นิตย์ วรวัลย์ เป็นชายผิวคล้ำรูปร่างสูงใหญ่ เป็นคนพื้นเมืองที่นี่ คนเมืองเรียกนิตย์ว่า
ป๋าหลิน
ป๋าหลิน เป็นคนที่มีชื่อเสียงมากในเรื่องความเป็นเส้นตรง ที่คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น
คนที่เกลียดความเป็นคนขวานผ่าซากของนิตย์ก็มีมาก แต่คนที่นิยมการที่ชอบพูดความจริงของนิตย์ก็มีไม่น้อยเช่นกัน
นิตย์ เป็นนักธุรกิจสินค้าพื้นเมืองของเชียงใหม่ แต่อีกด้านหนึ่งของ ป๋าหลิน
คนนี้เขาเป็นหมอดูโหงวเฮ้งที่เคยทำนายลาภยศและความหายนะมาแล้วอย่างถูกต้องให้กับคนหลายคนทั้งที่โด่งดังและก็ดับไป
ผมเรียนวิชานี้มาจากอาจารย์คนจีน ซินแสเขาสอนแล้วเขาสั่งให้ผมดูให้คนฟรีให้ช่วยคน
ผมไม่เคยเก็บเงินใคริ นิตย์เล่าให้ ผู้จัดการิ ฟัง พร้อมทั้งส่งน้ำชาจีนรสหอม
ขม หวาน ที่ไอกรุ่นให้ดื่ม
นิตย์เป็นคนเชื่อในเรื่องลักษณะของคนและเขาเคยศึกษาเรื่องภูมิประเทศในการทำการค้าขาย
หรือที่คนจีนเรียกว่า ฮวงจุ้ย
ว่ากันว่าความแม่นยำของนิตย์นั้น พอจะทำให้คนร่ำรวยอย่างมหาศาล และก็ยากจนลงยิ่งกว่ายกจกมาแล้ว
ชื่อเสียงที่ระบือลือลั่นไป พอจะทำให้บ้านตึกผสมไม้ที่มีวอลโว่จอดอยู่ ต้องมีอาคันตุกะที่บินจากกรุงเทพฯ
ขึ้นมาเชียงใหม่แล้วแวะมาที่ หมู่บ้านสันติธรรมเพียงเพื่อให้ ป๋าหลินิ ดูลักษณะว่า
็ปีนี้กับปีหน้าจะเป็นอย่างไร?
นิตย์เป็นคนที่มีปรัชญาแบบสามัญ ซึ่งเต็มไปด้วยตรรกวิทยา เช่น ผมนิยมชมชอบคนที่ส่งของไทยไปขายเมืองนอก
พวกนี้เก่ง หรืออย่างผู้หญิงไทยที่ไปขายตัวเมืองนอกนั่น พวกเราไปด่าเขาว่าเสียศักดิ์ศรี
แต่ผมจะยกมือไหว้เขาละ ทำไมหรือ ก็เขาเอาเงินเข้ามาประเทศเราน่ะซี พวกคุณหญิงคุณนายที่ไปด่าเขานั่นมีแต่รู้จักใช้เงินซื้อของแต่งตัวจากต่างประเทศเข้า
นิตย์ วรวัลย์ จะมีคนแวะเวียนมาหาโดยไม่หยุด เพื่อให้ดูว่าหน้าที่การงาน
การค้าขายดีหรือเปล่า?
คนเรามันอยู่ที่ลักษณะนิสัยใจคอ น้ำเสียง ความมีคุณธรรม นอกจากนั้นแล้ว
ภูมิประเทศก็ยังเกี่ยวด้วย นิตย์เล่าให้ฟัง
ภูมิประเทศเป็นเรื่องที่นิตย์สนใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำนานเก่าๆ ที่นิตย์สะสมมาจากการคุยกับคนเฒ่าคนแก่ในอดีต
มาตั้งแต่สมัยเขายังหนุ่มอยู่ คุณรู้ไหม จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ เมืองเชียงใหม่นี้มีหลายประตูเมือง
แล้วแต่ละประตูเมืองมันก็มีตำนานของมันซึ่งพอไปดูจริงๆ แล้วเหตุการณ์มันก็เหมือนตำนานมากิ
นิตย์พูดขึ้นมา
นิตย์เล่าให้ฟังว่า ประตูท่าแพนั้นคนโบราณเขาว่าเป็นประตู มูลิ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออก
ประตูนั้นมีแต่พวกขี้ฉ้อ ขี้ขโมย ขี้ยา และก็เป็นย่านที่มีคดีความมากที่สุด
ส่วนประตูเชียงใหม่กับประตูช้างเผือกนั้น เขาเรียกว่าเป็นประตู เดชิ
ประตูสวนดอก และสวนปรุง เป็นประตู ศรี
แล้วยังมีประตูหายยาก ซึ่งใครค้าขายแถวนั้น ก็หาคนเจริญได้ยาก
นอกจากนั้นแล้วคนจีนเก่าแก่ยังเล่าให้นิตย์ฟังว่า ดอยสุเทพนั้น เป็นรูปคล้ายมังกร
ซึ่งถ้าพ่นพิษออกมาแล้ว คนที่พักแถวนั้น ถ้าไม่ใช่เจ้าฟ้า เจ้าแผ่นดิน หรือมียศถาบรรดาศักดิ์
ก็จะอยู่แบบไม่มีสุข
นิตย์พูดว่า ถ้าพูดถึงลักษณะภูมิประเทศที่จะทำให้เจริญ เมื่อมาอยู่ก็ต้องย่านช้างคลาน
กับย่านช้างเผือก ซึ่งตามตำนานแล้ว ทางเดินของเงินมันเริ่มสะพัดหนีจากย่านท่าแพมาช้างคลานแล้ว
เท็จจริงอย่างไรก็ต้องดูกันเอาเอง!