Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2528








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2528
ถนนสีลม-วอลสตรีท ของกรุงเทพฯ ลำบากกันวันนี้เพื่อไปสบายกันวันหน้า             
 


   
www resources

โฮมเพจ การไฟฟ้านครหลวง

   
search resources

การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)
Social




การจราจรในกรุงเทพฯ บ้านเรา เมื่อ 3-4 ปีที่แล้วนั้น เคยมีเสียงบ่นโดยทั่วไปว่า "โหดเกือบที่สุดในโลก" แต่คำบ่นนี้ก็คงไม่ถูกต้องเสียแล้ว เพราะเหตุว่าในขณะนั้น กรุงเทพฯ มียวดยานที่แล่นกันขวักไขว่หรือไม่จอดติดกันเป็นแพอยู่เพียงประมาณ 8 แสนคัน ส่วนบัดนี้จำนวนยวดยานภายในกรุงเทพฯ ได้เพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 1 ล้าน 2 แสนคันแล้ว

ฉะนั้นคำบ่นที่น่าจะถูกต้องกว่าก็คือ การจราจรในกรุงเทพฯ ในปัจจุบันนั้น มัน "โหดที่สุดในโลก" คือไม่มี "เกือบ" อีกต่อไป

ก็ไม่ทราบว่าจะเอาอะไรมาวัดเหมือนกัน แต่ถ้าถามถึงความรู้สึกของผู้ที่สัมผัสอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันไม่ว่าจะเป็นคนขับยวดยาน คนเดินถนน ตำรวจจราจร หรือเด็กขายพวงมาลัย คำตอบก็คงจะออกมาตรงกัน เช่นนั้น ไม่มีทางเป็นอื่นไปได้แน่นอน

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการแจ้งข่าว เรื่องการขุดถนนสีลมโดยสื่อมวลชนต่างๆ รวมทั้งการประชาสัมพันธ์จากจราจรกลาง และหน่วยงานที่จะต้องมีหน้าที่ขุดถนน ใครที่ได้ฟังแล้วถ้าไม่ด่าขึ้นมาลอยๆ อย่างน้อยก็คงจะต้องรำพึงว่า แล้วคราวนี้จะทำกันอย่างไร (วะ)

เพราะสภาพการจราจรบนถนนสีลมและถนนใกล้เคียงคงต้องวิกฤตไม่มีทางหลีกเลี่ยง อีกทั้งยังมีกลุ่มที่จะต้องถูกผลกระทบเอาแทบกระอักเลือด ก็คือ ร้านค้าจำนวนเป็นร้อย บนสองฟากถนน โรงแรมชั้นหนึ่งและชั้นสอง ผู้อยู่อาศัยตามซอยแยกจากถนนสีลม ธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ หลายแห่ง โรงเรียนอีก 3-4 โรงเรียน อาทิ กรุงเทพคริสเตียน อัสสัมชัญ ผดุงดรุณี เซนต์โยเซฟคอนแวนต์ มีผู้ปกครองนักเรียนอยู่จำนวนไม่น้อยกว่า 12,000 ราย ที่จะต้องขับรถไปรับส่งลูกหลานตามโรงเรียนเหล่านี้

ถ้าจะประมาณการผลกระทบที่มีต่อหน่วยงานธุรกิจในย่านสีลมแล้ว ก็คงจะเป็นร้อยล้านบาท หรืออาจจะเป็นพันล้านบาทก็ได้ ถ้าความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้ยืนยงคงกระพันไปเป็นระยะเวลาเนิ่นนานเกินไป

แล้วจะต้องขุดถนนสีลมหาเรื่องยุ่งยากกันทำไม?

ร้านค้า หน่วยงานธุรกิจ ธนาคาร โรงเรียน โรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้า อาคารชุดคอนโดมิเนียม ทั้งเพื่อการธุรกิจ และอยู่อาศัย สถานเริงรมย์ หรือแม้กระทั่งอาบอบนวด บาร์อโกโก้ บาร์เกย์ ประดังกันเข้ามาอยู่อย่างพร้อมสรรพบนสองฟากถนนสีลม ถนนที่มีความยาวเพียง 2 กิโลเมตรกว่าๆ

ความเจริญของถนนสีลมนั้นไม่ได้เป็นไปตามแผนของใคร ไม่ได้จัดให้เป็นเช่นนี้เพราะเป็นไปตามแผนผังเมือง ของกรุงเทพมหานคร และก็ไม่ได้มีการกล่าวถึงในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับไหนๆ แม้กระทั่งฉบับที่กำลังร่างกันอยู่ในปัจจุบัน (2530-2534)

แต่ถนนสีลมก็เป็นแหล่งเศรษฐกิจ ประเภทจับฉ่าย ที่ใหญ่โตที่สุดของประเทศไทย มีบางคนถึงกับเปรียบเทียบว่าเหมือนกับ "ถนนวอลสตรีท" ของนิวยอร์ก ไปโลด

การขุดถนนสีลมนั้น เริ่มมีเบาะแสจากการที่การไฟฟ้านครหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลการบริการด้านการไฟฟ้าให้ทั่วถึงแก่กรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงคือ นนทบุรีและสมุทรปราการ ได้วางเป็นโครงการย่อยๆ ไว้ว่า จะทำการปรับปรุงระบบจ่ายไฟฟ้าในถนนสีลม ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มการบริการด้านไฟฟ้าให้กับกิจการต่างๆ ที่รวมกันอยู่อย่างหนาแน่นหลายประเภทดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น

ถ้าจะพูดกันอย่างเป็นหลักวิชาการแล้ว ก็คงจะต้องพูดว่า การไฟฟ้านครหลวงได้เกิดเล็งเห็นว่า ถนนสีลมนี้มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ในอัตราที่รวดเร็วมาก ในระยะขวบปีที่ผ่านมา และก็สามารถพยากรณ์ได้ว่า ยังจะต้องเพิ่มขึ้นในอัตราสูงไปอีกหลายๆ ปี โดยภายในอีก 10 ปีข้างหน้าก็เป็นที่เชื่อกันว่าความต้องการพลังไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าของการใช้ไฟฟ้าในปัจจุบัน

เพราะฉะนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้เป็นชนิดที่ส่งไปบนเสาริมถนน แล้วใช้สายพาดไปโดยให้มีระยะห่างจากผู้คนและทรัพย์สินต่างๆ เพื่อความปลอดภัย ด้วยความสูงของเสาไฟฟ้านั่นเอง

แต่ระบบนี้จะไม่พอเพียงอีกต่อไป !

เส้นทางที่จะปักเสาเดินสายไฟฟ้าเพิ่มก็ไม่มีแล้ว !!

จึงจะต้องเพิ่มด้วยวิธีอื่น ที่สามารถป้อนพลังไฟฟ้าได้มากกว่าด้วย นั่นก็ประการหนึ่ง

อีกประการหนึ่ง ยามเมื่อเกิดฝนฟ้าคะนองนั้นระบบที่เป็นอยู่นี้ก็มักจะถูกรบกวน ไฟฟ้าดับบ้าง ทั้งช่วงสั้นๆ และช่วงยาวๆ พูดกันง่ายๆ ก็คือคุณภาพของการบริการยังไม่อยู่ในระดับที่ดีเยี่ยมพอ เมื่อต้องคำนึงถึงว่าถนนสีลมมีอาคารสูงที่ใช้ลิฟต์กันจำนวนมาก มีธุรกิจและกิจกรรมมากมายที่ต้องการไฟฟ้าที่ดีเยี่ยมเกือบตลอดเวลาตลอดวัน ทั้ง 24 ชั่วโมง

สิ่งนี้ก็เป็นความจำเป็นที่การไฟฟ้านครหลวงจะต้องจัดระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้าเสียใหม่ ให้มีการยกระดับคุณภาพขึ้น

และระบบใหม่ที่ว่านี้ก็คือ การวางสายไฟฟ้าใต้ดิน

การขุดถนนสีลมจึงเป็นเรื่องที่จะต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา

สำหรับคนกรุงเทพฯ และโดยเฉพาะตำรวจจราจรแล้ว เรื่องที่น่าเบื่อหน่ายอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวันก็เห็นจะมีเรื่อง กิจกรรมของ "ลูกอีช่างขุด" เป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง ซึ่งบรรดา "ลูกอีช่างขุด" เหล่านี้ก็เช่น การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง (ผู้แสดงนำในเรื่อง ลาดพร้าวระทม) องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย สำนักระบายน้ำ-กทม.

ขุดแล้วกลบ พอกลบแล้วก็ขุดกันอีก อย่างนี้เรื่อยไปเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ไม่เลือกฤดูกาล ชาวกรุงเทพฯ จึงเดือดร้อนกันจนเคยชินมาก

ก่อนปี 2528 นี้ กทม.เองก็ได้เคยพยายามที่จะเป็นสื่อกลางเพื่อลดปรากฏการณ์เหล่านี้ลง แต่ดูเหมือนว่า กทม.ก็ทำได้ไม่มากนักเพราะยังขาดอำนาจและเครื่องมือ โดยเฉพาะ เมื่อหน่วยงานที่จะต้องขุดเกิดอ้างว่า ถ้าไม่ขุดประชาชนจะขาดบริการ กลายเป็นปัญหาน้ำท่วมปากไป

อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ใช่กรณีถนนสีลม

การไฟฟ้านครหลวงในฐานะตัวตั้งตัวตี ก็มีความเห็นว่าเรื่อง "ลูกอีช่างขุด" จะต้องไม่เกิดที่ถนนสีลม เพราะได้เคยใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะทำงานร่วมกับสาธารณูปโภคอื่นๆ มาแล้วที่ถนนสีลมนี้เอง

เมื่อปี 2526 ซึ่งเป็นปีที่กรุงเทพฯ ถูกฝนกระหน่ำอย่างหนักนั้น ทาง กทม. โดยสำนักระบายน้ำได้ทำการขุดถนนสีลมฝั่งใต้ตั้งแต่ซอยประมวลถึงถนนสุรศักดิ์เชื่อมต่อไปจรดถนนสาทรเหนือ

การไฟฟ้านครหลวงรู้เรื่องการขุดทำท่อระบายน้ำนี้ภายหลังเมื่อได้มีการทำสัญญาจ้างงานไปแล้ว 5 วัน แต่ก็ได้พยายามขอเข้าไปทำการวางท่อร้อยสายไฟฟ้าไปพร้อมๆ กัน ก็เป็นผลสำเร็จแม้จะพบอุปสรรคมากมาย

ดังนั้น ในคราวนี้การไฟฟ้านครหลวงผู้จะต้องลงมือขุดครั้งใหม่ จึงได้เรียกร้องติดต่อสาธารณูปโภคอื่นๆ ให้เข้ามาร่วมงานเพื่อจะได้ขุดกันเพียงครั้งเดียว และถ้าจะต้องขุดกันอีกก็คงไม่ใช่ระยะใกล้ๆ นี้

ก็เป็นที่น่ายินดี เหมือนถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง เพราะทุกอย่างลงเอยได้ด้วยดีในที่สุด

ก่อนปี 2528 นี้ มีคณะกรรมการประสานงานกันหลายหน่วยงานหลายเหล่า ก็ประสานกันบ้างขัดกันบ้าง หน้าที่และขอบเขตงานไม่ชัดเจนบ้าง งานก็เลยไม่ขยับเขยื้อนกลายเป็นอัมพาตไป ซึ่งอาการเช่นนี้คงจะปรากฏแน่ชัดกับสายตาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอกสิทธิ จิรโรจน์

พลเอกสิทธิ จิรโรจน์ ได้เข้าแก้ไขโรคอัมพาตนี้ เมื่อประมาณต้นๆ ปี 2528 โดยสั่งยกเลิกกรรมการประสานงานที่ประสานงานทุกชุด แล้วก็จัดวางหน้าที่และขอบเขตตามลักษณะงานขึ้น เช่น ระดับประสานแผนและนโยบาย ระดับประสานโครงการ กับระดับประสานการปฏิบัติงานและควบคุมงานหรือหน่วยเฉพาะกิจสำหรับงานที่จะสร้างปัญหาโดยเฉพาะ ทั้งยังได้แบ่งให้ขาดจากกันระหว่างเมืองกับต่างจังหวัด หรือพูดกันง่ายๆ ก็คือ แบ่งหน้าที่และขอบเขตกันให้ชัดเจน จะได้ไม่ต้องมาถกเถียงกันให้มากความ

และผลที่ติดตามมาก็คือได้เกิดคณะทำงานขึ้นมาคณะหนึ่ง มี รมช.มหาดไทย โอภาส พลศิลป์ เป็นผู้สั่งการให้จัดตั้งขึ้น เรียกว่าคณะทำงานศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างสาธารณูปโภครวมและอุโมงค์รวม โดยให้ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง-อำนวย อุดมศิลป์ เป็นประธานคณะทำงาน

คณะทำงานชุดนี้เองที่ได้ใช้โอกาสพบปะปรึกษากัน เกี่ยวกับเรื่องการขุดถนนสีลม

จากความร่วมมือที่ดีของคณะกรรมการ การขุดพร้อมกันครั้งเดียวสำหรับถนนสีลมก็เลยสำเร็จได้อย่างน่ายินดี

ก็เป็นความหวังว่าสำหรับถนนอื่นๆ น่าจะมีการทำอย่างที่เกิดกับถนนสีลมนี้บ้าง เรื่องของ "ลูกอีช่างขุด" จะได้ปิดฉากไปเสียที

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us