ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้น รวมถึงโรคระบาดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในระยะหลัง เป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการซื้อประกันสุขภาพมากขึ้น ผลักดันให้ตลาดประกันสุขภาพเติบโตขึ้น อย่างเช่นบูพาซึ่งเน้นทำตลาดเฉพาะประกันสุขภาพเป็นหลัก ในปีก่อนได้มีการทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น ด้วยการเริ่มออกโฆษณาทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรก จึงทำให้บูพาสามารถขยายฐานลูกค้าทั้งรายบุคคลและรายกลุ่มเพิ่มขึ้น 12% จากปี 2553 มีเบี้ยรับรวมเพิ่มขึ้น 25% และมีผลกำไรเติบโตขึ้น 25% จากปี 2553 ที่มีเบี้ยรับรวม 1,650 ล้านบาท และกำไร 50 ล้านบาท สัดส่วนเบี้ยมาจากลูกค้ารายบุคคล 45% รายกลุ่ม 55%
แอนดริว วอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บูพา ประกันสุขภาพ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้บูพายังคงตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่มีลูกค้าอยู่ 250,000 ราย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนฐานลูกค้าอีก 12% สูงกว่าภาพรวมที่ตลาดที่คาดว่าจะเติบโตเพียง 6-7% โดยปัจจุบันบูพามีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มบริษัทประกันสุขภาพ 60-65% ส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มบริษัทประกันวินาศภัยที่ขายผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ 30-35% หากมองในภาพรวมทุกกลุ่มบริษัทที่ขายประกันสุขภาพบูพามีส่วนแบ่งการตลาดคิดเป็น 6-7%
การเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้ แอนดริวกล่าวว่า จะมาจากการตอกย้ำจุดยืนของบริษัทฯ ให้ตลาดรับรู้ว่าบูพาคือผู้เชี่ยวชาญด้านประกันสุขภาพในไทย รับประกันการต่ออายุการทำประกันของลูกค้ารายบุคคลตลอดชีพ หากซื้อประกันสุขภาพก่อนอายุ 61 ปีไม่ว่าจะมีประวัติการจ่ายค่าสินไหมเป็นอย่างไร โดยจะมีการออกโฆษณาทางโทรทัศน์ชุดใหม่ 2 ชุด เป็นการทำตลาดผ่านช่องทาง DRTV เพื่อนำเสนอจุดเด่นของการซื้อประกันสุขภาพกับบูพา พร้อมกับการขยายทีมงานด้านเทเลมาร์เกตติ้ง เพื่อรองรับจำนวนลูกค้าและการรุกตลาดที่มากขึ้น เพิ่มการทำ Outbound หรือการโทรศัพท์เข้าไปนำเสนอขายกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งจะใช้การว่าจ้างหน่วยงานภายนอก (Outsource) โดยปัจจุบันยอดขายของบูพามาจากช่องทางเทเลมาร์เกตติ้ง 50% และสาขา 50% ล่าสุดบูพาได้เปิดสาขาใหม่ที่บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ชลบุรี ซึ่งเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อปลายปีก่อน ทำให้ปัจจุบันมีสาขารวม 11 แห่งทั่วประเทศ
นอกจากนี้บูพายังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อหาพันธมิตรสถาบันทางการเงิน เพื่อนำแบบประกันสุขภาพเข้าไปขายในช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์อีกทางหนึ่ง ซึ่งจะทำให้บูพามีช่องทางขายที่เพิ่มขึ้น สามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มวิธีการชำระเงินแบบหักบัญชีธนาคารอัตโนมัติ จากปัจจุบันที่มีเฉพาะการผ่อนชำระเบี้ย 0% ผ่านบัตรเครดิตนาน 12 เดือน และเร่งปรับปรุงเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มการขายผ่านช่องทางออนไลน์โดยเจาะกลุ่มลูกค้ารายบุคคล ซึ่งล่าสุดได้เปิดตัวแบบประกันสุขภาพระหว่างการเดินทางแบบใหม่ขายผ่านเว็บไซต์ ซึ่งเป็นช่องทางขายที่สะดวกและได้รับความนิยมจากนักเดินทาง โดยเป็นแบบประกันที่ปรับปรุงใหม่ให้มีเบี้ยต่ำลง มีรูปแบบราคาและความคุ้มครองให้เลือกหลากหลายถึง 5 แผน ได้แก่ อีลิท พารากอน ไทเทเนียม โกลด์พลัส และซิลเวอร์พลัส เจาะกลุ่มผู้ที่เดินทางในระยะสั้น คือ 4-60 วัน เพิ่มความคุ้มครองจากเดิมทุนประกัน 2-3 ล้านบาท เพิ่มเป็นสูงสุด 5 ล้านบาท
ในระยะยาวบูพามีแผนจะใช้เงินลงทุนในไทยเพิ่มเติมอีก 50 ล้านบาทในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ เพิ่มเติมจากเงินลงทุนปรกติในแต่ละปีที่บูพาในไทยได้รับปีละ 20 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบต่างๆ และผลิตภัณฑ์ เช่น จัดทำระบบ E-Claim กับโรงพยาบาลต่างๆ ในเครือข่าย เพื่อลดการใช้กระดาษ ลดขั้นตอนการทำงาน ทำให้สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ขยายสาขาเพิ่มเติม บริการฮอตไลน์ให้คำปรึกษาด้านการดูแลสุขภาพแก่ลูกค้าที่มีเป็นโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็ง ซึ่งการลงทุนระยะยาวนี้ตอกย้ำว่าบูพายังมองเห็นโอกาสการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดประกันสุขภาพในไทย ซึ่งแอนดริวมองว่าบูพาในปีต่อๆ ไปจะยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 25%