Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา เมษายน 2555
แรงขับเคลื่อน             
โดย เจษฎี ศิริพิพัฒน์
 


   
search resources

International
Vietnam
Myanmar




เว็บไซต์ BBC ภาษาเวียดนาม เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2555 แปลบทความจากหนังสือพิมพ์ South China Morning Post ซึ่งวางจำหน่ายที่ฮ่องกง ในโอกาสเยือนฮานอยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีเต็งเส่ง โดยประเมินปฏิกิริยาของความสัมพันธ์เวียดนาม-พม่า-ในกระดานหมากรุกภูมิภาคและสากล

เนื้อหาในบทความชิ้นนี้ระบุว่าการเยือนของเรือรบพม่า 2 ลำที่เข้าเทียบท่าที่ท่าเรือด่าหนังในสัปดาห์ก่อนหน้าที่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้วางจำหน่าย ดูเหมือนไม่ได้รับความสนใจ เท่ากับการเยือนของบรรดาเรือรบสหรัฐฯ รัสเซีย และอินเดีย การที่เรือพม่าเข้าเยือนเวียดนาม “เป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อย่างหนึ่งที่กำลังก่อตัวขึ้นที่หน้าประตูของจีน”

การเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีเต็งเส่งในครั้งนี้ทำให้เพิ่มส่วนลึกในความสัมพันธ์ทวิภาคี ภายหลังการเยือนพม่าเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านั้นของฝ่าม บิ่ญ มิญ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนาม

ซึ่งในตอนนั้นได้มีการออกประกาศร่วมฮานอยย้ำถึงเรื่องที่สองประเทศ “เน้นย้ำความสำคัญของการรับประกันสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลจีนใต้ (หรือทะเลตะวันออก ในความหมายของเวียดนาม)”

ภาพซับซ้อนขึ้น
บทความนี้อ้างคำพูดฝ่ายเวียดนามว่า “ยินดีกับวิวัฒนาการของพม่าที่สามารถเข้าร่วมคณะกรรมการแม่น้ำโขง” และปักกิ่งได้ยอมรับประกาศทั้งสองฉบับนี้ เพราะพวกเขา “ติดตามยุทธศาสตร์การทูตของเวียดนามอย่างใกล้ชิด”

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้อ้างคำพูดของ Ian Storey ผู้เชี่ยวชาญทางด้านความมั่นคงภูมิภาค ประจำสถาบันวิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งอยู่ที่สิงคโปร์ ที่กล่าวว่า “มีข้อสังเกตว่า พม่าส่วนใดเคยมีบทบาทติดตามความช่วยเหลือจากจีนในกลุ่ม ASEAN”

“ปัจจุบันภาพกลายเป็นหลากหลายขึ้น เช่น ความสัมพันธ์พม่ากับเวียดนาม ที่แสดงให้เห็นทั้งสองประเทศต่างต้องการความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน เพราะมีแนวชายแดนยาวร่วมกัน แต่พวกเขาก็ต้องการเปิดกว้างความสัมพันธ์ในภูมิภาคและสากลอื่นๆ อีก”

หนังสือพิมพ์ South China Morning Post ก็เขียนว่า นักวิเคราะห์บางคนในภูมิภาค ประหลาดใจต่อวิวัฒนาการในหลายเดือนที่ผ่านมาของพม่าที่ถอยห่างจากจีน ชาติที่เคยอุปถัมภ์หลักทางทหารให้แก่กลุ่มทหารนิยมของพม่า เพื่อเดินหน้าสู่นโยบายการทูตที่เปิดกว้างขึ้น รวมทั้งกระบวนการปรับปรุงความสัมพันธ์กับวอชิงตัน

ปัจจุบัน สหรัฐฯ ยังคงคว่ำบาตรพม่า ถึงแม้ประเทศนี้จะปฏิรูปการเมืองและสังคมเมื่อเร็วๆ นี้

เวลาเดียวกัน ท่าทีของประธานาธิบดีเต็งเส่งได้เด่นชัดขึ้นในแนวโน้มแยกห่างจากจีน ในคำสั่งที่ออกเมื่อเดือนกันยายน 2554 ให้หยุดโครงการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำมิตซง ที่แควต้นน้ำแม่น้ำอิระวดี ขณะที่มีความกังวลในประชามติเกี่ยวกับผลกระทบของโครงการที่จีนก่อสร้างนี้ มีการวางแผนส่งไฟฟ้าส่วนใหญ่จากโครงการนี้ไปยังมณฑลหยุนหนันของจีน

หนังสือพิมพ์ South China Morning Post ให้ความสนใจว่า ประธานาธิบดีเต็งเส่งผู้ซึ่งเคยเป็นนายพลของกองทัพพม่า ก่อนโอนไปเป็นแกนนำพลเรือน ขณะเยือนฮานอยก็มีตัวแทนทางทหารคณะหนึ่งเป็นผู้ติดตาม

เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ผู้บัญชาการสูงสุด Min Aung Hlain ได้มีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ คือหลังจากขึ้นสู่ตำแหน่ง ก็ได้ไปเยือนฮานอยทันที โดยไม่ไปจีนก่อนเหมือนธรรมเนียมปกติ

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ยังได้วิเคราะห์ว่า เวียดนามได้แสดงความพร้อมจะเผชิญหน้ากับจีน ในภูมิภาค ถึงแม้ว่ายังคงมีความพยายามเสริมสร้างความสัมพันธ์ฉันพี่น้องกับปักกิ่ง

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้หยิบยกคำถามคือ ในขณะระบอบคอมมิวนิสต์ที่ฮานอยแสดงความสนับสนุนการปฏิรูปประชาธิปไตยในพม่าอย่างเปิดเผย และกิจกรรมบูรณาการต่างๆ ของประเทศนี้เข้ากับภูมิภาค บรรดาแกนนำฮานอยรู้สึกลำบากใจต่อการลุกขึ้นของฐานประชาธิปไตยใหม่แห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือไม่

ทูตพิเศษ ASEAN รุ่นเก่าคนหนึ่งประเมินว่า “ในเวลานี้ฝ่ายเวียดนามแสดงความพอใจกับพม่าที่กำลังบูรณาการกับ ASEAN กับภูมิภาค และกับฝ่ายตะวันตก”

ยังมีการอ้างคำพูดนักการทูตคนนี้ว่า “ในหลายด้าน ที่สำคัญ นี่ก็เป็นการสะท้อนวิธีการ เข้าถึงของ (เวียดนาม) และเป็นธรรมดาเป็นการทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและภูมิภาค กลายเป็นซับซ้อนขึ้น”

ในการวิจารณ์ความผิดปกติอีกประการหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งรับผิดชอบเอเชียตะวันออกของสหรัฐอเมริกา Kurt Campbell ได้ยืนยันบทบาทของฮานอยในการส่งเสริมวอชิงตันและเนปิดอมาใกล้กัน

แต่ Campbell ก็กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่ชัดเจนว่า การเปลี่ยนแปลงในพม่ามีผลกระทบต่อ “การขับเคลื่อน” การเมืองภายในเวียดนามหรือไม่ ถึงแม้ฮานอยเคยส่งเสริมยุทธศาสตร์เชื่อมประสานพม่ากับสหรัฐฯ

ได้มีการอ้างคำพูดของ Campbell ที่กล่าวว่า “มีบางครั้งเมื่อปีที่แล้ว พวกผมได้รับความสำเร็จน้อยมากในการเอาชนะพม่าและเวียดนาม เวลานั้นยังคงมีการเร่งเร้าทางลับให้พวกผมเจรจาโดยตรงต่อไปกับรัฐบาลพม่า และยังจัดหาบรรดาข่าวสารที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิธีการเร่งให้ปัญหามีความคืบหน้า”   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us