Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2539
คาร์ลอส มิเกล กูเทียร์เรซ "เคลล็อก" จะน็อกปาท่องโก๋?             
 


   
search resources

เคลล็อก
Health Foods and Food Supplements
คาร์ลอส มิเกล กูเทียร์เรซ




หลังจากส่งสินค้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยนานถึง 40 ปี ในที่สุด "เคลล็อก" ก็ตัดสินใจเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตอาหารธัญพืชสำเร็จรูป หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ซีเรียล ขึ้นที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง โดยได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ส่วนการก่อสร้างจะเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ และคาดว่าจะเริ่มผลิตสินค้าได้ในต้นปี 2540 โดยจะเป็นการดำเนินงานภายใต้ชื่อ บริษัทเคลล็อก (ประเทศไทย) จำกัด

นายคาร์ลอส มิเกล กูเทียร์เรซ รองประธานบริหาร บริษัท เคลล็อก จำกัด ในฐานะประธานเคลล็อกประจำภาคพื้นเอเชีบแปซิฟิก ซึ่งเดินทางเข้ามาร่วมพิธีกล่าวถึงปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลให้เคลล็อกตัดสินใจตั้งโรงงานในประเทศไทยว่า เริ่มจากการได้รับการต้อนรับอย่างดีจากหน่วยงานรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ภาคเอกชนในช่วงที่เข้ามาสำรวจหาพื้นที่ บวกกับปัจจัยอื่นๆ อาทิ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐบาลการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่รวดเร็ว ผลิตผลทางการเกษตรที่มีคุณภาพความพร้อมทางด้านสาธารณูปโภค นิคมอุตสาหกรรมและแรงงาน

"ด้วยเหตุผลทั้งหมดดังกล่าว เคลล็อกจึงเลือกให้ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่ได้เข้าไปสำรวจในประเทศอื่นๆ มาแล้ว โดยสินค้าที่ทำการผลิต นอกจากจะจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อทดแทนการนำเข้าจากออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังจะเป็นฐานในการส่งออกไปยังประเทศอื่นในแถบนี้อีกด้วย"

นอกจากนี้นายกูเทียร์เรซยังยอมรับว่า การเกิดขึ้นของเขตการค้าเสรีอาเซียนหรืออาฟตา ซึ่งกำลังจะมีผลบังคับใช้ในไม่กี่ปีข้างหน้า ก็มีส่วนสำคัญทำให้เคลล็อกตัดสินใจเข้ามาตั้งโรงงานผลิตสินค้าในประเทศไทยช่วงนี้เช่นกัน เพราะเคลล็อกจะได้รับประโยชน์ทางด้านภาษีในการส่งสินค้าจากฐานการผลิตที่ประเทศไทยไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนขณะที่หากยังต้องนำเข้าจากนอกภูมิภาคอย่างเช่นปัจจุบันนี้จะทำให้บริษัทเสียเปรียบในเรื่องการแข่งขัน

โรงงานผลิตอาหารธัญพืชสำเร็จรูป "เคลล็อก" ในประเทศไทย นับเป็นโรงงานอันดับที่ 25 หรือเป็นโรงงานแห่งที่ 6 ในทวีปเอเชียต่อจากประเทศออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเพิ่งเริ่มดำเนินการเมื่อปี 2538 ที่ผ่านมา โดยเคลล็อกต้องใช้เงินลงทุนในครั้งนี้ทั้งสิ้นประมาณ 300 ล้านบาท สำหรับเป็นค่าที่ดินขนาด 12 ไร่ ค่าก่อสร้างโรงงานขนาด 4,000 ตารางเมตร และค่าเครื่องจักรสำหรับกำลังการผลิตเฟสแรกประมาณ 4 ล้านกิโลกรัมต่อปี ซึ่งหากมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มก็ต้องลงทุนเพิ่ม

นอกจากหวังให้ไทยเป็นฐานส่งออกแล้ว การเข้ามาลงทุนสร้างโรงงานผลิตในประเทศไทยก็ยังแสดงให้เห็นว่า เคลล็อกเตรียมที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจังเสียทีหลังจากที่ปล่อยให้สินค้าโตตามธรรมชาติมานาน เพราะถ้าเคลล็อกเข้ามาบุกตลาดอย่างจริงจังตั้งแต่ 40 ปีที่แล้วที่เริ่มเข้ามา ป่านนี้คนไทยอาจจะกินซีเรียลกันทั้งเมืองไปแล้วก็ได้

เคลล็อกแต่งตั้งให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทยแสงกรอเซอร์รีส เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าเมื่อกว่า 40 ปีมาแล้ว แต่เพิ่งเข้ามาช่วยทำตลาดเมื่อประมาณ 5ปีที่ผ่านมา ซึ่งกิจกรรมหลักๆ ที่ใช้ก็เป็นเพียงการโฆษณาทางสื่อต่างๆ โดยมีบริษัท ลีโอ เบอร์เนท เป็นผู้แทน

ด้วยความที่ไม่ให้ความสนใจในการทำตลาดอย่างจริงจัง ทำให้ตลาดรวมของอาหารเช้าประเภทธัญพืชของไทยมีมูลค่าเพียง 200-300 ล้านบาทเท่านั้น ขณะที่ขนมขบเคี้ยวซึ่งเกิดขึ้นทีหลัง แต่ได้รับการกระตุ้นอย่างจริงจังมีมูลค่าตลาดรวมนับพันล้านบาทไปแล้ว

"หลังจากที่เคลล็อกเข้ามาช่วยทางด้านการตลาด อัตราการเติบโตของยอดขายก็เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอัตราการเติบโตปีละ 20% เป็นเติบโตปีละ 100%" กิตติพงษ์ อัศววัฒนา ผู้จัดการทั่วไป ไทยแสงกรอเซอร์รีส เล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟัง

แม้ว่าปัจจุบันเคลล็อกจะเป็นเจ้าตลาด โดยมีส่วนแบ่งในตลาดนี้อยู่ถึง 50% หรือคิดเป็นยอดขายประมาณ 100-150 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับยอดขายของเคลล็อกในปี 2538 ที่ผ่านมา ซึ่งมียอดขายทั่วโลก 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 175,000 ล้านบาท ขณะที่มีกำลังการผลิตรวมอยู่ 1 พันล้านกิโลกรัมแล้วจะเห็นว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่เล็กมาก

"แต่เคลล็อกก็ถือว่าตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นตลาดที่แท้จริงของบริษัท เพราะมีศักยภาพในการขยายตัวสูงมาก จะเห็นได้จากจำนวนประชากรที่มีมากถึง 600 ล้านคน ประกอบกับอัตราการบริโภคซีเรียลต่อคนต่อปียังอยู่ในอัตราที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วอย่างออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา ซึ่งมีอัตราการบริโภคต่อคนต่อปีมากกว่าคนละ 5 กิโลกรัม" กูเทียร์เรซกล่าว

อย่างไรก็ดี กูเทียร์เรซปฏิเสธที่จะเปิดเผยถึงแผนการรุกตลาดอย่างเต็มตัวในปีหน้า หลังจากที่โรงงานในประเทศไทยสร้างเสร็จ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า มั่นใจว่าจะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยได้สำเร็จ

โดยเคลล็อกรู้ดีว่าการจะทำให้คนไทยที่คุ้นเคยกับการรับประทานโจ๊ก ข้าวต้ม ก๋วยจั๊บ หรือปาท่องโก๋เป็นอาหารเช้ามานาน หันมารับประทานซีเรียลนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และอาหารเช้าสไตล์ไทยๆ อย่างนี้นี่แหละที่เป็นคู่แข่งสำคัญของเคลล็อก ยิ่งกว่าสินค้าประเภทเดียวกันที่ทั้งเนสท์เล่ เซราบอส โอวัลตินและยี่ห้ออื่นๆ ทำตลาดอยู่เสียอีก

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us