Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2543








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2543
แผนฟื้นฟู TPI ได้ข้อยุติแล้ว             
 


   
search resources

อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย, บมจ.
เอ็ฟเฟคทีฟ แพลนเนอร์ส




ในที่สุด แผนการฟื้นฟูกิจการบริษัทอุตสาหกรรมปิโตร เคมีกัลไทย (TPI) ก็ได้ข้อสรุป ซึ่งเป็นที่ยอมรับได้ทั้งฝ่ายเอ็ฟเฟ็คทีฟ แพลนเนอร์ส ผู้ทำแผน และประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ TPI ในคืนวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา

ตามแผนที่ได้ข้อสรุปออกมานั้น ฝ่ายเจ้าหนี้ จะแปลงหนี้ในส่วนดอกเบี้ยค้างจ่ายทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2541-2543 และเงินค้ำประกันอีกส่วนหนึ่งรวม 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นหุ้นจำนวน 5,850 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 5.45 บาท ซึ่งจะทำให้ เจ้าหนี้เข้ามามีส่วนถือหุ้นใหญ่ใน TPI ถึง 75% และมีอำนาจเต็มในการบริหาร

หุ้นจำนวนนี้ เจ้าหนี้จะถือไว้โดยไม่ขายตลอดระยะเวลา 4 ปีของแผนฟื้นฟู และเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเดิมมีสิทธิ์ซื้อคืน ได้ ภายในวันที่ 31 ธ.ค.2547

โดยการซื้อหุ้นคืนของผู้ถือหุ้นเดิม จะคิดราคาเท่ากับราคา ที่เจ้าหนี้แปลงหนี้เป็นทุน บวกด้วยดอกเบี้ย MLR และกำไรอัตราดอกเบี้ยอีก 50% ตัวอย่างเช่น หากอัตราดอกเบี้ยอยู่ ที่ 8% TPI จะต้องซื้อหุ้นคืนในราคาหุ้นละ 5.45 บาท บวกกับอัตราดอกเบี้ย 12 บาท คือ เป็นราคารวมหุ้นละ 17.47 บาท

"แผนปรับโครงสร้างหนี้ ที่เสนอมาครั้งนี้ ถือว่าเป็นธรรม และในหลักการใหญ่เราสามารถรับได้" ประชัยกล่าว

การแปลงหนี้เป็นทุนครั้งนี้ ส่งผลให้ภาระหนี้ของ TPI ลดลงจาก 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เหลือเพียง 2.9 พันล้าน ดอลลาร์ โดย TPI จะใช้เงินสดจากการดำเนินงาน และการขายทรัพย์สิน ที่ไม่ใช่สินทรัพย์หลัก (Non-Core Asset) มาชำระหนี้เป็นหลัก

โดยสินทรัพย์ ซึ่งเป็นเป้าหมายของการขาย คือ หุ้นของ บริษัททีพีไอ โพลีน ซึ่งทำธุรกิจผลิตปูนซีเมนต์ ที่ TPI ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 49% โดยคาดว่าจะเริ่มขายในปี 2544 และคาดว่าจะได้เงินมาชำระหนี้ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปัญหาการทำแผนฟื้นฟู TPI ซึ่งยืดเยื้อมาตลอด เกิดขึ้น เนื่องจากกลุ่มเจ้าหนี้ ต้องการให้ประชัยปฏิบัติตาม TERM SHEET ที่ตกลงกันไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2542 แต่ประชัย ต้องการจะระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมาณ 500-700 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำเงินมาลงทุน เนื่องจากเห็นว่าภาวะอุตสาหกรรมปิโตรเคมีอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่เจ้าหนี้ไม่มั่นใจว่า TPI จะระดมทุนได้

"การแปลงหนี้เป็นทุนครั้งนี้ จึงเปรียบเสมือนเจ้าหนี้ตัดสินใจเพิ่มทุนเข้ามาเองเป็นเงิน 800 ล้านดอลลาร์"

ตามขั้นตอนต่อไป เมื่อประชัยยอมรับแผนที่เอ็ฟเฟ็คทีฟ แพลนเนอร์สเสนอแล้ว เอ็ฟเฟ็คทีฟ แพลนเนอร์สจะส่งแผนต่อไปให้กับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เพื่อส่งต่อให้กับเจ้าหนี้ทั้งหมด 40 รายพิจารณาก่อน หลังจากนั้น จะมีการนัดประชุม เพื่อลงมติรับหรือไม่รับแผน และแต่งตั้งผู้บริหารแผน ซึ่งคาด ว่าจะสามารถนัดประชุมได้ในสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายนนี้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us