Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 ตุลาคม 2546
เอเปกชูค้าเสรี-ล้างก่อการร้าย             
 


   
search resources

องค์การการค้าโลก - WTO
APEC
กระทรวงการต่างประเทศ
สุรเกียรติ์ เสถียรไทย
ทักษิณ ชินวัตร
มหาเดร์ มูฮัมหมัด
จอร์จ ดับเบิลยู บุช




ประชุมผู้นำเอเปกครั้งที่ 11 ปิดฉาก ออกปฏิญญากรุงเทพฯ ดันการค้าเสรี ทำลายล้างกลุ่มก่อการร้าย พร้อมสนับสนุนประชาชนให้รับประโยชน์จากกระแสโลกาภิวัตน์ "ทักษิณ" เผย เหตุ "มหาเธร์" ยอมให้นำเรื่องก่อการร้ายมาบรรจุ ในการประชุมเพราะเครื่องยิงจรวดแบบพกพาเป็นภัยต่อธุรกิจการบิน ขณะเดียวกัน "มหาเธร์" ยังเคลียร์ใจ "บุช" เรื่องยิว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพระที่นั่งอนันตสมาคมซึ่งเป็นสถานที่ประชุม สุดยอดผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกอย่างไม่เป็นทางการครั้งที่ 11 เมื่อ เวลา 09.30 น. วานนี้ (21 ต.ค.) โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายก-รัฐมนตรี สวมเสื้อผ้าไหมยกทองลายสัตว์หิมพานต์ เช่น ราชสีห์ คชสีห์ นกทัณฑิมา นกยูง หงส์ ซ้อนขึ้นมาอีกชั้นหนึ่งสีแดง เม็ดมะขามเข้ม ตัดแบบเสื้อพระราชทาน คอยต้อนรับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ซึ่งจะเดินทางมาถึงตามตัวอักษร โดยเริ่มจากผู้นำออสเตรเลีย จนถึง ผู้นำเวียดนาม ซึ่งผู้นำแต่ละท่าน ได้สวมเสื้อผ้าไหมยกทองเช่นเดียว กับนายกรัฐมนตรี ขณะที่ผู้นำประเทศกลุ่มมุสลิมจะไม่มีลายเสื้อเป็นรูปสัตว์หิมพานต์ แต่ใช้ลายดอกพุดตานแทน ซึ่งแต่ละตัวจะมีราคา 90,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อผู้นำแต่ละท่านเดิน ทางมาถึงพระที่นั่งอนันตสมาคม นายกรัฐมนตรี ได้จับมือและถ่ายรูปคู่ผู้นำแต่ละประเทศ จากนั้นจะเชิญไปยังชั้น 2 ห้องโดมด้านทิศใต้ เพื่อลงนามในสมุดเยี่ยม โดยมี นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รมว.ต่างประเทศ ให้การต้อนรับและอธิบายรายละเอียดของสถานที่และศิลปะของพระที่นั่งอนันตสมาคม

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อผู้นำเดินทางมาถึงได้จับกลุ่มคุยเกี่ยวกับเสื้อผ้าไหม และชื่นชม ศิลปะของพระที่นั่งอนันตสมาคม จากนั้น ผู้นำทั้งหมดได้ร่วมกันถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึก โดยยืนตามลำดับความสูง ต่อจากนั้น ผู้นำทั้งหมดเริ่ม ประชุมอย่างเป็นทางการ โดยจัดโต๊ะประชุมแบบโต๊ะกลม และไม่นั่งตามตัวอักษร แต่จัดตาม ความเหมาะสม โดยด้านซ้ายของนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำรัสเซีย ขวามือเป็นผู้นำฟิลิปปินส์

ประกาศหนุนค้าเสรี-ต้านก่อการร้าย

หลังการประชุม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้อ่านปฏิญญาฯ สรุปว่า ประเด็นหลักของการประชุมครั้งนี้คือโลกแห่งความแตกต่าง หุ้นส่วนเพื่ออนาคต พวกเราตกลงที่จะเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนที่ไม่เพียง เพื่อเปิดเสรีและอำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุนในภูมิภาคเท่านั้น แต่เพื่อปกป้องประชาชนและสังคมของเรา จากภัยคุกคามต่อความมั่นคงของเรา พวกเราสามารถแปลงวิสัยทัศน์ไปสู่เสถียรภาพความมั่นคงและมั่งคั่งแก่ประชาชนของเราให้เป็นจริง ด้วยการดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้


1. การส่งเสริมการเปิดเสรีด้าน การค้า การลงทุน พวกเราเห็นว่าการที่จะทำให้การค้าเสรีของโลกเจริญรุ่งเรืองต่อไป การจัดทำ ความตกลงเขตการค้าเสรีในระดับภูมิภาคและระดับทวิภาคีจำเป็นต้องสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ขององค์การการค้าโลก

2. การส่งเสริมความมั่นคงปลอดภัยของมนุษย์ พวกเราเห็นพ้องต้องกันว่า การก่อการร้ายข้ามชาติและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง เป็นสิ่งท้าทายโดยตรงอย่างรุนแรง ต่อวิสัยทัศน์เอเปกที่ต้องการให้เศรษฐกิจทั้งหมด เปิดกว้าง เสรีและมั่งคง เพราะฉะนั้น เราต้องทำลายล้างกลุ่มผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ ที่เป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจเอเปกอย่างเต็มที่และไม่ล่าช้า

รวมทั้งจะต้องมีการสานความพยายามในการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการควบคุมภายใน ประเทศ ในเรื่องเครื่องยิงจรวดแบบพกพา (MANPADS) 3. การใช้เอเปกเพื่อช่วยเหลือประชาชนและสังคมทั้งหมด ให้ได้รับประโยชน์จากโลกาภิวัตน์ เพราะในการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนต้อง อาศัยการสร้างพลังให้กับประชาชนและการเสริม สร้างความเข้มแข็งของสังคมทั้งหมด ในยุคโลกาภิวัตน์ เน้นเป็นหุ้นส่วนสู้อนาคต

จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แถลงผลการประชุมเอเปก ว่า เนื้อหาการหารือ ของผู้นำเอเปกอย่างไม่เป็นทางการ ทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการครั้งแรก ที่ทำเนียบรัฐบาล ที่ประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง การประชุมองค์การการค้าโลก (WTO) ว่าจะทำอย่างไรให้การประชุมรอบโดฮา กลับไปสู่ทิศทางเดียวกัน โดยให้รัฐมนตรีเอเปก และผู้ที่เกี่ยวข้องไปหารือ อย่างไม่เป็นทางการ เพื่อหาข้อยุติร่วมกัน

"ที่ประชุมยืนยันว่า การพัฒนาควรจะเดินไปพร้อม ๆ กัน ไม่ควรเพิกเฉยในเรื่องของความ แตกต่างของการพัฒนา และในการเจรจาควรจะมีความยืดหยุ่น เพื่อไปสู่ข้อสรุปในการเจรจาที่ประสบความสำเร็จ และเน้นเรื่องการค้าเสรีทั้งทวิภาคี และพหุภาคี เพื่อให้เอเปกเป็นภูมิภาคของการค้าเสรี ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่โบกอร์ ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับ WTO"

หนุนเจรจา 6 ฝ่ายแก้ปัญหาคาบสมุทรเกาหลี

สำหรับปัญหาการก่อการร้าย ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเห็นว่าจำเป็นจะต้องแก้ไขปัญหาตั้งแต่รากเหง้าของมูลเหตุ เพราะปัญหาการก่อการร้าย เป็นสาเหตุหลักในการบั่นทอนการค้า การลงทุนของเอเปก ที่ประชุมจึงตกลงที่จะร่วมเสริมสร้างความร่วมมือ ในการต่อต้านการก่อการร้ายต่าง ๆ นอกจากนั้น ยังมีการพูดถึงปัญหาคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งที่ประชุมสนับสนุนให้มีการเจรจา 6 ฝ่ายต่อไป โดย ต้องการเห็นการเจรจาอย่างสันติและเน้นให้เอเปก เข้าไปมีส่วนร่วม และมอบหมายให้รัฐมนตรีไปศึกษาปัญหา และรายงานความคืบหน้าในการประชุมเอเปกครั้งต่อไปที่ชิลี ในปี 2004 และประเทศเปรูก็เสนอเป็นเจ้าภาพต่อไปในปี 2008

จากนั้นนายกรัฐมนตรีเปิดโอกาสให้สื่อ มวลชนถามปัญหา 3 ข้อ โดยผู้สื่อข่าวได้ถามว่า มีความเหมาะสมหรือกับบทบาทของเอเปกที่มีการหารือเรื่องของ WTO และมีข้อสรุปอย่างไรที่ผลักดันให้ก้าวหน้ากว่านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เอเปก จะพยายามผลักดันให้มีการเจรจารอบโดฮาต่อไป ซึ่งการประชุมครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณของ 21 เขตเศรษฐกิจ ที่มี GDP รวมกันมากกว่า 50% ของโลก แม้ว่าเวทีเอเปกจะไม่สามารถหารือในรายละเอียดได้ ซึ่งเราก็อยากให้ สถานการณ์การเมืองเป็นไปอย่างชัดเจน ดังนั้น เอเปกก็จำเป็นต้องผลักดันข้อตกลงโดฮา โดยจะใช้ร่างเอกสารที่เคยมีการพูดกันไว้ เป็นพื้นฐาน ในการเจรจาต่อไป

ระบุเครื่องยิงจรวดทำ "มหาเธร์" ยอม

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ที่ประชุมผู้นำเอเปกทำอย่างไร จึงโน้มน้าวให้นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เห็นด้วยกับเรื่องการป้องกันการก่อการร้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นว่าเรื่องเครื่องยิงจรวดแบบพกพา (MANPADS) เป็นอาวุธที่อาจจะสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบิน คนจะกลัวการเดินทาง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างแน่นอน ผู้นำเอเปกจึงได้มีการหารือเรื่องนี้ เพราะเล็งเห็นว่าเป็นอาวุธที่ต้องจัดการ ไม่เช่นนั้นจะเป็นผลเสียต่อระบบการบินได้

สำหรับการปฏิรูประบบสกุลเงินนั้น พ.ต.ท. ทักษิณ กล่าวว่า เรื่องโครงสร้างทางการเงิน ได้พูดรวมถึงสิ่งที่เอเชียกำลังทำอยู่ คือพันธบัตรเอเชีย ที่เราจะผลักดันให้มีดุลยภาพมากขึ้นในการเงินของโลก โดยให้รัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่อาวุโสไปหารือต่อ ซึ่งคิดว่าประธานาธิบดีชิลี ซึ่งจะเป็นประธานการประชุมผู้นำเอเปกในปีหน้า จะนำมาหารือต่อ

"ทักษิณ" เผยผลสำเร็จเอเปกเกิดจากในหลวง

พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์หลังแถลงข่าว ว่า การจัดการประชุมครั้งนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จ ซึ่งความสำเร็จเพราะเป็นพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้นำเรือออกมาแสดงกระบวนพยุห-ยาตราชลมารค และใช้พระที่นั่งอนันตสมาคมใน การประชุมผู้นำเอเปก รวมทั้งให้ผู้นำเข้าเฝ้าฯ และ พระราชทานเลี้ยงรับรองพร้อมฉายพระบรมฉายาลักษณ์ และยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ผู้นำของประเทศที่สำคัญทั้ง 3 ประเทศ คือ อเมริกา รัสเซีย และจีน เป็นพระราชอาคันตุกะ การจัดงานครั้งนี้เป็นที่ยอมรับประทับใจกับผู้นำและสื่อต่างประเทศจำนวนมาก นอกจากนี้ สิ่งสำคัญ ได้รับความร่วมมือจากประชาชนคนไทย ซึ่งต้องขอบคุณคนในกรุงเทพฯ ที่ถูกปิดการจราจร

ไทยได้ประโยชน์ในการยกระดับศักยภาพ

ส่วนกรณีประธานาธิบดีสหรัฐฯ พยายามผลักดันให้มีการหารือในเรื่อง การต่อต้านการก่อการร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า สหรัฐฯ ก็ผลักดันในระดับที่ทางเอเปกถือว่า เกี่ยวพันกับเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของเอเปก ถ้าเรื่องใดไม่กระทบหรือเกี่ยวพันกับเศรษฐกิจก็จะไม่นำมาเป็นหัวข้อการหารือ ส่วนการหารือเรื่องการค้าเสรี เป็นการเจรจาแบบค่อยเป็นค่อย ไป โดยดูทีละส่วนที่ไม่มีผลกระทบ และส่วนใหญ่ เป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันระหว่างสองประเทศ ที่สำคัญผู้นำมีความใกล้ชิดและสนิทสนมกันมาก และสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง และนำไปสู่การแก้ปัญหาของแต่ละประเทศ

"ประเทศไทยและประชาชนคนไทย ได้รับประโยชน์มากโดยสิ่งแรกที่ได้เห็นคือ การเปลี่ยนสถานะของประเทศ หลังจากถูกวิกฤตเศรษฐกิจและถูกดูแคลนพอสมควรว่า ไม่มีศักยภาพที่จะพัฒนา แต่วันนี้ หลังจากที่ประกาศ ไปแล้วว่า เราจะไม่ขอรับบริจาคจากใคร จะขอเป็นหุ้นส่วนมากกว่าการรับบริจาค โดยการเริ่มต้น การใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ และหลังจากวันนี้ได้เห็นความพร้อมและความมีศักยภาพของประเทศ วัฒนธรรม มีสิ่งที่เป็นของดีของประเทศที่ถูกนำมาแสดง รวมทั้งเรื่องของการท่องเที่ยว ความน่าเชื่อถือ เป็นสิ่งที่ไทยจะได้รับ"

มหาเธร์เคลียร์บุชไม่ได้โจมตียิว

ส่วนที่มองกันว่าเมื่อ ดร.มหาเธร์ ลงจากตำแหน่งจะทำให้ท่าทีอาเซียน ลดความแข็งกร้าว ลง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทุกคนต้อง คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและภูมิภาคตนเอง ในการที่จะพุดคุยในเวทีโลก ไม่มีใครที่จะยอมทุกเรื่องแบบไม่มีเหตุไม่มีผล เพียงแต่ว่า จะกล้าพูดแค่ไหนเท่านั้น

"ความจริงวันนี้ ดร.มหาเธร์ได้พูดด้วยความเข้าใจ โดยชี้แจงว่า มีการไปเน้นคำพูดเพียง ส่วนเดียว แต่ความจริงแล้วไม่ได้เข้าข้างยิวหรืออิสลาม แต่พูดในหลักการกว้าง ๆ ว่าเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ หากแก้ไขไม่ตรงจุดก็จะแก้ไม่ได้ โดย ดร.มหาเธร์ได้อธิบายให้ที่ประชุมของ ผู้นำทุกคนรับทราบ ซึ่งประธานาธิบดีบุชเองก็เข้าใจ บรรยากาศทุกอย่างเป็นไปด้วยดี"

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดร.มหาเธร์ มีความกังวลฐานะของอาเซียนที่จะต้องเจรจาพูดคุยกับประเทศมหาอำนาจอื่นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ วันนี้ ดร.มหาธีร์ พูดดีมาก โดยเฉพาะพูดถึงการโจมตีค่าเงิน ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ โดยบอกว่า ถึงเวลาแล้วที่โลกต้องคิดว่า เงินเป็นเพียงเครื่องอ้างอิงที่แต่ละประเทศจะกำหนด แต่ไม่ควรมีการเก็งกำไรค่าเงินทำให้เสียหาย และทำให้คนจนแย่ ประเทศที่กำลังพัฒนาอาจจะล้มลงไปได้ เพราะมีคนบ้าเก็งกำไร อยู่ไม่กี่คน และคิดว่าน่าจะเป็นสถาปัตยกรรมทางการเงินที่จะต้องมาคิดร่วมกันใหม่ ซึ่งบังเอิญเรื่องเหล่านี้ อยู่ในเรื่องของเอเชียบอนด์และการพัฒนาตลาดเอเชียบอนด์ซึ่งนายก-รัฐมนตรีญี่ปุ่น ก็ได้พูดถึงเรื่องระบบโครงสร้างและปฏิรูปการเงินโดยได้พูดถึงเอเชียบอนด์และการพัฒนาตลาดตราสารหนี้เรื่องการจัดตั้งสถาบันจัดอันดับเครดิตของประเทศ ซึ่งเรื่อง เอเซียบอนด์ ทุกคนก็สนับสนุน โดยบางประเทศ อาจจะเข้ามาร่วมลงทุน

มหาเธร์ยันไม่อยากให้เอเปกต้านก่อการร้าย

ด้านดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรี มาเลเซีย กล่าวถึงการที่สหรัฐฯใช้เวทีการประชุม เอเปกในการต่อต้านการก่อการร้ายด้วยว่า ไม่อยากให้เอเปกเป็นเวทีทางทหารเพื่อที่จะต่อต้านประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะจะพบว่าสหรัฐฯได้เปลี่ยนแผนจากการส่งกองกำลังรักษา สันติภาพมาเป็นนโยบายที่จะนำไปใช้กำลังมากขึ้นด้วยการคุกคาม ข่มขู่ประเทศอื่น ๆ เช่น การ ใช้มาตรการคว่ำบาตร

ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ และยังมีการพบปะพูดคุยกันตามปกติ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยังกล่าวอีกว่า กลุ่มคนที่เป็นพวก หัวรุนแรงนั้น ไม่ได้มีเพียงเฉพาะพวกมุสลิม แต่ก็ยังมีศาสนาพุทธ ฮินดู อย่างเช่น พวกปาเลสไตน์ซึ่งถูกปล้นดินแดน แต่พวกเขาก็มีสิทธิในที่จะปกป้องเรียกร้องอาณาธิปไตยของพวกเขากลับคืนมา

ส่วนการเปิดการค้าเสรีนั้น นายกรัฐมนตรี มาเลเซีย เห็นว่า ไม่ได้ก่อให้เกิดการค้าที่ยุติธรรม ตรงกันข้ามการค้าที่ยุติธรรมก่อให้เกิดการค้าเสรี ได้ ดังนั้น จึงควรจะทำให้การค้ามีความยุติธรรม โดยการกลับมามองปัญหาภายในของแต่ละประเทศและประเทศต่างๆ ควรที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาและแก้ไขความไม่พร้อมของประเทศนั้นๆก่อนที่จะมีการค้าเสรี การค้าจึงจะดำเนิน การไปอย่างยุติธรรม

เดินทางกลับทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกเดินทางไปประชุมที่พระที่นั่งอนันตสมาคมแล้ว ช่วงบ่าย ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกได้เดินทางกลับโรงแรมที่พัก เพื่อพักผ่อน โดยมีผู้นำ 15 เขตเศรษฐกิจจะเดินทางกลับทันที ได้แก่ ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้นำสหรัฐอเมริกา เดินทางกลับทันทีโดยจะไปเยือนประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย ตามลำดับ

นอกจากนี้ ยังมีผู้นำจากสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี เวียดนามไต้หวัน แคนาดา มาเลเซีย เม็กซิโก ออสเตรเลีย ชิลี เปรู อินโดนีเซีย จีน ต่างทยอยเดินทางกลับประเทศ ทำให้ต้องปิดถนนและทางด่วน และโทลล์เวย์ เป็นระยะตั้งแต่เวลา 14.00 - 24.00 น. ของวานนี้ (21 ต.ค.)   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us