Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา เมษายน 2555
สัมพันธ์บนพื้นฐาน “เห็นอกเห็นใจกัน”             
โดย เจษฎี ศิริพิพัฒน์
 


   
search resources

International
Vietnam
Myanmar




เว็บไซต์ BBC ภาษาเวียดนาม เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2555 มีรายงานบทสัมภาษณ์ เล กง ฝู่ง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ที่ระบุว่าเวียดนาม และพม่า มีความสัมพันธ์ในลักษณะ “มิตรภาพเก่าแก่” และรู้สึกเห็นอกเห็นใจกันในหลายปัญหา

ในการตอบคำสัมภาษณ์ร่วมกันของแผนกภาษาเวียดนามและแผนกภาษาพม่าของ BBC เมื่อ 21 มีนาคม ในโอกาสการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีเต็งเส่งของพม่า เล กง ฝู่ง ก็พูดถึงหัวข้อทะเลตะวันออกในความสัมพันธ์นี้ด้วย

สองด้านของการพัฒนา
“เวียดนามจะไม่ขอให้พม่ายืนอยู่ทางฝ่ายเวียดนาม ในการพิพาทอธิปไตยที่ทะเลตะวันออก เพราะปัญหานี้ขึ้นอยู่กับการจัดการของฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง” ฝู่งกล่าว

อย่างไรก็ดี ฝู่งก็บอกว่า พม่าอาจจะเข้าร่วมจัดการในปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหลายประเทศ เช่น ปัญหาความมั่นคงและการเดินเรือเสรี

ปัจจุบัน ฝู่งกำลังเป็นประธานสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-ASEAN สังกัดสหพันธ์องค์กรมิตรภาพของเวียดนาม

ต่อคำถามที่ว่าเวียดนามสามารถเรียนรู้อะไรจากการปฏิรูปของพม่า ฝู่งกล่าวว่า ฮานอย “พร้อมจะเรียนรู้ ถ้ามีสิ่งต่างๆ ที่พม่าทำได้ดีและมีประสิทธิภาพในการสร้างและพัฒนาประเทศ”

เขาได้กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงเมื่อเร็วๆ นี้ในพม่าจะมีผลทางบวกในความสัมพันธ์กับเวียดนาม รวมทั้งในกลุ่ม ASEAN

“การปฏิรูปต่างๆ ทำให้พม่าแข็งแรงขึ้น และเป็นสมาชิก ASEAN ที่แข็งแรงประเทศหนึ่ง” เขาอธิบาย “ถ้าเศรษฐกิจพม่าพัฒนาแข็งแรงขึ้น ความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้ากับเวียดนามก็มีประโยชน์ขึ้น” เขากล่าว

อย่างไรก็ดี เขาก็ยอมรับว่าถ้าพม่า “เปิดประตูพัฒนาแข็งแรง” เวียดนามก็ “อาจจะประสบความลำบากนิดหน่อย เพื่อดึงดูดการลงทุน การค้าจากประเทศต่างๆ”

“กล่าวคือ (พม่า) เป็นคู่แข่ง (ของเวียดนาม) ก็ได้ เพราะพม่าเป็นประเทศเดียวที่เพิ่งเปิดประตู ดังนั้นบรรดานักลงทุนก็จะพากันเข้าไป” เขากล่าว

“พวกผมต้องพยายามมากขึ้นเพื่อทำอย่างไร ถึงแม้พม่ามีนักลงทุนต่างๆ แต่ก็ไม่กระทบอะไรมากต่อเวียดนาม” ฝู่งกล่าว

เขาเชื่อว่าพม่า “มีเงื่อนไขมากมายเพื่อจะพัฒนาประเทศ”

รู้สึกเห็นอกเห็นใจกัน
ต่อคำถามที่ว่าสองประเทศหวังอะไรในกันและกันในความสัมพันธ์ทวิภาคี เขากล่าวว่าฝ่ายเวียดนาม “ก็หวังมาก”

“ก่อนอื่น พวกผมต้องการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามและอำนาจรัฐใหม่ในพม่า และส่งเสริมความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และด้านต่างๆ” เขากล่าว

“พวกผมก็เหมือนหลายประเทศในภูมิภาคที่คอยให้พม่าเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนใหม่ ตามกระบวนการที่ตั้งขึ้น เดินหน้ากระบวนการทำให้เป็นประชาธิปไตยและประเทศมีเสถียรภาพโดยเร็วเพื่อการพัฒนาเขา” กล่าวเพิ่มเติม

ทางฝ่ายพม่า เขากล่าวว่าประเทศนี้ต้องการให้ประเทศของเขาช่วยเหลือในกระบวนการพัฒนาประเทศ รวมทั้งกระบวนการเปลี่ยนใหม่ทางการเมืองของพวกเขา

“พวกเขาก็ต้องการหาความเข้าใจขอคำปรึกษาบทเรียนต่างๆ ที่เวียดนามได้ผ่านพ้นมา” เขากล่าว

ด้านพื้นฐานความสัมพันธ์สองประเทศ ฝู่งอธิบายว่า เป็น “ความสัมพันธ์มิตรภาพเก่าแก่” และความเห็นอกเห็นใจกันในหลายปัญหา

“เวียดนามและพม่ามีชะตากรรมถูกเหยียบย่ำเหมือนกัน ถ้าลุกขึ้นปลดปล่อยประเทศ ก็ควรแบ่งปันกันหลายเรื่องและรู้สึกเห็นอกเห็นใจกัน” เขากล่าว

ฝู่งยังกล่าวว่า เนื่องจากเวียดนามก็เคยถูกปิดล้อมคว่ำบาตร จึงรู้สึกเห็นใจกับสภาพการณ์ของพม่า

“ความสัมพันธ์สองประเทศเพียงอาจจะดีขึ้นเท่านั้น” เขากล่าว “เมื่อก่อนนี้และปัจจุบัน สองฝ่ายได้ให้คำมั่นว่าจะช่วยกันสุดกำลังของตนเพื่อการพัฒนา”

“ถึงแม้ระบอบการเมืองต่างกัน แต่สองฝ่ายเข้าใจกันและสามารถช่วยเหลือกันอย่างไม่มีอคติ” เขากล่าวเพิ่มเติม

เขาบอกว่า ในการพบปะเมื่อเร็วๆ นี้กับเจ้าหน้าที่บางคนของพม่า เขาได้ยินการยืนยันว่า “พวกเขาได้เปลี่ยนแปลงและไม่กลับคืนหนทางเก่า”

“ภายหลังยากลำบากเป็นเวลานาน พวกเขา (เจ้าหน้าที่พม่า) บอกว่ากระบวนการพัฒนา นำประเทศของพวกเขาเดินหน้า แต่ละก้าวไม่อาจเร็วมากนัก” เขาย้ำ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us