ทันทีที่คณะกรรมาธิการคมนาคมจุดประเด็นการเปลี่ยนแปลงวิธีการคิดค่าบริการโทรศัพท์พื้นฐาน
โดยมีสมบัติ อุทัยสาง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รับลูกไปสานต่อด้วยการนำวิธีการบริการแบบไทม์โซนมิเตอริ่ง
โดยอ้างว่าเพื่อความยุติธรรมคนใช้มากเสียมาก ใช้น้อยเสียน้อยมาใช้ แถมพ่วงด้วยการลดค่าบริการทางไกลในต่างจังหวัดลง
30% ไทยเทเลโฟน แอนด์ เทเลคอมมิวนิเคชั่น จำกัด หรือทีทีแอนด์ที ผู้รับสัมปทานโทรศัพท์พื้นฐานในต่างจังหวัด
แม้จะยังไม่โดนแรงกดดันเหมือนกับโทรศัพท์มือถือ แต่ก็เหมือนนกรู้รีบออกมารับลูก
ด้วยการนำเสนออัตราค่าโทรศัพท์ทางใหม่ทันที เพื่อไม่ให้เสียชื่อว่าเป็นลูกหม้อเก่าของ
ทศท. แถมยังมีมือบริหารจากองค์การโทรศัพท์ลาออกมาร่วมทีมอยู่เป็นจำนวนมาก
อัตราค่าโทรศัพท์ทางไกลใหม่ที่ทีทีแอนด์ทีเสนอมานั้น จะแบ่งช่วงเวลา ใหม่ออกเป็น
2 ช่วงคือ ภาคกลางวัน และกลางคืน ในขณะที่อัตราค่าบริการเดิม แบ่งเป็น 3
ช่วงเวลา ซึ่งทีทีแอนด์ทีไม่ได้ยืนยันอัตราใหม่ลดลงเฉลี่ย 33% ส่วนอัตราค่าโทรศัพท์ภายในจังหวัดให้คงอัตราเดิมคือ
ครั้งละ 3 บาท อัตราที่ทีทีแอนด์ทีเสนอมานั้น หากมองในภาพรวมแล้วดูดี เพราะเป็นอัตราที่ลดลงกว่าเดิม
หากทีทีแอนด์ทีไม่ได้ยื่นเงื่อนไขขอลดส่วนแบ่งผลประโยชน์ตอบแทน ที่เคยจ่ายให้กับ
ทศท. 43% เหลือเพียง 25% เป็นการตอบแทน
เท่ากับว่า ทีทีแอนด์ทีไม่ต้องควักเนื้อ แต่เป็นการผลักภาระให้กับองค์การโทรศัพท์ฯ
เป็นผู้รับภาระเหล่านี้ไปแทน
แม้ว่า ดร.อดิศัย โพธารามิก จะชี้แจงว่าการแลกเปลี่ยนด้วยวิธีนี้จะให้ทั้งทีทีแอนด์ที
และ ทศท.มีรายได้เพิ่มขึ้นทางอ้อม เพราะจะดึงดูดให้มีผู้ใช้มากขึ้น ซึ่งทำให้รายได้ของทั้งทีทีแอนด์ทีและ
ทศท.เพิ่มขึ้น
แน่นอนว่าทีทีแอนด์ทีย่อมรู้ว่าองค์การโทรศัพท์ฯ คงจะไม่ยอมง่ายๆ เพราะต้องสูญเสียรายได้ประมาณ
6,000 ล้านบาท แต่การออกมายื่นข้อเสนอก่อน อาจเป็นไปได้ว่าทีทีแอนด์ทีต้องการซื้อเวลา
เพื่อลดแรงกดดันจากคณะกรรมาธิการ ซึ่งกำลังเร่งทำคะแนนเสียงอยู่ในเวลานี้
และมีผลศึกษาอย่างไม่เป็นทางการของคูเปอร์แอนด์ไรแบนด์ บริษัทจากต่างประเทศที่
ทศท.จ้างมาเป็นที่ปรึกษาในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งศึกษาโครงสร้างอัตราค่าบริการทั้งหมดของ
ทศท. ได้เคยชี้แจงกับคณะกรรมการของ ทศท.อย่างไม่เป็นทางการแล้วว่า อัตราค่าโทรศัพท์ทางไกลนั้นแพงเกินไป
ในขณะที่โทรศัพท์ภายในจังหวัดถูกเกินไป เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนของ ทศท.
ซึ่งทีทีแอนด์ทีคงรู้เรื่องนี้ดี
ดังนั้น การออกมายื่นข้อเสนอก่อนย่อมดีกว่าการถูกบีบให้ต้องทำตามเพราะอาจมีข้อต่อรองได้มากกว่าการต้องทำตามที่รัฐบาลกำหนดไว้
หรือไม่ ทีทีแอนด์ทีอาจเห็นตัวอย่างจากการลดค่าบริการเพจเจอร์ ที่ ทศท.ต้องออกมาแบกรับภาระแทนเอกชนผู้รับสัมปทาน
ด้วยการยอมลดผลประโยชน์ตอบแทนลง ดีไม่ดี ทศท.เกิดเห็นชอบขึ้นมา หรือมีการต่อรองในเรื่องตัวเลขผลประโยชน์ตอบแทนเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อย
ทีทีแอนด์ทีก็คงสบายไปไหนจะได้ทั้งเงินและได้ทั้งกล่อง