ใครจะนึกว่าการลดค่าเงินบาทเมื่อปี 2524 นั้นจะมีเรื่องราวยืดเยื้อมาจนกระทั่งถึงสิ้นปี
2527 นี้
เรื่องที่ยืดเยื้อคือเรื่องของ ดร.ไพจิตร เอื้อทวีกุล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นโจทก์ฟ้อง
ประสาน มีเฟื่องศาสตร์ อดีตเจ้าของหนังสือพิมพ์ดาวสยาม นักคอลัมนิสต์ชื่อดัง
ซึ่งใช้นามปากกาว่า "กระแช่" และ "สีเสียด"
ข้อหาที่ฟ้องคือ คดีหมิ่นประมาทที่ "กระแช่" และ "สีเสียด"หรือ
"ประสาน มีเฟื่องศาสตร์" ได้วิพากษ์วิจารณ์การลดค่าเงินบาทครั้งนี้โดยวิพากษ์วิจารณ์
ดร.ไพจิตร เอื้อทวีกุล อย่างเสียหายชนิดสาดเสียสาดเท บางตัวอย่างในการวิพากษ์วิจารณ์
"..ยิ่งได้ฟังแก ดร.ไพจิตร เอื้อทวีกุล แถลงเรื่องลดค่าเงินบาทที่บาดคอคนทั้งเมือง
เคืองก็เคือง แต่แล้วผมก็สมเพช!!! ขึ้นต้น ดร.ไพจิตรบอกเรื่องค่าของเงินบาท
มันไม่อยู่บนฐานแห่งความเป็นจริงหรือความถูกต้อง มาตั้ง 8 ปีเข้านี่ไม่มีใครแก้สักที
แกต้องเข้ามาแก้ ผมว่าแก้ผ้าน่ะซี"
พูดให้นายกรัฐมนตรีที่ชื่อพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ฟังได้ แต่กับคนที่รู้เรื่อง
เขาว่าพูดม้าๆ !!! เฮ้! ตำราที่เรียนมานั้นเขาแต่งขึ้นตามเหตุการณ์แต่อดีตนะ
เพียกโบกมันหมุนทุกวัน และก็เปลี่ยนไปทุกวัน ที่ว่าเงินบาทลอยอยู่บนฟองสบู่อะไรทำนองนั้น
เป็นมาตั้ง 8 ปี กำลังเข้าโคม่าในปีนี้ ฮ่วย! เก่งจริง ออกมาบริหารงานด้านการเงินแข่งขันกับเอกชนให้เห็นฝีมือกันหน่อยปะไร?
คำพูดประโยคสำคัญที่ ดร.ไพจิตร เอื้อทวีกุล แถลงในวันนั้น คนฟังคิดว่าเป็นทารก
หรือเด็กอนุบาลพูด "คนที่เดือดร้อน จากการลดค่าเงินบาท 2 บาทต่อ 1 ดอลลาร์
นั้นจะมีก็เฉพาะคนที่พอรับเงินเดือนแล้วขี่เรือบินไปใช้ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น"
โธ่เอ๋ย! คนระดับดอกเตอร์ คนชั้นรัฐมนตรีไฉนถึงได้มีความคิดที่ตื้นเขินอย่างนี้หา
ผมว่าเอาคนขายเต้าฮวยมาเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง ยังจะดีกว่าละมั้ง ก็ไม่รู้เรื่องอะไรเสียเลยอย่างนี้พวกเราก็เลยต้องซวยสิ้นดี!!!
"คุณถามเพราะเหตุอันใด รัฐบาลจึงลดค่าเงินบาทลงไป? คุณก็ไม่รู้ผมก็ไม่รู้และนายกรัฐมนตรี
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ก็ไม่รู้ แม้แต่ตัวรัฐมนตรีว่าการคลังคือลุงสมหมาย
ฮุนตระกูล ก็ดูแกงงๆ อยู่ ไม่ค่อยจะรู้เรื่องเหมือนกัน ฮ่วย! มันเฮงซวยอย่างนี้
รู้แม่งคนเดียว คือคุณด๊อกเตอะไพจิตร เอื้อทวีกุล ซึ่งอ้างเหตุผลว่าค่าเงินบาทของเรามันไม่ได้ยืนอยู่บนจุดของราคาที่เป็นจริง
มานานตั้ง 8 ปีเข้านี่แล้ว จึงต้องปรับ อุ๊วะ! เราก็อยู่ได้มาตั้ง 8 ปี ไม่เห็นมีอะไร
และก่อนหน้านั้นเหมือนกับว่ากระทรวงนี้มีรัฐมนตรีคลังมาแต่ละคนใช้ไม่ได้
ไม่รู้เรื่อง ไม่เอาไหน ปล่อยไว้อย่างไรกัน อดีตรัฐมนตรีคลังตลอด 8 ปีที่ผ่านมา
แย่ทั้งนั้น อย่างนั้นเรอะ?? เกินไปละสหาย!!!
เราเพิ่งจะได้เทวดา มาเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงคลังเมื่อ 2 วันนี้ชื่อ ไพจิตร
เอื้อทวีกุล? โอ๊ย! บุญหนักหนา บุญของบ้านของเมือง ถ้าไม่ได้คนคนนี้มาแก้ไขเมืองไทยต้องฉิบหายแน่??
ฮื่อ! เทวดาหมาเมินซีพูดแล้วมีน้ำโห"
"คนอะไร รู้หรือเปล่า เราเริ่มเดือดร้อนกันในทันที แม่งไม่รู้จริง
แต่สู่รู้ เก่งมาแต่ไหนกันนะ อ้างโน่นอ้างนี่ ดีที่ไม่กางตำราบ้าๆ มาอ่านกลางสภาฯ
ผมขอประกาศไว้ตรงนี้ว่า ไม่ช้านับแต่วันนี้ พี่น้องเตรียมลับมีดลับปังตอไว้ให้คมๆ
เหอะ คิดว่าจะต้องจับคนที่ทำให้เศรษฐกิจของชาติต้องฉิบหาย คนที่ทำระยำต่อวงการธุรกิจ
ต้องหยุดชะงัก คนที่ทำให้พี่น้องชาวไทยต้องรายได้ลดลงไปก็ไม่พอกินกันอยู่แล้ว
ยังต้องถูกซ้ำเติมรุนแรงขึ้น จะโดยตั้งใจ มีเจตนาหรือไม่ ไม่ช้าก็รู้ รู้เมื่อไรก็เมื่อนั้น
อย่าได้อยู่ร่วมชาติกันเลย
แต่ "คุณบึง ศาจเจ้า" ก็อย่าเพิ่งคิดเอาพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง
ที่ปรากฏอยู่ในธนบัตรมาวิจารณ์ พระองค์ท่านมิได้ทรงปรารถนาเช่นนั้น แต่ผมก็ไม่รู้คนชื่อ
ดร.ไพจิตรจะคิดอะไรอยู่ในใจของแก ถ้ารู้ล่ะก็ คอแกคงต้องไม่มีหัวตั้งอยู่แน่ๆ
..."
"โทษก็ร้ายแรง เพราะคนทั้งประเทศเดือดร้อน ยิ่งถ้าหาก ดร.ไพจิตรคิดอะไรแอบแฝงอยู่ในจิตใจมุ่งหมายการอันใดจากผลสะท้อนของมันให้ชนกับอุดมการณ์แอบแฝงของตนแล้ว
เป็นเรื่องของพี่น้องชาวไทยที่จะเอ็นดูเขาอย่างไร"
"จะบ้าไหมล่ะคุณ เขาด๊อกเตอะไพจิตร เอื้อทวีกุล รมช.คลัง คนต้นคิดลดค่าเงินบาทขึ้นราคาดอลลาร์
พูดม้าๆ ว่า คนเดือดร้อนก็พวกที่ได้เงินเดือนแล้วบินไปใช้เงินบาทเมืองนอก
ตอนหลังยังพูดอีก เราก็อย่าไปซื้อหาสินค้าเอากับประเทศที่เงินตราเขาขึ้นซีพิลึกดีไหมล่ะ??
ก็แม่งขึ้นกันทุกสกุล เงินตราต่างประเทศ พรึ่บพรั่บทันควันกันเลย พวกเราช่วยกันจำชื่อนี้ไว้จนวันตาย
ด๊อกเตอะไพจิตร เอื้อทวีกุล (นามสุกลนี้ผมชักมีความสงสัย ดูมันยาวๆ อย่างไรไม่รู้ซิ)
"ยกตัวอย่างยาวเป็นหางว่าว เป็นอุทาหรณ์นิดเดียว เพราะเกี่ยวกับการดำเนินงานเศรษฐกิจของชาติ
มันเรื่องใหญ่ ก็อยากจะยกตัวอย่าง ชิน โสภณพนิช ก็ดี อุเทน เตชะไพบูลย์ ก็ดี
ได้ดีกรีเศรษฐศาสตร์มาจากไหน หรือบุญชู โรจนเสถียรก็เรียนแค่ปริญญาวิชาบัญชีมาจากมหา'ลัยธรรมศาสตร์เท่านั้นเอง
แต่ท่านที่เอ่ยชื่อมานี้ ใครคิดว่า สู้คนชั้น ดร.ไม่ได้ หรือกับคนระดับ ดร.บางคนอย่าง
ดร.ไพจิตร เอื้อทวีกุล อยู่เพียงตาตุ่มเขาเท่านั้นละมั้ง"
ดร.ไพจิตร เอื้อทวีกุล คงจะไม่ใช่นักการเมืองที่สามารถมีน้ำอดน้ำทนได้ต่อเสียงเสียดสีกระแนะกระแหนที่
"สีเสียด" เสียดสีเอาตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม ถึง 14 สิงหาคม
พ.ศ. 2524 ก็เลยต้องขอพึ่งบารมีศาลเอา
ในช่วงแห่งการดำเนินคดีนั้น แรกที่ "สีเสียด" ก็มีท่วงท่าเก่งกาจอาจหาญ
แต่พอดูแนวโน้มว่าน่าจะแพ้แน่ๆ ประกอบกับคดีหมิ่นประมาทในช่วงหลังๆ นั้น
ผู้พิพากษามักจะพิพากษาให้จำคุกและไม่มีการรอลงอาญาเลยแม้แต่คดีเดียว
การวิ่งเต้นเพื่อประนีประนอมก็เกิดขึ้น!!!
คนที่ "สีเสียด" วิ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็คือ "บุญชู โรจนเสถียร"
ผู้ซึ่งเคยให้การสนับสนุนหนังสือพิมพ์ดาวสยามในเรื่องเงินทองมาตลอดโดยผ่านทางธนาคารกรุงเทพ
แต่บุญชูกับไพจิตร เอื้อทวีกุล ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากขมิ้นกับปูนดีๆ
นี่เอง คนกลางที่บุญชูต้องพึ่งก็คืออำนวย วีรวรรณ ในฐานะที่อำนวยสนิทสนมกับไพจิตรดี
อำนวยรับหน้าที่นี้อย่างไม่ค่อยเต็มใจ เพราะรู้ดีว่าไม่สำเร็จแน่ๆ และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ!
เพราะไพจิตรตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่า ต้องให้ถึงที่สุด
ในที่สุดศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก "ประสาน มีเฟื่องศาสตร์" และ
จำนง รุ่งเรืองกุล คนละ 5 เดือน โดยไม่มีการรอลงอาญา
จำเลยอุทธรณ์
และในช่วงนั้น ประสาน มีเฟื่องศาสตร์ก็ตัดสินใจขายหนังสือพิมพ์ดาวสยามให้กับเจ้าของหนังสือพิมพ์จีนฉบับหนึ่งไป
ศาลอุทรณ์พิพากษายืน และยังปรับอีกคนละ 1 พันบาท
จำเลยฎีกา!
ศาลฎีกาพยายามอ่านคำพิพากษาแล้วหลายครั้ง แต่จำเลยต้องเจ็บป่วยทุกที ด้วยสารพัดโรค
จนในที่สุดวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ศาลแขวงพระนครเหนือ นัดอ่านคำพิพากษา
แต่จำเลยป่วยปวดท้อง คราวนี้ศาลไม่เชื่อ ก็ให้นายประกันส่งตัวจำเลยมาตอนเย็น
นายประกันซึ่งเป็นน้องภรรยาประสาน มีเฟื่องศาสตร์ บอกว่าส่งตัวไม่ได้ เพราะจำเลยผ่าตัดที่โรงพยาบาลภูมิพล
ศาลไม่เชื่อก็เลยให้ปรับนายประกันและออกหมายจับจำเลยพร้อมทั้งนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่
25 ธันวาคม เวลา 13.30 น. นี้
สามปีกว่าแล้วที่ได้มีการลดค่าเงินบาทในสมัยนั้น
หลายคนที่ถูกผลกระทบครั้งนั้นก็ลืมกันไปเกือบหมดแล้ว คงจะมีบางคนเท่านั้นที่ยังไม่ลืม
และก็รอดูผลของการลดค่าเงินบาท ปี 2524 อยู่ถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา
คนคนนั้นคือ ดร.ไพจิตร เอื้อทวีกุล
วันที่ 25 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ ก็คงเป็นคริสต์มาสในประเทศตะวันตก คริสต์มาสนี้คงเป็นคริสต์มาสที่ตื่นเต้นสำหรับไพจิตรมากๆ
ทีเดียว เพราะรอมานานแล้ว
ส่วนประสาน มีเฟื่องศาสตร์ แทนที่จะได้ "White X'mas" อาจจะต้องได้
"Black X'mas" แทนก็ได้"