Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา มิถุนายน 2555
การเข้าถึงตลาดพม่าของสินค้าเวียดนาม             
โดย เจษฎี ศิริพิพัฒน์
 


   
search resources

Commercial and business
International
Vietnam
Myanmar




นอกจากความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ เวียดนามกำลังวิเคราะห์อย่างจริงจังถึงการส่งสินค้าเพื่อเข้าไปตีตลาดอันกว้างใหญ่ในพม่า

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์อุตสาหกรรมการค้า (เวียดนาม) รายงานว่าตั้งแต่ต้นปี 2555 จนถึงทุกวันนี้ ข่าวการปฏิรูปในพม่า ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนจากทุกประเทศทั่วโลกมากที่สุด บวกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรของออสเตรเลีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา จึงเหมือนการเพิ่มพลังดึงดูดให้แก่ตลาดนี้ นักลงทุนหลายรายกำลังรอคอยคว้าโอกาส “กระโดด” เข้าพม่า นักธุรกิจเวียดนามไม่ยอมหลุดจากแนวโน้มนี้

สินค้าเวียดนามได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น

ตามสถิติของสถานเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำพม่า 2-3 ปีมานี้ แต่ละปีมีคณะธุรกิจเวียดนามไปพม่ากว่า 200 คณะ ซึ่งเป็นบรรดาคณะทางการอาศัยการสนับสนุนช่วยเหลือของสถานเอกอัครราชทูตได้แนะนำคู่ค้า แต่ยังไม่รวมถึงคณะปลีกย่อยที่เดินทางไปด้วยตนเอง ดังนั้นเฉลี่ย 2-3 วัน จึงมีหนึ่งคณะที่เดินทางไปเพื่อพบปะติดต่อการค้า

ฝ่าม ถิ โห่ง ทาญ รองอธิบดีกรมเอเชีย-แปซิฟิก กระทรวงอุตสาหกรรมการค้าเวียดนามเปิดเผยว่าตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ระเบิดที่งานนิทรรศการนานาชาติแห่งหนึ่งเมื่อปี 2548 ประเทศนี้ก็ไม่อนุญาตให้องค์กรต่างประเทศจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในพม่า

ตั้งแต่ปี 2553-2555 ทุกปี เวียดนามจะได้รับอนุญาตให้เปิดงานแนะนำสินค้าในพม่า ยิ่งกว่านั้น สินค้าเวียดนามได้รับการต้อนรับจากคนพม่าอย่างอบอุ่น

“งานแสดงสินค้ามีขึ้นในรอบ 7 วัน แต่ถึงวันที่ 4 ที่ 5 ธุรกิจเวียดนามต้องจำกัดการขายเพราะกลัวไม่มีสินค้าให้ดู แม้กระนั้นผู้บริโภคชาวพม่ายังรอคอยสินค้าเวียดนาม” ทาญบอก

อย่างไรก็ดี ตลาดยังไม่เปิดทั่วไปและยังใหม่ ดังนั้นระดับการเข้าของสินค้าเวียดนามจึงยังไม่ลึก ดัชนีการแลกเปลี่ยนการค้าสองฝ่ายยังอยู่ที่ระดับไม่มากนัก

ปี 2554 ดัชนีการแลกเปลี่ยนการค้าของ 2 ประเทศเพิ่งจะมีเพียง 167.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น เป็นดัชนีการส่งออกของเวียดนามมูลค่า 82.50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้ามูลค่า 84.80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ดี เมื่อก้าวสู่ไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 ดัชนีการส่งออก-นำเข้าระหว่าง เวียดนาม-พม่าเติบโตขึ้นมาก เพิ่มขึ้น 70% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ดูจากข้อมูลการส่งออก-นำเข้าแสดง ให้เห็นว่าหลายปีที่ผ่านมาเวียดนามขาดดุลการค้าจากพม่าเสมอ แต่นี่เป็นการขาดดุลทางบวก เนื่องจากบรรดาผลิตภัณฑ์นำเข้าจากพม่าของเวียดนามส่วนใหญ่เป็นแร่ธาตุ วัตถุดิบ และบรรดาวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปสำหรับการบริโภคภายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศที่สาม

พื้นที่เหลือเฟือสำหรับสินค้าเวียดนาม

ปัจจุบันความสามารถผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในพม่าเพิ่งจะตอบสนองได้ประมาณ 10% ของความต้องการภายในประเทศ ส่วนที่เหลือต้องนำเข้า ถึงแม้เวียดนามได้มีการส่งออกสินค้าจำนวนหนึ่งไปยังพม่า ปริมาณและคุณภาพยังต่ำครองตลาดเพียงประมาณ 1% ของสินค้าที่พม่านำเข้าจากประเทศอื่นๆ (ข้อมูลปี 2553)

นอกจากนั้นผลิตภัณฑ์จำนวนหนึ่งมีความต้องการมากที่สุด แต่ธุรกิจเวียดนามยังไม่ได้เข้าไป เช่น ยารักษาโรคและอุปกรณ์สาธารณสุข ยางรถยนต์ชนิดต่างๆ มิเตอร์ไฟฟ้า อะไหล่ประเภทต่างๆ วัสดุก่อสร้าง ยาฆ่าแมลง เครื่องสำอาง ปุ๋ยชนิดต่างๆ เครื่องมือเกษตร-ป่าไม้ เป็นต้น

พม่าก็เป็นประเทศมีวัตถุดิบหลายอย่างด้วยปริมาณมากที่เวียดนามจะนำเข้า ประกอบด้วยวัตถุดิบแปรรูปสินค้า เกษตร ส่งออก หรือแปรรูปอาหารสัตว์ (ข้าวโพด ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ปลาป่น กระดูกป่น น้ำมันพืช เป็นต้น) วัตถุดิบสำหรับแปรรูปสินค้าใช้ในครัวเรือน และอุตสาหกรรม (ประกอบด้วยทรัพยากรแร่ธาตุชนิดต่างๆ) วัตถุดิบแปรรูปสินค้าส่งออก (ข้าว ยางพารา สัตว์น้ำ) เวียดนามอาจจะวิจัยและส่งเสริมการนำเข้าสินค้าเหล่านี้ที่มีอยู่ในพม่า เพราะราคาถูกกว่าจากประเทศอื่นๆ

อย่างไรก็ดี ตามข่าวจากกรมเอเชีย-แปซิฟิก ปัญหาการนำเข้าไม้ต้องมีมาตรการเข้าถึงแหล่งที่เหมาะสม ปัจจุบันตลาดนี้เกือบทั้งหมดต่างควบคุมโดย “ผู้รับเหมา” อินเดียราคาจึงค่อนข้างสูง

เข้าตลาดยาก

ข้อเท็จจริงประการหนึ่งคือบรรดาสินค้าเกือบทุกอย่างในพม่าต้องผ่านการขอ ใบอนุญาตส่งออก-นำเข้า และธุรกิจภายในประเทศถูกผูกขาดทางการค้า บรรดาธุรกิจเวียดนามไม่ได้เข้าร่วมระบบจัดสรร แลกเปลี่ยนสินค้าในพม่า ดังนั้นการดำเนินการค้าจึงเสียเวลามาก ขาดลักษณะเชิงรุกและสิ้นเปลือง

ยิ่งกว่านั้นระบบการเมืองและการจัดการเศรษฐกิจของพม่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ต้องเผชิญกับการปิดล้อมและมาตรการคว่ำบาตรจากภายนอก การรักษาความมั่นคงการเมืองภายใน การคงอยู่ค่อนข้างมากของฝ่ายอนุรักษนิยม ระบบเจ้านาย นโยบายปิดประตูยังไม่ปรับตัวให้เหมาะสมกับความต้องการพัฒนาและการบูรณาการ กฎหมายลงทุน การค้า จึงยังล้าหลังและไม่ยืดหยุ่น

การขนส่งสินค้าเพื่อส่งออกจากเวียดนามไปพม่ายังไม่ความสะดวก โครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมของประเทศนี้ยังไม่พัฒนา วิธีการขนส่งที่สำคัญคือการใช้เรือบรรทุก ดังนั้นจึงเสียเวลาขนส่งก่อผลกระทบต่อพลังการแข่งขันของสินค้าเวียดนาม

การชำระบัญชีก็ประสบความยุ่งยาก เนื่องจากระบบธนาคารและการชำระบัญชีของพม่าอ่อนด้อยอย่างยิ่ง เหตุการณ์ล่าสุด BIDV เวียดนามพยายามเพื่อให้สามารถเปิดธนาคารในพม่า เพื่อช่วยเหลือการชำระบัญชี ให้แก่ธุรกิจต่างๆ ไม่เพียงแค่นั้นข่าวเกี่ยวกับตลาดพม่าก็มีไม่มาก ระบบสื่อสารระหว่างประเทศในพม่ายังคงล้าหลัง การเข้าถึงโทรศัพท์ระหว่างประเทศและอินเทอร์เน็ตยังไม่สะดวก

ด้านคู่ค้าพม่าจากข้อมูลของตัวแทนของสมาคมนักลงทุนเวียดนามประจำพม่า ระบุว่านักธุรกิจเวียดนามต้องวิจัยหาความเข้าใจคู่ค้าอย่างละเอียด ถึงแม้เศรษฐกิจยังล้าหลัง แต่นักธุรกิจพม่ากลับสืบทอดวิธีการทำงานของคนอังกฤษตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นอาณานิคม คนพม่าทำงานเป็นระเบียบอย่างยิ่ง ไม่มักง่าย

พวกเขาพิจารณาแผนการลงทุนประกอบธุรกิจละเอียดที่สุด เพราะฉะนั้นนักธุรกิจเวียดนามต้องเตรียมการอย่างรอบคอบ ระมัดระวังในการวางแผนประกอบการลงทุนของตนก่อนเข้าร่วมตลาดแห่งนี้

ถึงแม้ยังมีสิ่งกีดขวางหลายอย่างแต่สำหรับตลาดที่เริ่มเปิดและเต็มไปด้วยศักยภาพอย่างพม่า ถ้านักธุรกิจเวียดนาม “เร่งเท้า” ขึ้นอีกและกล้ามากขึ้นอีก เมื่อประเทศนี้เปิดกว้าง ประตูบูรณาการ สถานภาพของธุรกิจ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ของเวียดนามก็จะมั่นคงอย่างแน่นอน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us