Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2528








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2528
สะพานใหม่ดอนเมืองหลังจากขาด "ชม้อย" ทุกคนหงอยเหงาและซึมเซาไปหมด             
 

   
related stories

ชม้อย ทิพย์โส วีรสตรีหรือซาตานกันแน่!

   
search resources

ชม้อย ทิพย์โส
Financing




สะพานใหม่ดอนเมืองเป็นแหล่งชุมชนชานเมืองที่คึกคักพอๆ กับย่านสะพานควายหรือบางแค เพราะอย่างที่รู้ๆ ว่าอยู่ติดกับอาณาเขตของทหารอากาศที่เป็นลูกแชร์รายใหญ่ของชม้อย ย่านนี้จึงมีทหารอากาศเดินกันขวักไขว่ไปหมด

ว่ากันว่าแต่เดิมนั้น จากย่านสะพานใหม่เลยไปถึงหลักกิโลเมตรที่ 25 การเงินเดินสะพัดมาก ที่นี่มีทุกอย่างสำหรับคนที่อยากใช้เงิน ตั้งแต่ร้านทอง 6-7 ร้าน ร้านเครื่องไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 5 แห่ง ธนาคาร 3 แห่ง โรงภาพยนตร์ 3 โรง ร้านอาหารนับไม่ถ้วน ร้านเสื้อผ้า รองเท้า ตลอดจนแผงลอยแน่นไปหมด

"เมื่อก่อนที่นี่เงินสะพัดมากแบงก์ร้อยแทบจะไม่เคยเห็นใช้กันเลย มีแต่ควักแบงก์ห้าร้อยซื้อขายกัน พวกทหารอากาศยศน้อยๆ เวลาซื้อของทีก็ยังควักเงินออกมาปึกใหญ่เลย ริมถนนมีแต่รถเก๋งป้ายแดงจอดกันแน่นไปหมด" แม่ค้าแผงลอยแถวนั้นเล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟัง

แต่…..สะพานใหม่วันนี้หลังจากไม่มีแม่ชม้อยแล้วก็เงียบเหงาซบเซาลงไปมาก เหมือนคนเป็นโรคเอดส์ที่รอวันหมดลม

แต่ที่ยังไม่หมดลมไปเลยทีเดียว เพราะแชร์ชม้อยเพิ่งจะล้มมาได้ไม่กี่เดือน เงินเก่ายังพอมีหมุนเวียนกันอยู่บ้าง ถ้ายิ่งนานไปกว่านี้พิษแชร์จะยิ่งสำแดงฤทธิ์เดชมากขึ้น ซึ่งชาวสะพานใหม่ทั้งหลายปลงสังขารเอาไว้แล้วว่าถ้าปลายปี 28 นี้ เศรษฐกิจโดยทั่วไปไม่ดีขึ้น สะพานใหม่อาจจะตายสนิทก็ได้ เพราะแต่ละร้านหลวมตัวไปลงแชร์ไว้ไม่ต่ำกว่า 10 คันรถ

"ที่เห็นๆ หลังจากแชร์พี่ชม้อยล้มแล้วก็ยังไม่มีร้านไหนในย่านสะพานใหม่กล้าปิดกิจการเลย ไม่ใช่อะไรหรอกเจ๊งน่ะเจ๊งแน่ แต่เพราะอายกันเองเลยยอมทนขายกันไป" ชาวสะพานใหม่คนหนึ่งแฉให้ "ผู้จัดการ" ทราบ

แต่ก่อนนั้น ร้านขายของแต่ละร้านมีคนเดินเข้าออกตลอดเวลา เพราะคนที่สะพานใหม่ไม่รู้จักคำว่าต้นเดือนปลายเดือนเป็นอย่างไร? ทุกคนมีเงินใช้ตลอดทั้งเดือน เจ้าของร้านค้าก็พลอยเซ็งลี้ฮ้อไปด้วย เมื่อขายของได้เงินมาเท่าไหร่ก็เอาไปลงกับแชร์อีก ดังนั้นเมื่อสิ้นบุญชม้อยแล้ว การค้าแถวนี้จึงตกไปกว่า 50%

โดยเฉพาะร้านอาหารในย่านสะพานใหม่แล้ว เมื่อหลายปีก่อนไม่ว่า "เชลล์" หรือ "ช้อย" ก็ดาหน้ากันมาจับจองพื้นที่สองฟากถนนเพื่อโกยเงินจากลูกแชร์กันทั้งนั้น ในยามค่ำคืน สะพานใหม่ไม่เคยหลับใหล เพราะสองฝั่งของถนนจะสว่างไสวไปด้วยแสงไฟจากร้านอาหารที่คอยเชิญชวนบรรดาลูกทัพฟ้า ให้แวะมาเยือนกันตลอดคืน แต่มาบัดนี้ร้านอาหารแต่ละแห่งได้แต่นั่งตบยุงคอยชะแง้หาลูกค้าที่พร้อมใจกันหายหน้ากันไปหมด และคงไม่นานเกินรอ ก่อนสิ้นปีนี้ก็คงจะต้องม้วนเสื่อเลิกกิจการกันไปแน่

ธุรกิจบ้านจัดสรรในย่านสะพานใหม่ก็โดนสะเก็ดแชร์ชม้อยอย่างจังเหมือนกัน โครงการทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม ที่ผุดกันขึ้นเรียงรายอยู่บนถนน ตั้งแต่ยังไม่ถึงสะพานใหม่จนเลยไปถึง กม. 25 เพื่อสนองความต้องการของลูกแชร์ทั้งหลาย ที่มีเงินเหลือใช้และต้องการความมั่นคงในชีวิต ก็กำลังเกือบจะถึงเฮือกสุดท้ายอยู่แล้ว เพราะเมื่อไม่มีชม้อยก็ไม่มีเงินมาส่งบ้านกัน ซ้ำร้ายเงินที่ส่งกันมางวดก่อนๆ ก็ถูกยึด ตอนนี้สภาพบ้านจัดสรรนั้นมีแต่นอนรอความตายลูกเดียว !

แม้แต่บ้านและอาหารซึ่งเป็นปัจจัย 4 ของมนุษย์ยังแทบจะอยู่ไม่รอดกันแล้ว ธุรกิจอื่นๆ ก็พลอยเหงาหงอยตามไปด้วย คนก็ยังพอมีเดินกันบ้าง แต่ไม่เข้าร้านอาหารหรือร้านทองกันแล้ว เดี๋ยวนี้ต้องลดรสนิยมลงมากินข้าวแกงกัน เปลี่ยนมาดูโทรทัศน์ขาวดำแทนโทรทัศน์สี ฯลฯ

ตอนนี้ถ้าใครไปชวนชาวสะพานใหม่คุยเรื่องพี่ชม้อยของพวกเขา ก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "อย่าพูดเลย พูดแล้วมันเศร้าหัวใจ"

ใช่…ชาวสะพานใหม่ทุกคนพยายามจะลบชื่อ "ชม้อย ทิพย์โส" ออกจากความทรงจำที่เหมือนฝันร้ายของพวกเขาให้หมด แม้แต่ใบสัญญากู้เงินของชม้อยก็ยังไม่อยากเก็บไว้ดูต่างหน้าเลย พอมีบุรุษนิรนามมากว้านซื้อใบสัญญานี้ในราคาใบละ 11,000 บาท ชาวสะพานใหม่หลายคนก็ตัดสินใจขายไปเสียให้พ้นๆ

สำหรับ ชม้อย ก็คงไม่ได้เป็นเทพธิดาชุดขาว ขวัญใจชาวสะพานใหม่อีกต่อไปแล้ว

ที่แน่ๆ นาทีนี้ สะพานใหม่ก็ยังคงสงสัยในใจตลอดเวลาว่า "มันไปพลิกล็อกกันตรงไหน"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us