“ไปที่ไหนเราก็ทำมาตรฐานเดียวกัน เราเปิด Coal Hub ที่เวียดนาม เราก็ปลูกต้นไม้ทำ Green Belt มีผ้าใบคลุมกองถ่านหิน มีน้ำล้างฝุ่น คนที่นั่นก็ถามว่าเราทำอะไร เพราะไม่มีใครทำแบบที่เราทำ”

กลินท์ สารสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เทรดดิ้ง จำกัด เล่าถึงการเปิด Coal Hub หรือท่าเรือขนถ่ายถ่านหินของเอสซีจี เทรดดิ้ง ซึ่งดำเนินทุกขั้นตอนแบบเดียวกับที่ทำในเมืองไทย เพื่อควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางที่บริษัทเชื่อมั่น

เวียดนามเป็นหนึ่งพื้นที่เป้าหมายที่เอสซีจี เทรดดิ้งจะใช้เป็นตลาดขยายการเติบโตของสินค้ากลุ่มพลังงานจากถ่านหิน ในปีนี้

ถ่านหินเป็นกลุ่มสินค้าที่ทำรายได้ให้กับเอสซีจี เทรดดิ้งประมาณ 20% ของรายได้ปี 2554 รวม 4.6 หมื่นล้านบาท และบริษัทตั้งเป้าว่าจะทำรายได้จากส่วนนี้เพิ่มเป็น 30% ภายในปี 2558 เนื่องจากแนวโน้มราคาพลังงานประเภทอื่นโดยเฉพาะน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผล ต่อปริมาณการใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้น เพราะ เป็นเชื้อเพลิงที่มีราคาถูกเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงชนิดอื่น

กลินท์กล่าวว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 6 หมื่นล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตมากถึง 30% เมื่อเทียบกับปี 2554 โดยรายได้มาจาก 4 กลุ่มสินค้าในสัดส่วน ใกล้เคียงกัน ได้แก่ กลุ่มพลังงาน 20% กลุ่มรีไซเคิล 20-25% กลุ่มวัสดุก่อสร้าง 30% และกลุ่มอินดัสเทรียลซัพพลายเซอร์วิส หรือการบริการจัดหาสินค้าที่อุตสาหกรรมต่างๆ ต้องการอีก 20-25% เฉพาะถ่านหิน ปริมาณที่บริษัททำ การค้าอยู่ในปัจจุบันทั้งในตลาดไทย และอีก 3 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา รวมทั้งสิ้น 4 ล้านตัน ในจำนวนนี้ 3 ล้านตันส่งมายังตลาดไทย คิดเป็นส่วนแบ่ง 15-20% ของถ่านหินที่นำเข้ามาในประเทศไทย ทั้งหมดเป็นถ่านหินจากประเทศอินโดนีเซีย

การขนส่งถ่านหินจากอินโด นีเซียมาไทย ไม่ว่าจะดำเนินงานผ่านบริษัทใด จะมีเส้นทางลำเลียงเหมือนๆ กัน เริ่มจากเหมืองถ่านหิน ในอินโดนีเซีย ลำเลียงผ่านท่าเรือไปยังเรือขนส่งขนาดใหญ่ มาถึงจุด พักที่เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ขนถ่ายใส่เรือขนส่งเล็ก ไปขึ้นตามท่าเรือของ บริษัทต่างๆ ปัจจุบันกระจุกตัวอยู่ที่ริมแม่น้ำป่าสัก อ.นครหลวง จ.อยุธยา มีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 10 กว่าแห่ง ในลักษณะลานเทกอง บางแห่งไม่มีแม้แต่รั้วรอบขอบชิด สิ่งที่เห็นมากในปัจจุบันคือทุกท่าอยู่ ระหว่างทำคันดินเพื่อป้องกันน้ำท่วม เหมือนๆ กัน

จากท่าเรือของแต่ละบริษัท บางส่วนจะส่งเข้าโรงงานของลูกค้า โดยตรง และมีบางส่วนที่เทกองอยู่บนลานรอขนส่งไปยังผู้ซื้อ ส่วนของ เอสซีจี เทรดดิ้ง ถ่านหินส่วนหนึ่งจะส่งเข้าโรงคัดขนาดถ่านหินเพื่อแยกขนาดตามคำสั่งซื้อจากโรงงาน

สิ่งที่เอสซีจี เทรดดิ้งพยายาม สร้างความแตกต่างให้กับตัวเองคือการเพิ่มเติมด้านบริการเช่นการคัดขนาดและระบบจัดการเพื่อป้องกันผลกระทบต่อเรื่องสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ภายใต้มาตรฐานที่บริษัทกำหนด โดยไม่ใส่ใจว่าจะมีกฎหมาย หรือกฎระเบียบ ในพื้นที่บังคับหรือไม่ เพราะภาพลักษณ์ของ เครือเอสซีจีที่บริษัทต้องการรักษาไว้ควบคู่กับการเติบโตทางเศรษฐกิจคือการมีส่วนในการดูแลสิ่งแวดล้อม และสำหรับธุรกิจถ่านหินก็มีมาตรการการจัดการด้านคุณภาพ สิ่งแวดล้อมขึ้นมาโดยเฉพาะด้วย

ภายใต้เครือเอสซีจีก็กำหนดให้มีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สุขอนามัย และความปลอดภัยว่าต้องดีกว่ามาตรฐานกฎหมายกำหนดไว้อยู่แล้ว ทั้งกระบวนการ ลดความเสี่ยงจากการดำเนินงาน ป้องกันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินงาน รวมไปถึงสนับสนุนและกระตุ้น ให้พนักงานตระหนักและร่วมมือกันจัดการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย

แน่นอนว่าการทำเช่นนี้ย่อมทำให้ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น

“ราคาถ่านหินที่เราขายแพงกว่าคนอื่นอยู่ประมาณ 10% นอกจากการดำเนินงานภายใน Coal Hub ถ่านหินทุกเที่ยวที่เราส่งไปให้ลูกค้ายังมี Certificate จาก SGS บริษัทตรวจสอบและรับรองคุณภาพ ซึ่งเราชวนเข้ามาเปิด Site Lab ในพื้นที่ อ.นครหลวง เพื่อทำการตรวจสอบ คุณภาพถ่านหิน เช่น ค่าความร้อน ความ ชื้น ฯลฯ ว่าตรงตามที่ลูกค้าสั่งแล้วส่งไปพร้อมกับสินค้า”

ปีที่ผ่านมา ขั้นตอนการดำเนินงาน Coal Hub ของเอสซีจี เทรดดิ้งซึ่งมีอยู่ 2 แห่งในอำเภอนครหลวง จังหวัดอยุธยา ได้แก่ ท่าวัดบันได และท่าจัมโบ้ ซึ่งเป็นท่าเรือเช่าทั้ง 2 แห่ง เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา ก็เพิ่งได้รับมาตรฐาน ISO 14001 ซึ่งเป็นมาตรฐานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และ OHSAA 18001 ด้านอาชีวอนามัยและความ ปลอดภัย เพิ่มจากมาตรฐาน ISO 9001 การรับรองด้านคุณภาพสินค้าและบริการซึ่งได้มาตั้งแต่ปี 2551

ทำไมถึงมียังมีลูกค้าที่ยอมจ่ายแพง กว่า ทั้งที่มีผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินอยู่จำนวนหลายราย

จุดแข็งของเอสซีจี เทรดดิ้งอยู่ที่การ บริการซึ่งผู้ประกอบการบางรายไม่มีให้ เช่น การคัดแยกขนาดของถ่านหินตามที่ลูกค้าต้องการ

“ปัจจุบันเรามีลูกค้าอยู่ประมาณ 100 ราย ลูกค้าใหม่ที่เติบโตมากคือกลุ่ม Boiler ซึ่งต้องการขนาดของถ่านหินที่เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อให้การเผาไหม้เต็มประสิทธิภาพและเผาไหม้ได้หมด”

ส่วนอีกแนวทางหนึ่งมาจากผลตอบ รับเรื่องสิ่งแวดล้อมโดยตรง ซึ่งมีบทบาทต่อการดำเนินงานของภาคธุรกิจมากขึ้น เมื่อกฎหมายการค้าและอาจจะรวมถึงการตอบรับทางสังคมต่อบริษัทต่างๆ ที่ต้อง การภาพลักษณ์และการยอมรับว่ามีส่วนช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม หรือบริษัทนั้นได้รับเงื่อนไขว่าต้องเป็นบริษัทที่ดูแลใส่ใจสิ่งแวด ล้อมเพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในซัปพลายเชนของระบบธุรกิจใด หรือสามารถทำการค้ากับองค์กร หรือประเทศใดก็ได้ง่ายขึ้นในกรณีที่มีข้อกำหนดเรื่องสิ่งแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้การยอมจ่ายเงินซื้อวัตถุดิบที่มีราคาสูงขึ้นเล็กน้อย เป็นส่วนหนึ่ง ที่ช่วยสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันเพิ่มขึ้นด้วย

เอสซีจี เทรดดิ้งก็เชื่อในแนวคิดนี้เช่นกันว่า จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้บริษัทเติบโตด้วยภาพลักษณ์องค์กรที่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

ดังนั้น แผนขยายธุรกิจการนำเข้าธุรกิจถ่านหินจากอินโดนีเซียจะเพิ่มจาก 4 ล้านตันเป็น 7 ล้านตันในปีนี้ ทำให้บริษัทเลือกขยาย Coal Hub ในประเทศเวียดนามและฟิลิปปินส์ และดำเนินงานภายใต้รูปแบบเดียวกับที่เมืองไทย โดยไม่หวั่นต่อข้อสงสัยว่าจะทำให้สิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นทำไม เพราะอย่างไรก็ตามบริษัทเชื่อว่าจะมีลูกค้าที่เข้าใจ ตอบรับ และทำให้บริษัทเติบโตได้ตามเป้าหมายในแนวทางที่เลือกเดินนี้