“ชไนเดอร์ อิเล็คทริค” ตอกย้ำจุดยืนผู้นำด้านการจัดการพลังงานระดับโลก พร้อมเป็นที่ปรึกษาด้านการจัดการพลังงานในระดับนานาชาติเป็นรายแรกของโลก ตามระบบมาตรฐาน ISO 50001 เดินหน้ารุกภาคธุรกิจให้เห็นความสำคัญ

เนลสัน เย็พ ประธานบริษัท ชไนเดอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทีมงานของบริษัทชไนเดอร์ได้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร หัวหน้าผู้ตรวจประเมินด้านการจัดการพลังงานตามระบบมาตรฐาน ISO 50001 จากบูโร เวอริทัส ประเทศไทย และพร้อมเป็นที่ปรึกษา ด้านการจัดการพลังงานภายใต้มาตรฐาน ISO 50001 เป็นรายต้นๆ ของโลก โดยมาตรฐานการจัดการพลังงานนี้จะช่วยให้ทั้งองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนลดค่าใช้จ่ายและพัฒนาศักยภาพของ การใช้พลังงานมากขึ้น

“ชไนเดอร์มีความชำนาญในด้านการบริหารจัดการพลังงาน ระดับโลก และในวันนี้เรามองว่าวิกฤติด้านพลังงานส่งผลกระทบต่อต้นทุนของการดำเนินการขององค์กร ทั้งนี้มาตรฐาน ISO 50001 สามารถพิจารณาการใช้พลังงานตั้งแต่กระบวนการนำวัตถุดิบมาใช้ ไปจนถึงการรีไซเคิล ที่สำคัญองค์กรส่วนใหญ่ไม่สามารถควบคุมในส่วนของราคาพลังงาน นโยบายภาครัฐ หรือเศรษฐกิจของโลกได้ แต่สามารถพัฒนาแนวทางในการจัดการพลังงานได้”

กษพล บวรศรีการ ผู้อำนวยการ ฝ่ายระบบบริหารการจัดการพลังงาน บริษัท ชไนเดอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางบริษัทมีความพร้อม ในการเป็นที่ปรึกษาด้านมาตรฐานการจัดการพลังงาน ด้วยทีมงานที่มีความชำนาญผ่านการทดสอบและประเมินในหลักสูตร “Energy Management Systems (EnMS) Lead Auditor ตามระบบมาตรฐาน ISO 50001 ผนวกกับความชำนาญด้านพลังงาน ในวันนี้บริษัทเราจึงมีความพร้อมในการเป็นที่ปรึกษาด้านการจัดการพลังงานอย่างมีคุณภาพ และมีความพร้อมในการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร

“บริษัทฯ พร้อมจะส่งเสริมให้องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ด้วยมาตรฐาน ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลอย่าง ISO 50001 ซึ่งเป็นระบบจัดการ พลังงานที่สามารถนำไปใช้ได้กับองค์กรทุกขนาดและทุกประเภท และหากองค์กรเป็นโรงงานควบคุม หรืออาคารควบคุมที่มีการจัดทำรายงานการจัดการพลังงานตามพระราชบัญญัติการส่งเสริม การอนุรักษ์พลังงาน ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2550 ด้วยแล้ว การ พัฒนาองค์กรให้ก้าวไปสู่การได้รับการรับรองมาตรฐานสากลจึงไม่ใช่เรื่องยาก อีกทั้งยังเป็นการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย”

สำหรับบริษัท ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัดเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการพลังงานระดับโลกที่มี สาขามากกว่า 100 ประเทศ และได้เสนอวิธีการแก้ปัญหาแบบบูรณาการในตลาดต่างๆ อันได้แก่ การเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ผู้ผลิตเครื่องจักรและอุตสาหกรรม อาคารที่ไม่ได้ใช้เพื่อการอยู่อาศัย ศูนย์ข้อมูล/เครือข่าย รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับที่พักอาศัย โดยมุ่งเน้นเรื่องการใช้พลังงานที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ มีประสิทธิภาพ และรักษาสิ่งแวดล้อม เรามีพนักงานมากกว่า 110,000 คนทั่วโลก ซึ่งสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 20 พันล้านยูโรในปี 2553