|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์อุตสาหกรรมการค้าของเวียดนามได้นำเสนอรายงานชิ้นหนึ่ง เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
รายงานดังกล่าวระบุว่าในช่วงกว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา มีชาวเวียดนามเกือบ 200 คนได้ไปยังสถานกงสุลใหญ่พม่าประจำนครโฮจิมินห์เพื่อขอวีซ่า ในจำนวนนั้น กลุ่มคนที่น่าสนใจล้วนเป็นนักธุรกิจที่กำลังแสวงหาโอกาสไปค้าขายกับพม่า
ตัวเลขดังกล่าวเปรียบเทียบกับในปี 2554 ที่เฉลี่ยแต่ละเดือนมีชาวเวียดนามเพียงประมาณ 50-60 คนเท่านั้น ที่ได้ไปยังสถานกงสุลพม่าเพื่อขอวีซ่าเข้าพม่า
ด่าม ตรุง บั๊ก กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ของพม่าประจำนครโฮจิมินห์ ได้กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า จำนวนนักธุรกิจที่มายังสถานกงสุลใหญ่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ในนั้นไม่เพียงมีนักธุรกิจชาวเวียดนาม แต่ยังมีทั้งนักธุรกิจชาวต่างประเทศที่อยู่ในเวียดนาม ก็สนใจแวะมาไต่ถามเกี่ยวกับตลาดพม่า อาทิ กลุ่ม Daewoo จากเกาหลี ที่ต้องการเข้าไปลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงบรรดาสถานประกอบการจากญี่ปุ่นก็แสดงความสนใจ ตั้งแต่ต้นปี 2555 ในระยะเวลา 1 เดือนกับอีก 10 กว่าวันที่ผ่านมามีนักธุรกิจเกือบ 200 คน มาขอวีซ่าเพื่อเข้าพม่า ในนั้นจำนวนคนที่ไปด้วยจุดประสงค์ท่องเที่ยวและการค้าคิดเป็น 80% ส่วนที่เหลือเป็นการเดินทางเพื่อวัตถุประสงค์ทางศาสนา และการทูต
กงสุลใหญ่พม่าประจำนครโฮจิมินห์บอกว่าเนื่องจากปริมาณคนขอวีซ่าเพื่อเข้าพม่าเพิ่มขึ้นมากดังกล่าว ส่งผลให้เวลาในการพิจารณาอนุมัติวีซ่าจึงยืดเยื้อถึง 10-12 วัน แทนที่จะเป็น 7 วันเหมือนเมื่อก่อนนี้
โดยปกตินักธุรกิจที่ขออนุมัติวีซ่าเข้าพม่าเพื่อการท่องเที่ยวมีมากกว่าวีซ่าเพื่อการค้า เพราะการทำเรื่องขอวีซ่าเพื่อการค้ามีความซับซ้อนกว่า โดยต้องมีเอกสารบางอย่างประกอบ เช่นหนังสือเชิญของคู่ค้าเป็นต้น
ด่าม ตรุง บั๊กกล่าวว่า เมื่อถามถึงวัตถุประสงค์ นักธุรกิจเวียดนามได้ให้คำตอบที่แสดงความสนใจในการลงทุนในตลาดพม่า
ก่อนอื่นสถานประกอบการหลายแห่งสนใจการค้าที่สำคัญคือการนำเข้าผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากพม่า เช่น ไม้ของป่า สินแร่ สัตว์น้ำ
ด้านการส่งออกก็มีบริษัท Robot ที่ต้องการนำหม้อ แปลงไฟฟ้าของเวียดนามเข้าไปจำหน่ายในพม่า เขาบอกว่า วงการธุรกิจเวียดนามไม่เข้มแข็งและมีพลังเท่าประเทศอื่นๆ เพราะฉะนั้นนักธุรกิจเวียดนามจึงเพิ่งเริ่มตื่นตัวในการเข้าไปในพม่า ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ได้เข้าไปลงทุนในพม่ามานานแล้ว
อย่างไรก็ดี เขาพยากรณ์ว่าปีนี้อาจจะมีการเปลี่ยน แปลงทางบวกเกี่ยวกับสถานประกอบการเวียดนามที่ต้องการเข้าสู่ตลาดพม่า
ปัจจุบันพม่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เปรียบเทียบกับเวลาก่อนมีการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 นับถึงเวลานี้ พม่าได้บังคับใช้กฎหมาย 18 ฉบับ คาดว่าเร็วที่สุดคือในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ที่พม่าจะผ่านกฎหมายแก้ไขเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการลงทุนและดึงดูดการลงทุนต่างประเทศ ด้วยเนื้อหาเปิดเผยชัดเจน เช่น ยกเว้นภาษี 8 ปีให้แก่สถานประกอบการที่เข้าไปลงทุนโดยตรง
นอกจากนี้พม่าจะจัดการเลือกตั้งซ่อมเพิ่มจำนวนผู้แทนในรัฐสภา ในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ และอองซาน ซูจี (แกนนำฝ่ายค้าน) จะเข้าร่วมการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย
|
|
|
|
|