การบริหารจัดการของศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ ห้างท้องถิ่นในจังหวัดอุดรธานีกำลังไปได้ดี แต่ปีนี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าจะยั่งยืนหรือไม่ หลังจากยักษ์ใหญ่เซ็นทรัลจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม

จากการเดินทางล่าสุดเข้าสู่จังหวัดอุดรธานี ภาพการก่อสร้างห้างเซ็นทรัล พลาซ่า อุดรธานี กำลังก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง อย่างรวดเร็ว หลังจากระยะเวลาผ่านไป 1 ปี ซึ่งธนกร วีรชาติยานุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ต้องลุ้นระทึก และตระหนักดีว่าปีนี้จะเป็นตัวชี้วัดอนาคต ของยูดี ทาวน์

ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผุดศูนย์การ ค้ายูดี ทาวน์ ธนกรต้องดูแลและฟูมฟักธุรกิจอย่างใกล้ชิดเปรียบเสมือนต้องอนุบาล อย่างต่อเนื่องและมองหาสิ่งใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม ล่าสุดอยู่ระหว่างก่อสร้างโซนใหม่ ขึ้นมา เรียกว่า The Park เน้นความเป็นสีเขียว ตกแต่งสวน โดยในพื้นที่ส่วนนี้จะมีร้านไวน์ ร้านอาหาร ete’ ice-cream & Bistro รวมถึงร้านค้าแบรนด์แฟชั่นเข้ามาเปิดให้บริการ และตามแผนดำเนินการโซนใหม่จะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคมนี้

ด้วยแนวคิดศูนย์การค้าแนวราบที่มีความสูงไม่เกิน 3 ชั้น มีพื้นที่โปร่ง ลานกิจกรรม สามารถเข้ามาจอดรถได้สะดวกสบาย ทำให้เชื่อว่าเป็นจุดขายและแตกต่าง

ยูดี ทาวน์นำเสนอแนวคิดดังกล่าวเพื่อชักชวนพันธมิตรรายใหม่ๆ ให้เข้ามาเปิดบริการ เหมือนดังเช่นบริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด หนึ่งผู้ให้บริการไอ สตูดิโอ ผู้จำหน่ายสินค้าไอทีและแอปเปิลได้ตัดสินใจ เข้ามาเปิดให้บริการ คาดว่าจะใช้งบลงทุน 20 ล้านบาทตกแต่งร้าน 2 ชั้น พื้นที่ 200 กว่าตารางเมตร

“ต้นปี 2554 ผมมาเยี่ยมชมยูดี ทาวน์ เซอร์ไพรส์กับการดีไซน์ศูนย์การค้า ถือว่าทำได้ดีมาก หลังจากที่บริษัทได้เปิดสาขาแรกในต่างจังหวัดที่เชียงราย ก็เลือกอุดรธานีเป็นแห่งที่ 2 ซึ่งเรามองว่าจะเป็นแลนด์มาร์คของอีสาน และเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ” ปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอปเปอร์ไวร์ด จำกัด และยูดี ทาวน์คาดหวัง ว่าร้านไอ สตูดิโอ จะเป็นอีกหนึ่งในร้านค้าที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ

ในขณะที่บริษัท เอเต้ จำกัด เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นอีกหนึ่งในผู้ค้าที่เลือกมาเปิดร้านอาหารและไอศกรีมแบรนด์เอเต้แห่งแรกในภาคอีสาน ซึ่งร้านจะอยู่ชั้น 1 ติดลานน้ำพุและสวน เหมาะกับ กลุ่มลูกค้าครอบครัว

แต่ผู้ค้าทั้งสองรายคือ ร้านเอเต้ และบริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด ก็ไม่ทิ้งโอกาสที่จะเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า อุดรธานี เช่นเดียวกัน ซึ่งร้านเอเต้อาจจำหน่ายสินค้า แตกต่าง โดยขายไอศกรีมในเซ็นทรัล เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านพื้นที่

จึงเห็นได้ว่าแนวทางการดึงพันธมิตรเข้ามาร่วมทำธุรกิจของยูดี ทาวน์ ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะประสบการณ์ของศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ที่น้อยกว่า บวกกับเป็นคนท้องถิ่น ทำให้การ ยอมรับ โดยเฉพาะแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเข้ามาร่วมนั้นต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

ห้วงเวลาความท้าทายของยูดี ทาวน์ จึงมีอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเลือกทุก หนทางเพื่อสร้างโอกาส เริ่มตั้งแต่ชักชวนร้านค้าใหม่ๆ เข้ามาแม้ไม่มีสายสัมพันธ์มาก่อน โดยชักชวนให้เข้ามาเยี่ยมชมและสัมผัสบรรยากาศ

ทว่าพันธมิตรบางรายก็ใช้ความสัมพันธ์คนท้องถิ่นชักชวนให้มาเปิดร้าน เหมือนดังเช่น ร้าน Wine Society แม้กระทั่งความสัมพันธ์ส่วนตัว อย่างเช่น ตัน ภาสกรนที นำโออิชิ เอ็กซ์เพรส ชาบูชิ และราเมน มาเปิดตัวตั้งแต่เริ่มต้นเปิดศูนย์การค้า หลังจากนั้นได้เปิดร้าน melt me เพิ่มเติม

พื้นที่ 25 ไร่ได้เปิดให้เช่าไปแล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ อีก 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นส่วนพื้นที่สร้างใหม่ The Park และโซน The Next ที่เน้นสุขภาพและความบันเทิง จากเดิมที่แบ่งโซนหลักออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกยูดี ทาวน์ และยูดี บาร์ซาร์ โดยยูดี ทาวน์จะเน้นร้านค้าเสื้อผ้า อาหาร ที่มีชื่อเสียง ส่วนยูดี บาร์ซาร์จะเน้นอาหารท้องถิ่น และร้านเช่าเสื้อผ้าแฟชั่นให้กับผู้ค้าท้องถิ่น

ศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ต้องใช้เวลากว่า 2 ปี เพื่อเพิ่มร้านค้าให้ครบสมบูรณ์ แต่ความสมบูรณ์ไม่ได้บ่งบอกความสำเร็จของศูนย์การค้า เพราะยังต้องเติมเต็มในส่วนของกิจกรรมที่ต้องสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างศูนย์การค้าให้มีชีวิตชีวา

โอรสสา ฤทธิกาญจน์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายกิจกรรมการตลาด บริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด กล่าวว่าปีนี้จะมีกิจกรรมตลอดทั้ง 12 เดือน ทั้งหมด 150 กิจกรรม ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วครึ่งหนึ่ง โดยกิจกรรมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก Big Event เช่น กิจกรรมสงกรานต์ เทศกาลคริสต์มาสและงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยเฉพาะงานสงกรานต์และต้อนรับปีใหม่ ใช้งบรวมกันประมาณ 30 ล้านบาท จากงบทั้งหมด 50 ล้านบาท และมีสปอนเซอร์ หลัก 3 ราย คือ สินค้าตราช้าง บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด และรถยามาฮ่า

กิจกรรมที่สอง Seasonal Event เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นตามโอกาสต่างๆ เช่น ตรุษจีน วาเลนไทน์ วันแม่ ฮาโลวีน ลอยกระทง เป็นต้น

โอรสสากล่าวว่า นอกจากกิจกรรมหลักที่มีประจำอยู่แล้วจะต้องสร้างกิจกรรม ใหม่ๆ ขึ้นมาเพิ่มเติม โดยเฉพาะกิจกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น การแสดงประเพณีไทย-ลาว จัดในเดือนมิถุนายน งานฉลองครบรอบคลื่นวิทยุท้องถิ่น Kiss FM และร่วมมือกับแม็กซ์ม่า เทเลวิชั่น เคเบิลท้องถิ่น จัดประกวดวงดนตรีเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี 3 จังหวัด อุดรธานี โคราช และขอนแก่น และงานใหญ่ที่คาดว่าจะทำคือการแข่งขันประกวดเต้น B boy ระดับประเทศ เพื่อส่งไปแข่งในระดับเอเชีย

แม้ว่าศูนย์การค้ายูดี ทาวน์จะมีค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมต่างๆ แต่ก็มีรายได้จากการจัดกิจกรรมเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ เช่น รถหรูจากต่างประเทศ รวมทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค และแฟชั่นใหม่ๆ

การจัดกิจกรรมมากมายที่ผ่านมา ทำให้ศูนย์การค้าได้เรียนรู้หลายอย่าง เช่น กิจกรรมที่ไม่ควรจัด เช่น ตรุษจีน เพราะจังหวัดอุดรธานีจะมีงานประจำจังหวัดที่จัดงานค่อนข้างใหญ่ และเป็นจังหวัดที่มีกิจกรรมค่อนข้างมาก

การบริหารศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ที่ ธนกรในฐานะผู้บริหารสูงสุดพยายามตอก ย้ำให้เห็นว่าเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมแห่งอินโดจีน มีลูกค้าหลากหลาย แบ่งเป็นคนอุดรธานีร้อยละ 70 ส่วนที่เหลือ เป็นลูกค้าจากจังหวัดใกล้เคียง กรุงเทพฯ และ สปป.ลาว โดยเฉพาะลูกค้า สปป.ลาว จะเข้ามารับประทานอาหาร เพราะใช้เวลา เดินทางเพียง 1 ชั่วโมง

ปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น 15,000-20,000 คนต่อวัน ใช้จ่ายต่อคน 500-1000 บาท ร้านค้ามีรายได้เติบโตร้อยละ 30-50 ทำให้บริษัทมีรายได้ประมาณ 150 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 30 แบ่งเป็นค่าเช่าบริการร้อยละ 87 และค่าเช่าพื้นที่จัดกิจกรรมร้อยละ 13

รายได้ที่เติบโตขึ้นทุกปี ทำให้ธนกรมั่นใจว่าศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ได้เดินมาถูกทางแล้ว แต่เขายอมรับว่า “กลัว” เซ็นทรัล เพราะถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่ธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่ไม่ได้เติบโตในเมืองไทยเท่านั้น และปีนี้ก็จะเป็นการชี้ชะตาว่ายูดี ทาวน์จะอยู่ได้อย่างมั่นคงแข็งแรงหรือไม่