|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ กรกฎาคม 2555
|
|
ฟ้ากว้าง ทางสวย ที่เต็มไปด้วยเนินถนนสูงต่ำ ระหว่างเส้นทางตรัง-กระบี่ เหมาะสมกับการทดสอบรถสปอร์ตซีดาน the all-new BMW 320d สีแดงเพลิงคันใหม่หรูปราดเปรียวและโฉบเฉี่ยว เพียงเสียงสตาร์ทก็บ่งบอกเครื่องพลังทวินพาวเวอร์เทอร์โบ 4 สูบ วิ่งไปราวชั่วโมงถึงที่หมาย รถคันนี้กินน้ำมันดีเซลเพียง 22.7 กม.ต่อลิตรเท่านั้น ระดับการปล่อยของเสียคาร์บอนไดออกไซด์ได้มาตรฐาน EU คือเฉลี่ยเพียง 117 กรัม/กิโลเมตร
ความมั่นใจจากเครื่องยนต์ที่โดดเด่น เทคโนโลยี Twin Power Turbo 4 สูบ เร่งความเร็วได้สูงสุดถึง 230 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราเร่งทันใจพุ่งจาก 0-100 กม/ชม.ใน 7.6 วินาที และสามารถเปลี่ยนระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดได้ฉับไว ถือเป็นค่ายรถยนต์แรกที่ติดตั้งไว้ในรถพรีเมียมระดับกลาง เมื่อนึกอยากจะเปลี่ยนโหมดขับแบบสปอร์ตก็แค่ตบเปลี่ยนเกียร์ในระยะสั้นๆ ทำให้การขับรถคันนี้เร้าใจและนิ่มนวลตามใจต้องการ
รูปลักษณ์ภายนอกของ the all-new BMW 320d ตัวถังกว้างกว่าเดิมประมาณ +93 มิลลิเมตร เพราะฐานล้อเพิ่มอีก +50 มิลลิเมตร ทำให้คนนั่งตอนหลังมีพื้นที่เพิ่มกว่ารุ่นเก่าอีก 15 มิลลิเมตร และ 8 มิลลิเมตรที่เพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะ ดีไซน์ที่คำนึงถึงพื้นที่ใช้สอยก็มีมากขึ้น เช่น ด้านข้างประตูใส่ขวดน้ำหนึ่งลิตรได้ และพื้นที่ตรงคอนโซลกลางก็สามารถปรับเปลี่ยนจากที่วางแก้วน้ำเป็นที่วางของจิปาถะได้อีกด้วยถาดถอดเก็บได้
ส่วนการตกแต่งภายในรถสปอร์ตซีดาน BMW เน้นความหรูหราแบบสปอร์ตที่มาพร้อมกับรสนิยมสามไลน์การผลิต ทั้งแบบ Sport แบบ Modern และแบบ Luxury Line ต่างแบบก็ต่างอุปกรณ์ตกแต่งภายในและภายนอกตามบุคลิกที่เจ้าของรถอยากจะเป็น และคนนั่งก็สบายๆ กับระบบอุปกรณ์บันเทิงและออนไลน์ได้ตลอดทาง
เช่น แบบ Sport Line เน้นออกแบบภายในด้วยโทน Black Highgloss ตัดเส้นด้วยสีแดงบนหนังสีดำ Modern Line จะตกแต่งออกโทนอบอุ่นภายในห้องโดยสารสีน้ำตาลออยสเตอร์อ่อนๆ ส่วน Luxury Line จะแต่งภายในห้องโดยสารด้วยลายไม้ที่หรูหราคลาสสิก และคิ้วขอบเป็นโครเมียมสีเงินวาว
นอกจากนี้ภายในรถ the all-new BMW 320d ยังมี BMW Apps ที่ทำให้โลกไอทีเคลื่อนที่รอบตัวเรา โดยทำงานผ่าน GPRS/3G ของโทรศัพท์ไอโฟนและแท็บเล็ต iPad ได้ทุกที่ ทำให้สามารถโหลดเล่นอัพเดต Facebook, Twitter ฯลฯ รับอีเมลหรือรับโทรศัพท์ เข้าแล้วแสดงผลหน้าจอแจ้งเบอร์และรูปได้ รวมทั้งฟังเพลงฟังข่าวผ่านวิทยุออนไลน์
เมื่อได้ลองทั้งสามไลน์แล้วพบว่าใจชอบแบบ Sport มากที่สุด เหตุผลง่ายๆ คือถูกใจ ทั้งภายนอกภายใน แค่เห็นเจ้า Kidney ไตคู่สีดำเรียงซี่ 8 ซี่ และภายในรถที่มีเส้นตัดสีแดงบนเบาะหนังแท้สีดำหรือสีแดงส้ม ใช้วัสดุตกแต่งด้วยโทนสีดำ Black High-gloss ล้อแม็กก็ลายพิเศษ ช่างแตกต่างไม่เหมือน modern และ luxury แม้แต่น้อย เวลาเข้า ไปนั่งขับหรือโดยสารก็ได้อารมณ์สปอร์ตรถแข่งที่มาดมั่นลงตัว คล่องแคล่วทุกการขับขี่ กระชับพวงมาลัยที่มีน้ำหนักตอบสนองต่ออัตราเร่ง ขณะที่จอดิจิตอลที่คอนโซลหน้าคนขับ ก็บอกมาตรวัดของกำลังเครื่องและแรงบิดด้วย
โอกาสดีที่ได้ประสบการณ์การทดสอบระบบการควบคุมการขับขี่ the all-new BMW 320d คันนี้ในทุกโหมด ที่ตัวรถมีให้เลือกทั้งอัตราเร่งและกำลังของเครื่องยนต์ ที่เชื่อมโยงกับน้ำหนักพวงมาลัยกับการควบคุมเสถียรภาพแบบไดนามิก เพียงปลายนิ้วสัมผัสจุดปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ครบทั้ง ECO PRO, COMFORT หรือที่ชอบคือ SPORT ยิ่งกว่านั้นในรถรุ่น BMW 320d Sport จะมีโหมด SPORT+ สปอร์ตพลัสเพิ่มเติมด้วย
ECO PRO เป็นอีกโหมดหนึ่งที่ขับสบายคลายกังวลเรื่องกินน้ำมัน โดยควบคุมการส่งกำลังของเครื่องยนต์ได้เหมาะสมกับอัตราเร่ง รวมทั้งระบบเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละช่วงที่ปรับเกียร์สูงได้เร็วขึ้นและลดเกียร์ต่ำให้ช้าลง ระบบ ECO PRO จะให้ข้อมูลเตือนให้คนขับคุมความเร็วที่ใช้สูงเกินระดับประหยัดน้ำมันสูงสุด ทำให้ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ 20%
แต่ที่ถูกใจใช่เลย...เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกเล็กๆ ที่นำความพอใจมากให้กับเจ้าของรถคือ การเปิดท้ายรถโดยไม่ต้องใช้มือ เพียงแค่ยื่นปลายเท้าแหย่เข้าไปใต้ท้ายรถ เพียงเล็กน้อย ฝากระโปรงท้ายก็เปิดออกง่ายดาย เพราะเซนเซอร์จะทำงานร่วมกับกุญแจในกระเป๋าเจ้าของรถนั่นเอง
BMW 320d ใหม่คันนี้จัดเป็นเจเนอเรชั่นที่ 6 ของตระกูล BMW ซีรีส์ 3 ถือเป็นรถยอดนิยมที่ประสบความสำเร็จและขายดีของ BMW Group เจ้าของรถแบรนด์ชั้นนำ BMW, MINI และ Rolls-Royce โดยในปีที่แล้วขายรถยนต์ทั้งหมดได้ถึง 1.67 ล้านคัน และรถมอเตอร์ไซค์ BMW กว่า 113,000 คันทั่วโลก
|
|
|
|
|