รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามถูกเลือกให้เป็นเลขาธิการ ASEAN คนที่ 13 ซึ่งจะเข้ามาแทนบทบาทของ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีหน้า

เลขาธิการสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เพิ่งประกาศอย่างเป็นทางการว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม เล เลือง มิญ จะสืบทอดตำแหน่งของเขาในปลายปีนี้

ดร.สุรินทร์ได้ประกาศข่าวนี้ต่อที่ประชุมครบองค์ของเจ้าหน้าที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการประชุมระดับสูง ASEAN ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันจันทร์ 2 เมษายนที่ผ่านมา

เล เลือง มิญ เป็นคนเวียดนามคนแรกจะครองบทบาทเลขาธิการสมาคม ASEAN ที่มีสมาชิก 10 ประเทศ

ตามธรรมเนียม บุคคลในตำแหน่งนี้จะได้รับเลือกจากบรรดาชาติสมาชิกหมุนเวียนตามลำดับอักษร

ชาติของเลขาธิการคนปัจจุบันคือไทย ดังนั้นคนต่อไปจะต้องเป็นเวียดนาม มิญจะรับผิดชอบตำแหน่งในวาระหน้าที่ 5 ปีข้างหน้า การแต่งตั้งเขาจะต้องได้รับอนุมัติในการประชุมสุดยอด ASEAN ในปลายปีนี้ เพื่อเริ่มทำงานในเดือนมกราคม 2556

ถึงเวลานี้ ASEAN ได้มีเลขาธิการรวมทั้งสิ้น 12 คน โดยคนปัจจุบันคือ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เคยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย

การที่เลขาธิการคนที่ 13 ของ ASEAN เป็นคนเวียดนาม ได้มีการประเมินว่าจะเอื้ออำนวยให้แก่ทางเดินทางการทูตของฮานอย แม้ว่าตำแหน่งนี้หนักไปทางพิธีการ และการบริหารองค์กรก็ตาม

เจ้าหน้าที่การทูตผู้มีประสบการณ์

เล เลือง มิญ เกิดเมื่อ พ.ศ.2495 ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551

ก่อนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการเขาเคยเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญมีอำนาจเต็ม และหัวหน้าคณะผู้แทนถาวรของเวียดนาม ประจำสหประชาชาติ

มองกันว่า เขาเป็นคนมีประสบการณ์มากในปัญหาการทูตทั่วไป และหลากหลาย

มิญเคยทำงานแปลเอกสารขณะเพิ่งเริ่มทำงาน

รัฐมนตรีช่วย เล เลือง มิญ ชำนาญภาษาต่างประเทศสองภาษา คือ อังกฤษและฝรั่งเศส

เขาเคยผ่านตำแหน่งต่างๆ คือ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, อธิบดีกรมความร่วมมือเศรษฐกิจ พหุภาคี กระทรวงการต่างประเทศ, อาจารย์มหาวิทยาลัยการทูต, เลขานุการ คนที่ 2 แล้วเป็นเลขานุการคนที่ 1 ของสำนักงานคณะผู้แทนถาวรเวียดนามประจำสหประชาชาติ

วงการนักวิจารณ์ในภูมิภาคกล่าวว่า เวียดนามได้ใช้เก้าอี้ประธานหมุนเวียนของสมาคม ASEAN ปี 2553 ค่อนข้างประสบผลสำเร็จ เพื่อเดินหน้าปัญหา “ร้อน” ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเวียดนาม เช่น การแก้ไขปัญหาพิพาทอธิปไตยในทะเลตะวันออก

ในช่วงเวลาที่เป็นประธานหมุนเวียนของ ASEAN เวียดนามก็ได้นำเสนอความริเริ่มบางอย่าง เช่น การเสริมสร้างความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศระหว่าง ASEAN กับประเทศคู่เจรจา