|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ขึ้นชื่อว่าธรรมชาติย่อมสร้างสรรค์ผลงานชิ้นโบแดงให้เราหลงใหลและชื่นชมได้เสมอ นับตั้งแต่ทุ่งดอกทิวลิปหลากสีสันที่กำลังแย้มกลีบรับแสงตะวัน จนถึงเถาไม้เลื้อยของไธม์ที่ขึ้นดกดื่นจนแลดูเหมือนพรมเนื้อดีทอด้วยฝีมือแสนประณีต เหล่านี้ล้วนได้ชื่อว่าเป็น “ศิลปะมีชีวิต” ที่บรรจงตกแต่งให้สวนสวยมีชีวิตชีวาตลอดเวลา
Project designer อย่าง Stephanie Brandenburg จึงรับหน้าที่ผสมผสานความงามตามธรรมชาติกับศิลปะการวาดภาพเข้าด้วย กัน โดยแต่งเติมความเป็นชนบทที่ให้ความรู้สึกสดชื่นมีชีวิตเข้าไปด้วย
Brandenburg นำเสนอแนวคิดการจัด “สวนแนวตั้ง” ด้วยการพลิกแพลงให้ดินทำหน้าที่เป็นผืนผ้าใบ และพันธุ์ไม้หลากหลายทำหน้าที่เป็นสีสำหรับแต่งแต้มให้เกิดลวดลายอ่อนช้อยพลิ้วไหวได้อย่างน่าอัศจรรย์
สวนแนวตั้งของเธอสวยหรูดูดี อยู่ในกรอบรูปแนววินเทจที่ซื้อได้ในราคาถูกๆ ซึ่งไปกันได้ดีกับพันธุ์ไม้ที่ไม่ต้องการการดูแลมาก กลายเป็นชิ้นงานศิลปะมีชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเนื้อสัมผัสและสีสัน จากนั้นแขวนบนตะขอที่แข็งแรงเป็นพิเศษ แล้วนำไปประดับด้านข้างของฝากระท่อมในสวนหรือบนผนังใกล้ลานบ้าน ถ้าอยากได้โต๊ะกาแฟมีชีวิตที่ทั้งเก๋และเท่ เพียงต่อขาให้กระบะต้นไม้ที่จัดเป็นสวนแนวตั้งเรียบร้อยแล้วเท่านั้น
สวนแนวตั้งขนาดกะทัดรัดและรูปแบบหลากหลายเหล่านี้ สามารถเนรมิตให้พื้นที่ว่างทุกแห่งสดชื่นสวยงามขึ้นทันที โดยเฉพาะผู้ที่มีพื้นที่สวนจำกัดจำเขี่ยจนแทบหาที่ว่างเพื่อปลูกต้นไม้ลงดินไม่ได้
“ปลูก” ศิลปะ
แสงแดดมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้สวนแนวตั้งสวยสดใสตลอดเวลา ส่วนพันธุ์ไม้ที่ใช้ปลูกควรเป็นพืชอวบน้ำที่ใบและเนื้อเยื่ออุ้มน้ำได้ดี รวมทั้งพันธุ์ไม้เลื้อยที่นิยมปลูกเป็นพืชคลุมดินพันธุ์ไม้เหล่านี้จะเจริญงอกงามได้ดีที่สุดเมื่อได้รับแสงแดดโดยตรงวันละ 8 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย จึงแนะนำให้แขวนสวนแนวตั้งบนผนังที่หันหน้าไปทางทิศใต้หรือทิศตะวันตก เพราะเป็นจุดที่รับแสงแดดได้เต็มที่ หรือถ้าจัดสวนแนวตั้งให้เป็นโต๊ะกาแฟเก๋ๆ ก็ให้ตั้งบริเวณลานบ้านที่มีแสงแดดจ้าส่องถึง
พืชอวบน้ำเหมาะกับงานจัดสวนแนวตั้งที่สุด เพราะทั้งใบและก้านมีคุณสมบัติอุ้มน้ำและความชุ่มชื้นได้ดีเยี่ยม แม้ช่วงหน้าร้อนที่อากาศร้อนจัด พืชประเภทนี้ก็ต้องการน้ำเพียงสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น
คุณจึงสร้างสรรค์ชิ้นงานศิลปะมีชีวิตนี้ได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้อง ใช้พู่กันหรือสีใดๆ ทั้งสิ้น เพียงมีเกรียงเล็กๆ ขนาดเหมาะมือ กรอบรูปราคาถูก และพืชอวบน้ำที่ขึ้นบนดินเท่านั้นก็พอ
ทำเองก็ได้ ง่ายจัง
การทำสวนแนวตั้งในกรอบรูป ไม่ยุ่งยาก เพียงเตรียมอุปกรณ์ ไม่กี่อย่างเท่านั้นคือ ต้นมอส กาบมะพร้าว ตะปูควง ไขควง ดินพืชอวบน้ำ กล่องไม้ สี ลวด กรรไกรตัดลวด ตาข่ายลวด และกรอบรูปแนววินเทจ
จากนั้นลงมือทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
1. ทาสีกรอบรูป เราสามารถป้องกันไม่ให้กรอบรูปเสียหายจาก ความเปียกชื้นด้วยการทาสีหรือทาน้ำมันเคลือบเงาโพลียูรีเทน
2. ทำกระบะปลูกต้นไม้ โดยใช้ไม้เนื้อแข็งประกอบขึ้นเป็นรูปกระบะลึกประมาณ 4-5 นิ้ว ให้มีความยาวและความกว้างเท่ากรอบรูป จากนั้นทาน้ำมันเคลือบเงาโพลียูรีเทนลงบนไม้ และนำตาข่าย ลวดกรุด้านในเพื่อให้เนื้อดินเกาะกัน
3. ใส่กาบมะพร้าวและดิน เทกาบมะพร้าวลงในกระบะเพื่อยึด ดินและป้องกันน้ำระเหย จากนั้นเทดินที่มีส่วนผสมของปุ๋ยแตกตัวช้า และต้องเป็นดินคุณภาพดีสำหรับปลูกต้นไม้กระถางโดยเฉพาะ เนื่อง จากดินสำหรับปลูกต้นไม้กระถางมีน้ำหนักเบาซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญ ของดินสำหรับจัดสวนแนวตั้ง ห้ามใช้ดินปนทรายเด็ดขาด
4. ใช้ตะปูควงกับไขควงเชื่อมกระบะกับกรอบรูปเข้าด้วยกัน
5. นำต้นไม้ลงดิน จัดสวนแนวตั้งในกรอบรูปด้วยพันธุ์ไม้ที่เตรียมไว้ หลักง่ายๆ ในการทำให้สวนแนวตั้งนี้สวยงามสะดุดตา คือ ใช้พันธุ์ไม้ที่มีเนื้อสัมผัสแตกต่างกันและสีตัดกัน เช่น ปลูกพืชตระกูลซีดัมที่มีใบเล็กๆ สีเขียวน่ารักตัดกับต้นกุหลาบหินใบหนาใหญ่สีฟ้าอมเทาดังที่เห็นในภาพประกอบหลักง่ายๆ ที่ต้องจำ
เมื่อจัดสวนแนวตั้งเสร็จแล้ว อย่านำขึ้นแขวนทันที แต่ให้วางแนวนอนและตั้งอยู่กลางแดดจัด เพื่อให้ต้นไม้หยั่งรากลึกลงไปในดินอย่างรวดเร็ว วิธีนี้ทำให้ต้นไม้กับดินประสานเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อนำขึ้นแขวนจะไม่หลุดร่อนออกมา
พืชอวบน้ำและพืชคลุมดินส่วนใหญ่ชอบแสงแดด ต้องอยู่กลางแดดอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เมื่อได้รับแสงแดดเพียงพอ จะผลิใบใหม่และแตกกิ่งก้านยาวขึ้นจนคลุมพื้นที่ในกระบะปลูกอย่างรวดเร็วและสวยงาม
เมื่อดินในกระบะแห้งจนหดตัวลงอยู่ต่ำกว่าขอบกระบะราวหนึ่งนิ้ว ให้ปลดลงจากที่แขวน วางในแนวนอน แล้วรดน้ำด้วยฝักบัวจนดินเปียกชุ่ม ทิ้งให้น้ำส่วนเกินไหล ทิ้งราวหนึ่งชั่วโมง จากนั้นจึงนำกลับไปแขวนใหม่
|
|
|
|
|