search resources

Alain Afflelou
Maurice Tchenio
Alain Afflelou




แฟรนไชส์ร้านแว่นตาใหญ่สุดในฝรั่งเศสเมินตลาดทุน หันซบอกกองทุนร่วมลงทุน

เมื่อ Alain Afflelou เจ้าของแฟรนไชส์ร้านแว่นตาที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส วางแผนจะขยายสาขาร้านแว่นตาของตนเพิ่มขึ้นอีก 136 สาขา และรุกตลาดสเปน จากที่มีอยู่แล้ว 500 สาขาในฝรั่งเศสและบางประเทศในยุโรป เขาไม่ได้ไปพบนายแบงก์ ไม่ขายหุ้น IPO แต่กลับหันไปหา Maurice Tchenio นายทุนผู้กว้างขวางในวงการกองทุนร่วมลงทุน ผู้เป็นเจ้าของ Apax Partners กองทุนร่วมลงทุน (venture capital) ที่เก่าแก่ที่สุดกองทุนหนึ่งของสหรัฐฯ และยุโรป

Afflelou ใช้เงินที่ได้จากการทำข้อตกลงกับ Apax จำนวน 98 ล้านยูโร ขยายสาขาไปทั่วสเปน โดย Apax ถือหุ้น 48% และที่เหลือเป็นของ Afflelou หลังจากนั้น Apax ยังช่วยให้บริษัทของ Afflelou เข้าตลาดหุ้นเมื่อปีกลาย และขายหุ้น IPO ได้ 69 ล้านยูโร ซึ่งสร้างความผิดหวังให้แก่ Afflelou ไม่น้อย เพราะเป็นจำนวนเพียงครึ่งเดียวของที่เขาคาดว่าจะระดมมาได้

แต่นั่นก็ไม่อาจหยุดยั้ง Afflelou ผู้มีสายตายาวไกลได้กลุ่มบริษัท Alain Afflelou ซึ่งล่าสุดมีรายได้ 374 ล้านยูโร และมีสาขาร้านแว่นตาอยู่ในเบลเยียม ลักเซมเบิร์ก เลบานอน โมร็อคโคและตูนิเซีย ได้วางแผนจะซื้อร้านเพิ่มอีกในอิตาลี โปแลนด์และเช็ก รีพับ บลิกภายในสิ้นปีนี้ เพราะยิ่งขยายสาขามากเท่าไร โอกาสที่เขาจะขายกรอบแว่นที่ติดแบรนด์ของตัวเองได้มากขึ้นก็มีมากเท่านั้น เมื่อปีกลายกำไรขั้นต้นที่ Afflelou ได้รับจากการขายกรอบแว่นแบรนด์ของตัวเอง พุ่งสูงขึ้นทันทีที่เขาสามารถหาที่ว่างได้เพิ่มมากขึ้นสำหรับวางกรอบแว่นแบรนด์ของตนเอง บวกกับการใช้ลูกเล่นทางการตลาดอย่างการขายแว่นตาชุด La funny ซึ่งมีแว่นกันแดด 4 อันอยู่ในกระป๋อง หรือชุด La forty ซึ่งเป็นแว่นสายตายาว 4 อันสำหรับลูกค้าวัยกลางคน นี่ยังไม่นับงบโฆษณาที่เขาทุ่มไม่อั้นถึง 30 ล้านยูโรต่อปี

Tchenio "เจ้าพ่อ" Apax ชื่นชม Afflelou ไม่น้อย เพราะเขาเห็นว่าธุรกิจของฝรั่งเศสที่จะประสบความสำเร็จได้ในทุกวันนี้ควรจะต้องรู้ว่า การเป็นเพียงผู้นำตลาดเฉพาะในฝรั่งเศสนั้นไม่เพียงพอเสียแล้ว แต่จะต้องเป็นผู้นำตลาดในยุโรปด้วย

และแผนการที่จะเป็นผู้นำตลาดของยุโรปก็จำเป็นต้องใช้เงินทุนเพิ่มขึ้น แต่ดูเหมือนว่าแหล่งทุนดั้งเดิมอย่างตลาดทุนในยามนี้ กลับหวงแหนเงินและไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะลงทุนเท่าไรนัก ในขณะที่บริษัทเองก็ไม่ต้องการก่อหนี้เพิ่มหากแต่ ต้องการจะลดหนี้ ดังนั้น Afflelou จึงไม่ใช่ผู้ประกอบ การเพียงรายเดียวที่หันกลับไปซบอกกองทุนร่วมลงทุน แทนตลาดทุน ซึ่งกำลังผลักไสให้บริษัททั้งน้อยและใหญ่ในฝรั่งเศสต้องหันกลับไปจูบปากกับนักลงทุนประเภท venture capitalist อีกครั้ง "ผู้ซื้อเพียงรายเดียวที่มีอยู่ในตลาดทุกวันนี้คือ กองทุนร่วมลงทุน ทั้งหลาย เพราะมีแต่พวกเขาเท่านั้นที่มีเงินสดๆ อยู่ในมือ "Yann Duchesne กล่าว เขาเพิ่งเปิดออฟฟิศในปารีสของกองทุนร่วมลงทุนชื่อ Doughty Hanson ที่มาจากลอนดอนไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us