ผู้ค้าไทยเลือกอาลีบาบาให้เป็นอีกช่องทางหนึ่งเพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ซื้อและผู้ขายพบกัน เหมือนดังผู้ค้าผลไม้ไทย และเครื่องประดับยอมรับว่าได้คอนเนกชั่น

อิศราภรณ์ ปิ่นสิริณัฎฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท รัฐาปณี จิวเวลเลอรี่ จำกัด ธุรกิจครอบครัว ผู้ผลิตและจำหน่ายอัญมณีและเครื่องประดับ มีประสบการณ์ 50 ปี เล่าว่าได้ใช้บริการอาลีบาบาเมื่อ 5-6 ปีก่อนจากที่เพื่อนแนะนำ เพื่อเป็นช่องทางใหม่เพิ่มเติมในการขายสินค้า จากปัจจุบันมีร้านค้าเปิดขายอยู่แล้ว

บริษัทมองว่าสินค้าเครื่องประดับเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ดังนั้นการนำสินค้าไปขายบนออนไลน์ จะช่วยมองหากลุ่มเป้าหมายโดยตรง และคาดหวังเพิ่มยอดจำหน่ายมากขึ้น บริษัทจึงสมัครเป็นสมาชิก Gold Supplier ของอาลีบาบา โดยต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 7-8 หมื่นบาทต่อปี

ในฐานะสมาชิก Gold อาลีบาบาจะสร้างเว็บไซต์ ตกแต่งหน้าร้าน นำภาพสินค้าขึ้นไปแนะนำในเว็บไซต์ของอาลีบาบา เช่น แหวน ตุ้มหู สร้อยคอ เข็มกลัด รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับบริษัททั้งหมด และอาลีบาบาจะคัดเลือกผู้ค้า (ซัปพลายเออร์) ที่เหมาะสมเข้ามาเพื่อเจรจาธุรกิจร่วมกัน

แม้ว่าเธอจะไม่เคยเดินทางไปเยือนอาลีบาบาที่หางโจว หรือฮ่องกง แต่จะมีพนักงานติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่อง ผ่านอีเมล เฟซบุ๊ก เพื่อให้คำปรึกษา

ผลจากการใช้บริการผ่านอาลีบาบา ทำให้บริษัทมีผู้ค้ามาร่วมทำธุรกิจด้วยปีละ 3 ราย ซึ่งบริษัทค่อนข้างพอใจ นอกจากนั้นจะมีผู้ค้าทั่วไปเข้ามาซื้อ ซึ่งผู้ค้าและผู้ซื้อหลักส่วนใหญ่จะเป็นสหรัฐอเมริกา และจีน ส่วนราคาจำหน่ายเริ่มตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาทไปจนถึง 1 ล้านบาท

“เป้าหมายการใช้บริการผ่านอาลีบาบา ต้องการสร้างคอนเนกชั่นเป็นหลัก ถือว่าค่อนข้างพอใจ เพราะหลังจากใช้บริการทำให้บริษัทมีรายได้ผ่านออนไลน์ร้อยละ 20 และขายผ่านหน้าร้านร้อยละ 80” อิศราภรณ์กล่าว

แม้ว่าก่อนหน้านี้จะไม่มั่นใจประวัติของผู้ค้าด้วยกัน แต่อาลีบาบาจะมีกระบวนการตรวจสอบก่อนรับผู้ค้าเป็นสมาชิก เหมือนเช่นบริษัทก็ได้รับการตรวจสอบจากอาลีบาบาในออสเตรเลีย เพื่อตรวจสอบสถานะบริษัท สินค้า และบริการว่ามีอยู่จริง

นอกจากมีหน้าร้านอยู่ในเว็บไซต์ของอาลีบาบาแล้ว บริษัทก็มีเว็บไซต์ www.rtpjewelry.com เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการทำการค้าบนออนไลน์

นอกจากใช้ช่องทางผ่านอาลีบาบาแล้ว บริษัทยังเคยใช้บริการผ่าน Google Ad word เป็นระยะเวลา 1 ปี แต่ต้องยกเลิกไปเพราะมีคู่แข่งปลอมเข้ามาเพื่อเช็กราคาสินค้า

ส่วนธนิสร อึ้งภากรณ์ ประธาน บริษัท Nang Inter จำกัด www.fresh fruitthailand.com เริ่มต้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซด้วยการจำหน่ายผลไม้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เพราะไม่มีการสั่งซื้อ หลังจากนั้นหันไปร่วมมือกับกรมส่งเสริมการส่งออก เพื่อช่วยเหลือในการจัดหาผู้ซื้อ แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ

จนกระทั่งรู้จักอาลีบาบาและสมัครเป็นสมาชิกโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นำสินค้าไปเปิดหน้าร้านในอาลีบาบา แนะนำ สินค้าคุณภาพ และเงื่อนไข ในช่วงแรกๆ ลูกค้าติดต่อจำนวนมากแต่ไม่ซื้อของ พนักงานอาลีบาบาได้เข้ามาติดต่อบ่อยมากขึ้น และแนะนำให้สมัครเป็นสมาชิก Gold Supplier หลังจากบริษัทเริ่มจ่ายค่าสมาชิก 7-8 หมื่นบาทต่อปี การทำธุรกิจเริ่มจริงจังมากขึ้น อาลีบาบาจะทำหน้าที่รับรองสถานะของผู้ค้าที่เข้ามาร่วมทำธุรกิจว่ามีความน่าเชื่อถือ ผลไม้ที่บริษัทจำหน่ายหลักๆ เช่น สับปะรด ลิ้นจี่ มะม่วง มะขาม กล้วยหอม ชมพู่ ทุเรียน เป็นต้น สินค้าที่จำหน่ายเป็นสินค้าเกรดเอ

ลูกค้าจะมีคำสั่งซื้อทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 ราย ยอมรับว่ายอดสั่งซื้อค่อนข้างดี โดยเน้นส่งออกไปประเทศในตะวันออกกลาง ลูกค้าจะชอบซื้อสับปะรด เพราะมีรสหวาน เป็นผลไม้ที่อยู่ได้นานในประเทศทะเลทราย นอกจากนี้ยังมีลูกค้าจากจีน ฮ่องกง อินเดีย อิตาลี อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และในภูมิภาคยุโรป

“ยอดการสั่งซื้อของเราเติบโตอย่างน่าพอใจ แม้ว่าเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา หรือยุโรปจะไม่ค่อยดี แต่ผลไม้ไม่ได้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย”

ธนิสรเล่าถึงกระบวนการซื้อสินค้าจนถึงการชำระเงินว่า บริษัทจะดูแลทั้งหมด ลูกค้าต้องสั่งซื้อสินค้า และส่งเงินมาก่อน บริษัทจึงจะจัดส่งสินค้าให้ทีหลัง ส่วนหน้าที่ของอาลีบาบาเปรียบเหมือนเป็นหน้าร้านบนออนไลน์ จัดวางสินค้า และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าเท่านั้น ความแตกต่างของสมาชิกฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และสมาชิก Gold คือการให้คำปรึกษา ซึ่งโกลด์จะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้ปัจจุบันซื้อ-ขายสินค้าผ่านออนไลน์หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์

การทำธุรกิจของอาลีบาบาที่จะเพิ่มรายได้ก็คือการพัฒนาสมาชิกให้ไปสู่ระดับโกลด์ เพื่อจะมีรายได้จากค่าธรรมเนียม ปัจจุบันมีสมาชิกโกลด์ทั่วโลก 990,000 ราย การใช้บริการของผู้ประกอบไทยภายใต้บริการของอาลีบาบา หรือผู้ให้บริการออนไลน์อื่นๆ ได้แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศมีโอกาสเติบโต โดยเฉพาะช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยได้ทำการค้าในต้นทุนต่ำ