บริษัทสตาร์แฟชั่น (2551) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์รองเท้าแฟชั่นชั้นนำ “SANUK” จากอเมริกาเชื่อมั่น ปีนี้บริษัทสามารถเติบโตตามเป้า 50% ล่าสุดเตรียมขนทัพรองเท้าและสินค้าแฟชั่นกว่า 200 แบบปูพรมวางขายทั่วประเทศ มั่นใจสินค้าเทรนดี้ที่มากับสีสันและความสบาย พร้อมชูกลยุทธ์ Music Marketing จะช่วยดันยอดขายให้เข้าเป้าได้ไม่ยาก
วิฑูรย์ ตติยมณีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทสตาร์แฟชั่น (2551) จำกัด มั่นใจสภาพเศรษฐกิจฟื้นตัว จากช่วงปลายปีที่ผ่านมาหลังประเทศไทยประสบปัญหามหาอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 50 ปี พร้อมเล็งเห็นอัตราการเติบโตของตลาดรองเท้าลำลอง (Casual) ที่เพิ่มขึ้นทุกปีเฉลี่ยที่ 10% ต่อปี เตรียม ทุ่มงบการตลาดกว่า 20-30 ล้านบาทสำหรับแผนการตลาดเชิงรุก เพื่อผลักดันเป้าหมายยอดขายที่ 2,500 ล้านบาท เพิ่มจาก 1,600 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา
“มูลค่าตลาดรองเท้าในปัจจุบันมีตัวเลขสูงถึงหมื่นล้านบาท แบรนด์รองเท้า SANUK (สนุก) ในปีนี้เราจึงเตรียมเดินหน้าด้วยการใช้กลยุทธ์มิวสิกมาร์เก็ตติ้งในการเจาะกลุ่มลูกค้าในประเทศ และกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ (Young Generation) นอกจากเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่แล้ว เราได้วางตัว สิงโต นำโชค ศิลปินไทย ที่ปลุกกระแส Ukulele เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ซึ่งเราจะเดินสายโรดโชว์พ่วงการแสดงคอนเสิร์ตเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น นักศึกษา คนวัยทำงาน อายุประมาณ 18-35 ปีจากเดิมที่เน้นตลาดกลุ่มผู้ใช้อายุระหว่าง 25-40 ปี”
โดยตลอดทั้งปี แบรนด์ Sanuk เตรียมขนสินค้ารุ่นใหม่ที่เป็น Unisex สู่ตลาดอีกเป็นจำนวนมาก พร้อมขยายจุดจำหน่ายสินค้าจาก 48 จุดทั่วประเทศในปีที่แล้วเป็น 65 จุดในปีนี้ ซึ่งแบ่ง เป็น Flagship Store ในหัวเมืองใหญ่อย่างภูเก็ต ขอนแก่น และพัทยาอีกด้วย โดยเน้นกลยุทธ์มิวสิกมาร์เก็ตติ้ง ชูแบรนด์แอมบาสเดอร์พ่วงการแสดงคอนเสิร์ต ที่บริษัทฯ ประเมินว่ากลยุทธ์นี้จะเป็นอาวุธลับที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวัย 17-20 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ เข้าสู่กลุ่มที่เป็น Young Adult มากขึ้น สามารถจับต้องและเป็นเจ้าของแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ด้วยรูปแบบที่เป็นเทรนดี้ สีสันสวยงาม และสวมใส่สบาย ทั้งชายและหญิง ซึ่งลูกค้าทั้งสอง กลุ่มนี้ (Unisex) วิฑูรย์ ตติยมณีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์แฟชั่น (2551) จำกัด บอกว่า เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัทที่มีกำลังซื้อสูง ไม่แพ้ลูกค้าทั่วไปที่หันมาใส่รองเท้าลำลอง (Casual) มากขึ้นทุกปี
“จากไลฟ์สไตล์การแต่งกายของคนไทยที่เปลี่ยนไปจากชุดแนวบิสสิเนสเป็นทางการมาเป็นชุดลำลอง (Casual) สบายๆ มากขึ้น ทำให้เครื่องแต่งกายแนว ลำลอง (Casual) ได้รับความนิยมมากขึ้น เรื่อยๆ ปีที่ผ่านมา รองเท้ากลุ่ม Casual เติบโตมากถึง 20% จากตลาดรวมเฉพาะในห้างสรรพสินค้าที่มีมูลค่า 2,000-3,000 ล้านบาท ขณะที่รองเท้าบิสสิเนสเติบโตไม่เกิน 10%”
ในปีนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการ ทำตลาดรองเท้า Casual เพิ่มมากขึ้น เพื่อผลักดันยอดขายในห้าง สรรพสินค้า เช่นเดียวกับการขยายตลาดไปยังช่องทางใหม่ๆ ด้วยการเสริมรุ่นรองเท้าแบรนด์ใหม่ๆ อีกกว่า 10 แบรนด์ในอนาคต” วิฑูรย์กล่าวและเสริมถึงธุรกิจสินค้าแฟชั่นแบรนด์อื่นๆ ที่บริษัทนำเข้าว่า บริษัทจะมุ่งขยายพอร์ตธุรกิจนำเข้าสินค้าแฟชั่นเน้นกลุ่ม ไลฟ์สไตล์แบรนด์ในหลากหลายเซกเมนเทชั่น ตามรูปแบบการใช้ งาน เช่น ท่องเที่ยวทางทะเล เดินป่า ทำงานในเมือง เป็นต้น สอดรับผลการศึกษาตลาดพบว่าพฤติกรรมคนรุ่นใหม่จะให้ความสำคัญ ในเรื่องแฟชั่นอิงเทศกาล การใช้งาน ชุดทำงาน แนวทางการได้รับ ความนิยมน้อยลง หันมาใช้แนวลำลองมากขึ้น รวมทั้งเทรนด์สุขภาพยังเป็นองค์ประกอบหลักในการตัดสินใจซื้อของคนรุ่นใหม่
“บริษัทวางเป้าหมายที่จะเป็นรีเทลเลอร์ หรือผู้นำด้านไลฟ์ สไตล์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในทุกรูปแบบด้วยยูนีค ดีไซน์ โดยจะมุ่งเน้นการสร้างความแตกต่าง ทั้งใช้นวัตกรรม ความเป็นเทรนดี้ ของสินค้า เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมาย (Segmentation) ใหม่ๆ โดย จะออกคอลเลกชั่นใหม่ๆ ทุกไตรมาส”
ภายใน 3 ปีจากนี้ บริษัทพร้อมจะรุกขยายตลาดต่างประเทศ อย่างเต็มตัวอีกด้วย เริ่มจากกลุ่มประเทศอาเซียนสอดรับเป้าหมาย สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาทขึ้นไป ด้วยการออกไปตั้งสาขาหรือจับมือพันธมิตรตั้งโชว์รูมในตลาดต่างประเทศ โดยจะเริ่มต้นในปี 2556 เป็นอย่างช้า โดยที่สินค้ารุ่นใหม่ที่เตรียมจะเปิด ตัวในปีนี้อีกกว่า 10 แบรนด์ มีงบลงทุนกว่า 20-30 ล้านบาทโดยปีนี้บริษัทจะมีรายได้ปิดที่ 2,500 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่ผ่านมามีรายได้ที่ 1,200 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 50%
|