เวียดนามกำลังเชิญชวนต่างประเทศลงทุนทางด้านสนามบิน ทั้งๆ ที่หนังสือพิมพ์ภายในประเทศต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า ปัจจุบันในเวียดนามมีสนามบินมากเกินไปแล้ว
เหงียน กง ฮวาน ผู้รับผิดชอบทางด้านแผนและการลงทุนของบริษัทใหญ่ ท่าอากาศยานที่เพิ่งได้รับก่อตั้ง ได้กล่าวเมื่อ 9 มีนาคม 2555 ที่นครโฮจิมินห์ว่า
“พวกผมต้องการเงินลงทุนจากหลายแหล่งทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ”
ฮวานกล่าวว่า ปัจจุบันนักลงทุนต่าง ประเทศจำนวนหนึ่งกำลังสนใจโครงการก่อสร้าง สนามบินเวินโด่น ที่จังหวัดกว๋างนิญ ในขณะที่เวียดนามต้องการมีสนามบินใหม่เพิ่มอีกสามแห่ง รวมทั้งยกระดับบรรดาสนามบินปัจจุบันเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเพิ่มแรงแข่งขัน
“พวกผมกำลังพัฒนาทางยุทธศาสตร์เพื่อแข่งขันกับบรรดาสนามบินในภูมิภาค เช่น ไทยและสิงคโปร์” สำนักข่าวธุรกิจ Bloomberg ได้อ้างคำพูดของ ฮวาน
ฮวานกล่าวว่าจำนวนผู้โดยสารภาย ในประเทศเพิ่มขึ้น 19% เมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่ผู้โดยสารนานาชาติเพิ่มขึ้น 3%
ในจำนวนสนามบินใหม่ สนามบินฟุก๊วกจะเปิดในปลายปีนี้ และเวียดนามจะเริ่มโครงการ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อก่อสร้างสนามบินลองถ่าญที่จังหวัดโด่งนาย ในปี 2558 เป้าหมายจะเปิดบริการ ในปี 2563 ประกอบด้วยสี่ทางวิ่ง
สนามบินลองถ่าญจะอยู่ห่างจากท่าอากาศยานเตินเซินเญิต 40 กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีความสามารถรองรับผู้โดยสารขั้นต้นปีละ 25 ล้านคน คิดเป็นสองเท่าของจำนวนผู้โดย สารที่สนามบินเตินเซินเญิตเมื่อปีที่แล้ว
ฮวานกล่าวว่า จนถึงวันนี้เวียดนาม ยังไม่ได้รับการลงทุนจากต่างประเทศใดๆ ในการก่อสร้างด้านสนามบิน ในขณะที่เวียดนามต้องการมีสนามบินนานาชาติหกแห่งแทน เพราะสถานการณ์ผู้โดยสารต่างประเทศเกือบทั้งหมดเดินทางผ่านสนามบิน 3 แห่งในจำนวนที่มีอยู่ปัจจุบัน 21 แห่ง
สนามบินมากเกินไป
ในขณะที่หนังสือพิมพ์ลาวด่ง (แรงงาน) ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ได้เตือนเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ดูเหมือนว่าท้องถิ่นต่างๆ ในเวียดนามล้วนกำลังต้อง การมีสนามบิน
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้กล่าวว่าในเขต 14 จังหวัดและนคร ตั้งแต่จังหวัดทาญฮว้า ถึงจังหวัดบิ่ญเถวิ่น มีสนามบิน 9 แห่ง ในจำนวนนั้นมีสนามบินบางแห่งขาดทุนปีละหลายหมื่นล้านด่องเพราะผู้โดยสารไม่มากนัก
นั่นคือสนามบินโด่งเฮ้ยได้มีการก่อสร้างสนามบินแห่งนี้ด้วยเงินลงทุนกว่า 210,000 ล้านด่อง มีการออกแบบรองรับผู้โดยสารปีละ 500,000 คน ที่จังหวัด กว๋างบิ่ญ แต่ความจริงจำนวนผู้โดยสารมาและไปจากสนามบินนี้นับเฉลี่ยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เพียงปีละไม่ถึง 40,000 คน
ผู้บริหารท่าอากาศยานโด่งเฮ้ยรายหนึ่งกล่าวว่า ด้วยความถี่การใช้งานต่ำ แต่ละปีสนามบินแห่งนี้จึงขาดทุน 55,000-60,000 ล้านด่อง
มีการยอมรับสภาพขาดทุนเหมือนสนามบินโด่งเฮ้ย ถึงแม้อยู่ที่ระดับน้อยกว่า มาก ก็คือสนามบินจูลายอยู่ในจังหวัดกว๋างนาม ได้มีการใช้งานเมื่อปี 2547 ด้วย เงินลงทุนกว่า 80,000 ล้านด่อง
หนังสือพิมพ์เหงื่อยลาวด่ง (ชาวแรงงาน) ระบุว่า ปัจจุบันสนามบินจูลาย รับผู้โดยสารปีละประมาณ 60,000 คนและ จำนวนยอดขาดทุนเมื่อปีที่แล้ว คือเกือบ 6,000 ล้านด่อง
หนังสือพิมพ์เหงื่อยลาวด่ง ระบุอีกว่ามีหลายสนามบิน เช่นสนามบินตุยหว่า ที่จังหวัดฟุเอียน บางเวลาในอดีตต้องปิดบริการเพราะไม่มีผู้โดยสาร ปัจจุบันมีผู้โดยสารเพียงปีละ 50,000 คน
ง่อนแง่น
ในรายงานข่าวหลายครั้งเกี่ยวกับแผนการก่อสร้างสนามบินกันจำนวนมากในเวียดนาม หนังสือพิมพ์เหงื่อยลาวด่ง ก็ได้กล่าวถึงโครงสร้างพื้นฐานจำกัดในสนามบินหลายแห่ง
ผู้บริหารสนามบินฝู่ก๊าตคนหนึ่งที่จังหวัดบิ่ญดิ่ญ กล่าวว่า สัตว์เลี้ยงอาจจะเข้ามาในสนามบินแห่งนี้ บางครั้งพวกเขาพบสุนัขฝูงหนึ่งกำลัง “วิ่งเล่น” บนทางวิ่ง ขณะเครื่องบินจวนจะบินลงเพราะการก่อสร้างกำแพงรั้วกั้นสนามบินกับบ้านเรือน ประชาชนยังไม่เสร็จ
สนามบินจูลายก็เหมือนสนามบินฝู่ก๊าต คือไม่มีกำแพงรั้วกั้นรอบๆ ทำให้เกิด “สถานการณ์ประชาชนปล่อยโคกระบือหากินอิสระในเขตสนามบิน” และบางครั้งพวกเขาต้อง “ระดมรถดับเพลิงไปตามทางวิ่งเปิดเสียงไซเรนไล่โคกระบือออกไปให้ไกลขณะเครื่องบินบินขึ้น-ลง”
มีการอ้างคำพูดของรัฐมนตรีคมนาคมขนส่ง ดิญ ลา ทัง ซึ่งกล่าวว่า ท่าอากาศยานกามราญที่จังหวัดค้าญหว่า เป็น 1 ใน 5 ท่าอากาศยานนานาชาติ ปัจจุบันก็ยังตอบสนองมาตรฐานสากลไม่ได้ เนื่องจาก “ไม่มีรถดับเพลิง ไม่มีรถสูบน้ำให้เครื่องบิน ไม่มีน้ำจืด ทางวิ่งชำรุด ไม่มีที่รับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และไม่มีเส้นทางบินระหว่างประเทศ”
การวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ของหนังสือพิมพ์เหงื่อยลาวด่ง ผู้อ่านหลายคนตั้งคำถามด้านความสามารถตัดสินใจ ลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพของอำนาจรัฐ และเรื่องที่ผู้คนพูดกันมากถึงโครงการก่อสร้างหลายโครงการที่ปล่อยให้มีคอร์รัปชั่น
พวกเขาได้ย้ำเรื่องจังหวัดต่างๆ ที่แข่งกันก่อสร้างโรงงานน้ำตาลหรือสนามกอล์ฟในช่วงหลายปีก่อนนี้ และตั้งคำถามเกี่ยวกับการแข่งขันใหม่ระหว่างท้องถิ่นต่างๆ ในการก่อสร้างสนามบิน
|