ภาพยนตร์เรื่อง "กาเหว่าที่บางเพลง" เป็นผลงานชิ้นเอกของกันตนา ขณะเดียวกันก็เป็นการพิสูจน์ฝีมือในเรื่องของภาพและเสียงที่ทางกันตนาใช้เป็นข้อยืนยันถึงความมีศักยภาพเทียบเท่าทุกเจ้าในโลก แก่ผู้ทำธุรกิจบันทึกเสียงหนัง ทำให้บริษัท ดอลบี้ แลบบอราทอรี่ จำกัด ประเทศอังกฤษ เจ้าของลิขสิทธิ์ระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby SR-D (Dolby Spectral Recording Digital) พิจารณาเห็นชอบและให้สิทธิ์เป็นผู้ให้บริการห้องบันทึกเสียงระบบนี้อย่างไม่ลังเล
BATMAN FOREVER หรือศึกจอมโจรอมตะ เป็นคำตอบและคำยืนยันในสิทธิ์แห่งระบบเสียงนี้ได้อย่างดี และเพื่อรองรับอนาคตของการเติบโตแห่งโลกภาพยนตร์ วันนี้ของบริษัท กันตนาแอนนิเมชั่น ก็พร้อมรับงานผลิตเส้นเสียง Dolby SR-D โดยไม่มีข้อจำกัดว่าจะเป็นลูกค้าไทยหรือเทศ
"เพราะกันตนาต้องการทำให้ครบวงจร เนื่องจากเรามีงานทางด้านงานโฆษณาที่เรามีส่วนแบ่งตลาดอยู่กว่า 60% แล้วแลบในเมืองไทยที่จะมาช่วยในเรื่องนี้ก็ไม่ค่อยมี หรือมีก็คุณภาพไม่ดี ล้างแล้วมีฝุ่นหรือฟิล์มไม่ค่อยใส ผมจึงคิดทำ แต่เมื่อทำแล้วก็คิดว่าทำให้ใหญ่เลยดีกว่า คือนอกจากงานโฆษณาที่ทำอยู่แล้ว ก็เปิดไปถึงเรื่องล้างฟิล์มหนัง ทำเสียงหนัง ซึ่งหลังเปิดมาได้ปีครึ่ง ทุกอย่างก็เป็นไปในทิศทางที่เราคาดไว้" จาฤก กัลย์จาฤก กรรมการผู้อำนวยการกันตนา กรุ๊ป กล่าวถึงที่มาของงานฟิล์มแลบ
ทั้งนี้ Dolby SR-D หรือสุดยอดของระบบเสียงดอลบี้ ที่ว่านี้ต่างได้รับความนิยมกันมาแล้วในโรงภาพยนตร์ที่มีอยู่กว่า 80,000 โรงทั่วโลก แทบทุกแห่งล้วนบันทึกเสีย Dolby SR-D แทบทั้งสิ้น นอกนั้นเป็นการบันทึกในระบบเสียง DTS (DIGITAL THEATER SYSTEM) ในลิขสิทธิ์ของบริษัทมัตสึชิตะประมาณ 10% และ SDDS (SONY DIGITAL DYNAMIC SOUND) ในลิขสิทธิ์ของบริษัท โซนี่อีกประมาณ 1% เท่านั้น
Dolby SR-D ที่กันตนาทำจะเป็นการเอาเสียงพากย์คนไทยหรือภาษาท้องถิ่นประเทศนั้น ๆ (ในกรณีรับงานในอนาคต) เข้าไปผสมผสานกับต้นฉบับ ทำการแยกเสียงพูดหรือเสียงพากย์เข้าให้กับเสียงเอฟเฟกต์หรือดนตรีประกอบอย่างชัดเจนกลมกลืนเหมือนต้นฉบับ เพื่อคงสภาพอารมณ์ของหนัง ให้เหมือนเดิมทุกประการ
โดยหากเปรียบกับผู้ให้บริการประเภทนี้ในตลาดเอเชีย กันตนาเป็นรองญี่ปุ่นแห่งเดียว สำหรับอเมริกาจาฤกเชื่อว่ากันตนาอยู่ระดับเดียวกับเขาแล้ว เพราะเครื่องมือเหมือนกัน ซึ่งนั่นก็หมายความถึงผู้ซึ่งเป็นลูกค้าอยู่กับญี่ปุ่น, ฮ่องกง, ออสเตรเลีย กระทั่งอเมริกาก็คงจะหันมาใช้บริการ Dolby SR-D จากกันตนาเป็นแน่แท้ เนื่องจากค่าบริการที่ถูกกว่ามากขณะที่คุณภาพเท่ากัน
"เราหวังว่าการลงทุนของเราคงจะช่วยยกระดับหนังไทยให้มีคุณภาพขึ้นได้ เพราะบ้านเราขณะนี้มีโรงหนังที่ฉายระบบ Dolby SR-D อยู่แล้ว 7 โรง เป็นระบบเซอร์ราวน์ธรรมดาประมาณ 30 โรง ยังไม่นับโรงหนังในเครือเมเจอร์ซินีเพล็กซ์ปิ่นเกล้า ที่กำลังเกิดขึ้นและโรงหนังภูธรที่กำลังพัฒนาระบบอีกหลายโรง" จาฤกกล่าว
ก็หวังว่าคนไทยด้วยกันคงให้ความใส่ใจ Dolby SR-D ของกันตนามากขึ้น โดยเฉพาะในระยะ 3 ปีหลังจากนี้จะเป็นการคิดค่าบริการในอัตราพิเศษจริง ๆ เพราะว่าบริษัทแม่ยังไม่ได้เก็บค่าลิขสิทธิ์ เพื่อเป็นการเปิดตลาดในเมืองไทยและละแวกใกล้เคียงก่อน
สำหรับวงการหนังไทยขณะนี้ พบว่ามีกลุ่มผู้สร้างหนังรุ่นใหม่มาใช้ระบบบันทึกเสียง Dolby SR-D ที่กันตนาฟิล์มแลบส์แล้ว อาทิ ค่ายเพลงอาร์เอส. ในภาพยนตร์เรื่อง "โลกทั้งใบให้นาย คนเดียว" และค่ายแกรมมี่
แต่จาฤกก็คาดว่าแนวโน้มของตลาดผู้สร้างหนังไทยในอนาคตคงเปลี่ยนมาให้ความสำคัญ ในเรื่องเสียงกันมากขึ้น เพราะหนังทุกเรื่องเสียงจะนำภาพเสมอ
ล่าสุดจากการคิดค่าบริการที่ถูกกว่าเจ้าอื่น 20-30% ทำให้มีสายกริ๊งกร้างมาจากผู้ผลิตหนังในอเมริกาและบางประเทศเข้ามาที่กันตนาบ้างแล้ว ซึ่งรายได้คงจะเป็นสัดส่วน ที่ต่างกับตลาดในบ้านตัวเองมาก เพราะหากคิดจากหนังเรื่องหนึ่งประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้าให้กันตนาก๊อบปี้เสียงในระบบ Dolby SR-D ประมาณ 100 ก๊อบปี้ กันตนาจะได้ประมาณ 3 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งจุดนี้ลำพังตลาดหนังไทยในบ้านเราคงเข้ามาที่กันตนาไม่ถึง 50 ล้านบาทแน่ ฉะนั้นการเปิดตลาดสู่สากลที่กันตนาใช้หนังเรื่องกาเหว่าที่บางเพลงนำร่องไปก่อนหน้านี้ คงจะเป็นตัวทำให้กันตนาบรรลุเป้าที่ตั้งไว้ประมาณ 120 ล้าน บาทได้อย่างไม่ยากเย็น เพราะแต่ละเรื่องของผู้ผลิตหนังต่างประเทศล้วนก๊อบปี้เป็นร้อย ๆ ก๊อบปี้หรือมากกว่านี้แทบทั้งสิ้น
พูดได้ว่า Dolby SR-D คือธุรกิจที่ตอกย้ำความมั่นใจในการเข้าตลาดแก่นักลงทุนได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากรองรับหนังที่กันตนาจะไปบุกเบิกในเวียดนาม, ลาว, กัมพูชา, พม่า และที่กำลังจะสร้างขึ้นอีก 3-4 เรื่องในเร็ว ๆ นี้แล้ว ลูกค้าที่เคยใช้กับญี่ปุ่น, ฮ่องกง, ออสเตรเลียและอเมริกาก็คงเข้ามาเป็นเม็ดเงินแก่กันตนาในเร็ววัน
"จากนี้ไปเราจะปรับโครงสร้างรูปแบบการทำงาน ระบบขั้นตอนต่าง ๆ โดยแบ่งสายงานรองรับเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับตลาดในอนาคต คือ 1. รองรับงานด้านการผลิตรายการทีวี 2. รองรับงานโฆษณาทุกประเภท และ 3. รองรับงานภาพยนตร์ทุกกระบวนการ โดยล่าสุดได้ตั้งแผนกต่างประเทศขึ้นมาอีกฝ่ายหนึ่ง เพื่อรองรับงานด้านต่างประเทศทั้งหมด" จาฤกกล่าวในที่สุด
ฉะนั้นต่อนี้ไป ไม่ว่ากลุ่มผู้ประกอบการโรงหนัง 3 สาย 10 บริษัท 700 โรงในภูธรจะรวมตัวกันเพื่อรักษาตลาดตัวเองอย่างไร หรือไม่ว่ากลุ่มโรงหนังอีจีวีของตระกูลพูลวรลักาณ์กับกลุ่มซีอาร์จะออกมาเป็นเช่นไร สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องทำแน่ ๆ นั่นคือพัฒนาและขยายตลาดหนังโดยเฉพาะในเรื่อง คุณภาพของภาพและเสียง และ Dolby SR-D น่าจะเป็นจุดลงตัวที่สุดเพราะตลาดหนังต่างจังหวัดร้อย ทั้งร้อยจะให้เสียงภาษาไทยทั้งสิ้น
|